“ณัฐพงษ์” จี้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม ก่อนแจกเงินหมื่น

รัฐสภา 19 ก.ย.-“ณัฐพงษ์” สส.ประชาชน จี้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมให้เร็วกว่ากรอบเวลาที่ตั้งไว้ 90 วัน บอกควรจ่ายก่อน 10,000 บาท พร้อมเสนอมาตรการเที่ยวเมืองน้ำลด นำมาลดหย่อนภาษี ด้าน “ธีรรัตน์” แจงแทน นายกฯ รัฐบาลเร่งเยียวยาทุกด้านเร็วที่สุด ส่วน “Cell Broadcast Service” แจ้งเตือนภัย ใช้ได้กลางปี 68

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี เรื่องแนวทางการเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มาตอบกระทู้แทน และได้มอบหมายต่อให้นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้มาตอบแทน


นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าจากการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่ผ่านมา นอกจากลงไปเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ยังรับฟังปัญหารวบรวมข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ส่งผ่านไปยังรัฐบาลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องที่รัฐบาลมีมาตรการยกเว้นค่าน้ำและค่าไฟในเดือนกันยายน และลดค่าน้ำค่าไฟ 30% ในเดือนตุลาคมนั้น แต่ประชาชนอยากได้ขั้นต่ำ 3 เดือนขึ้นไป จึงฝากไปยังรัฐบาลว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่จะขยายกรอบตรงนี้ รวมถึงมาตรการส่งงบประมาณลงไปชดเชยให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขาดรายได้จากการจัดเก็บค่าน้ำประปาตรงนี้หรือไม่

นายณัฐพงษ์ ยังเสนอเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาค่าซ่อมบ้าน ที่รัฐบาลมีจ่ายเงินสูงสุดถึง 230,000 บาท ถ้าประเมินว่าบ้านเสียหายเกิน 70% และอีกส่วนจะจ่ายเงินชดเชยเยียวยา ถ้าท่วม 7-30 วัน จะจ่าย 5,000 บาท หรือถ้าท่วม 60 วันขึ้นไป จะจ่าย 9,000 บาท ซึ่งปัญหาเงินก้อนนี้มีความยุ่งยากซับซ้อน และมีกรอบระยะเวลาภายใน 90 วัน จึงอยากเร่งรัดให้รัฐบาลจ่ายเงินดังกล่าวให้เร็วขึ้น พร้อมเสนอว่า ถ้าพบว่าบ้านหลังใดอยู่ในพื้นที่เหตุอุทกภัยให้จ่ายทันที 10,000 บาทก่อน จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจความเสียหายทีหลังและจ่ายตามจริง


นอกจากนี้ ยังเห็นว่ารัฐบาลสามารถพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการจ่ายเงินเยียวยา โดยอาศัยแผนที่น้ำท่วมจากจิสด้าและข้อมูลทะเบียนบ้าน เพื่อให้ประชาชนกดรับสิทธิ์เงินเยียวยา 10,000 บาททันทีในแอพทางรัฐได้ และขอให้รัฐบาลเจรจาธนาคารทุกภาคส่วนให้พักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ยให้กับประชาชน และเสนอให้ขยายกรอบวงเงินการเยียวยาแก่เกษตรกร และรัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เข้าไปฟื้นฟูทรัพย์สินต่างๆในพื้นที่ และให้ท้องถิ่นสามารถจัดทำนโยบายจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนโดยตรงอีกทางหนึ่ง นอกจากต้องรอรับเงินจากรัฐบาลส่วนกลางเท่านั้น และเสนอให้มีมาตรการ ลดหย่อนภาษี จากการท่องเที่ยวเมืองน้ำลด

”จากการที่รัฐบาลมีมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองนำไปลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะออกมาตรการท่องเที่ยวเมืองน้ำลด หลังจากที่ อ.แม่สาย ได้ฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลับคืนมา และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไปจับจ่ายใช้สอยว่าหากท่องเที่ยวเมืองน้ำลด สามารถลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บาท ถือเป็นมาตรการที่น่าสนใจ“ นายณัฐพงษ์ กล่าว

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรื่องมาตรการค่าน้ำค่าไฟจะมีการปรับตามสถานการณ์ความเป็นจริงได้ ถ้าหากหน้างานดูแล้ว ยังมีความรุนแรงและประชาชนยังฟื้นตัวไม่ได้ ก็สามารถปรับมาตรการต่อๆไปได้ ขอให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลจะแบ่งเบาภาระประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนน้ำที่จะต้องใช้ในการบริโภคและใช้ในการชำระล้างโคลนดินต่างๆ ทางการประปาส่วนภูมิภาคได้ลงไปในพื้นที่ เพื่อผลิตน้ำเพื่อบริโภคให้ประชาชนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย และบริการน้ำที่ใช้ชำระโคลนเช่นกัน


“เรามีความคิดเห็นตรงกันว่าความช่วยเหลือทุกรูปแบบและทุกด้าน คือสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงรวมถึงในอนาคตไม่ว่าจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ต่อจากนี้เราจะมีมาตรการตัวอื่นมารองรับสนับสนุน แบ่งเบาภาระของประชาชนให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด“ นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ส่วนจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณเพิ่มขึ้น เพื่อไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้หรือไม่นั้น เบื้องต้นแต่ละจังหวัดจะมีเงินสำรองการใช้จ่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน 20 ล้านบาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถดำเนินการได้ทันท่วงที จึงอยากให้สบายใจได้ว่ารัฐบาลทำอย่างเต็มที่และทำอย่างเร็วที่สุด ซึ่งกระบวนการจ่ายเงินเยียวยาในกรอบ 90 วัน ยืนยันว่าจะทำให้ได้เร็วกว่านั้นแน่นอน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้ว เมื่อได้ตรวจสอบสิทธิ์อย่างถูกต้อง เงินก็สามารถถึงมือประชาชนได้ทันที ซึ่งนายกรัฐมนตรีกังวลในเรื่องนี้ อยากให้การเยียวยาประชาชนเป็นไปโดยทันการและให้ ประชาชนพึงพอใจอย่างสูงสุดเช่นเดียวกัน

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันทางรัฐ ให้เป็นซุปเปอร์แอป และการที่ให้ประชาชนลงทะเบียนไม่ใช่เพียงเพื่อประโยชน์ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว แต่สามารถใช้ข้อมูลที่มีอยู่นั้นมาช่วยเหลือประชาชนอย่างเร็วที่สุด ถือเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจที่อยากให้ฐานข้อมูลประชากรอยู่ในส่วนนี้ได้ครบ 100% คิดว่าสามารถพัฒนาระบบร่วมกันให้ใช้ประโยชน์ได้ในสถานการณ์นี้ด้วย

”ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยจะมีการสนับสนุนงบประมาณและปัจจัยในการผลิตลงไปถึงประชาชน ในการสนับสนุนพันธุ์พืชไร่พืชสวน จากเหตุน้ำท่วมใหญ่บางครอบครัวอาจจะหมดตัวและไม่เหลืออะไร มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐต้องเข้าไปสนับสนุน และยังมีอีกหลายมาตรการจากหลายกระทรวง“ นายสาวธีรรัตน์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ยังถามถึงมาตรการระยะกลางและระยะยาว ในการลดความเสี่ยงและป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการรับมือกับพายุซูริกในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งคิดว่าต้องมีการจัดทำข้อมูลเปิดด้านน้ำ ทั้งน้ำฝน ว่ามีการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบชลมาตรที่ทั่วถึงหรือไม่ , น้ำท่า ที่ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลน้ำทั้งระบบ และ น้ำเทศ ว่ารัฐบาลได้วางแนวทางการเจรจาพหุภาคีระหว่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่อยู่รอบแม่น้ำโขง ในการบูรณาการข้อมูลน้ำร่วมกันเพื่อการจัดการน้ำทั้งระบบในประเทศกลุ่มนี้แล้วหรือไม่ รวมถึง อยากให้มีการจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเพื่อให้มีระบบการแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางรัฐบาล ได้ดำเนินการในเรื่องของการเตือนภัยกับประชาชน ยกตัวอย่าง สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ มีเครื่องมือครบ และมีสถานีวัดน้ำ ทั้งน้ำฝนที่ตกตกลงมาและน้ำสะสมในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง จึงอยากให้ทุกคนส่งต่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นของหน่วยงานรัฐ ในการแจ้งเตือนได้ทันท่วงที ขณะที่ในช่วงกลางปี 2568 ประชาชนจะได้ใช้ ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน” หรือ “Cell Broadcast” ในการเตือนภัยให้ประชาชน หวังว่าการให้ความชัดเจนในการเตือนภัยที่กำลังหาแนวทางร่วมกัน จะประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุด.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]