“ณัฐพงษ์” จี้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม ก่อนแจกเงินหมื่น

รัฐสภา 19 ก.ย.-“ณัฐพงษ์” สส.ประชาชน จี้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมให้เร็วกว่ากรอบเวลาที่ตั้งไว้ 90 วัน บอกควรจ่ายก่อน 10,000 บาท พร้อมเสนอมาตรการเที่ยวเมืองน้ำลด นำมาลดหย่อนภาษี ด้าน “ธีรรัตน์” แจงแทน นายกฯ รัฐบาลเร่งเยียวยาทุกด้านเร็วที่สุด ส่วน “Cell Broadcast Service” แจ้งเตือนภัย ใช้ได้กลางปี 68

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี เรื่องแนวทางการเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มาตอบกระทู้แทน และได้มอบหมายต่อให้นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้มาตอบแทน


นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าจากการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่ผ่านมา นอกจากลงไปเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ยังรับฟังปัญหารวบรวมข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ส่งผ่านไปยังรัฐบาลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องที่รัฐบาลมีมาตรการยกเว้นค่าน้ำและค่าไฟในเดือนกันยายน และลดค่าน้ำค่าไฟ 30% ในเดือนตุลาคมนั้น แต่ประชาชนอยากได้ขั้นต่ำ 3 เดือนขึ้นไป จึงฝากไปยังรัฐบาลว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่จะขยายกรอบตรงนี้ รวมถึงมาตรการส่งงบประมาณลงไปชดเชยให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขาดรายได้จากการจัดเก็บค่าน้ำประปาตรงนี้หรือไม่

นายณัฐพงษ์ ยังเสนอเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาค่าซ่อมบ้าน ที่รัฐบาลมีจ่ายเงินสูงสุดถึง 230,000 บาท ถ้าประเมินว่าบ้านเสียหายเกิน 70% และอีกส่วนจะจ่ายเงินชดเชยเยียวยา ถ้าท่วม 7-30 วัน จะจ่าย 5,000 บาท หรือถ้าท่วม 60 วันขึ้นไป จะจ่าย 9,000 บาท ซึ่งปัญหาเงินก้อนนี้มีความยุ่งยากซับซ้อน และมีกรอบระยะเวลาภายใน 90 วัน จึงอยากเร่งรัดให้รัฐบาลจ่ายเงินดังกล่าวให้เร็วขึ้น พร้อมเสนอว่า ถ้าพบว่าบ้านหลังใดอยู่ในพื้นที่เหตุอุทกภัยให้จ่ายทันที 10,000 บาทก่อน จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจความเสียหายทีหลังและจ่ายตามจริง


นอกจากนี้ ยังเห็นว่ารัฐบาลสามารถพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการจ่ายเงินเยียวยา โดยอาศัยแผนที่น้ำท่วมจากจิสด้าและข้อมูลทะเบียนบ้าน เพื่อให้ประชาชนกดรับสิทธิ์เงินเยียวยา 10,000 บาททันทีในแอพทางรัฐได้ และขอให้รัฐบาลเจรจาธนาคารทุกภาคส่วนให้พักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ยให้กับประชาชน และเสนอให้ขยายกรอบวงเงินการเยียวยาแก่เกษตรกร และรัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เข้าไปฟื้นฟูทรัพย์สินต่างๆในพื้นที่ และให้ท้องถิ่นสามารถจัดทำนโยบายจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนโดยตรงอีกทางหนึ่ง นอกจากต้องรอรับเงินจากรัฐบาลส่วนกลางเท่านั้น และเสนอให้มีมาตรการ ลดหย่อนภาษี จากการท่องเที่ยวเมืองน้ำลด

”จากการที่รัฐบาลมีมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองนำไปลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะออกมาตรการท่องเที่ยวเมืองน้ำลด หลังจากที่ อ.แม่สาย ได้ฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลับคืนมา และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไปจับจ่ายใช้สอยว่าหากท่องเที่ยวเมืองน้ำลด สามารถลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บาท ถือเป็นมาตรการที่น่าสนใจ“ นายณัฐพงษ์ กล่าว

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรื่องมาตรการค่าน้ำค่าไฟจะมีการปรับตามสถานการณ์ความเป็นจริงได้ ถ้าหากหน้างานดูแล้ว ยังมีความรุนแรงและประชาชนยังฟื้นตัวไม่ได้ ก็สามารถปรับมาตรการต่อๆไปได้ ขอให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลจะแบ่งเบาภาระประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนน้ำที่จะต้องใช้ในการบริโภคและใช้ในการชำระล้างโคลนดินต่างๆ ทางการประปาส่วนภูมิภาคได้ลงไปในพื้นที่ เพื่อผลิตน้ำเพื่อบริโภคให้ประชาชนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย และบริการน้ำที่ใช้ชำระโคลนเช่นกัน


“เรามีความคิดเห็นตรงกันว่าความช่วยเหลือทุกรูปแบบและทุกด้าน คือสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงรวมถึงในอนาคตไม่ว่าจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ต่อจากนี้เราจะมีมาตรการตัวอื่นมารองรับสนับสนุน แบ่งเบาภาระของประชาชนให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด“ นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ส่วนจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณเพิ่มขึ้น เพื่อไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้หรือไม่นั้น เบื้องต้นแต่ละจังหวัดจะมีเงินสำรองการใช้จ่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน 20 ล้านบาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถดำเนินการได้ทันท่วงที จึงอยากให้สบายใจได้ว่ารัฐบาลทำอย่างเต็มที่และทำอย่างเร็วที่สุด ซึ่งกระบวนการจ่ายเงินเยียวยาในกรอบ 90 วัน ยืนยันว่าจะทำให้ได้เร็วกว่านั้นแน่นอน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้ว เมื่อได้ตรวจสอบสิทธิ์อย่างถูกต้อง เงินก็สามารถถึงมือประชาชนได้ทันที ซึ่งนายกรัฐมนตรีกังวลในเรื่องนี้ อยากให้การเยียวยาประชาชนเป็นไปโดยทันการและให้ ประชาชนพึงพอใจอย่างสูงสุดเช่นเดียวกัน

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันทางรัฐ ให้เป็นซุปเปอร์แอป และการที่ให้ประชาชนลงทะเบียนไม่ใช่เพียงเพื่อประโยชน์ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว แต่สามารถใช้ข้อมูลที่มีอยู่นั้นมาช่วยเหลือประชาชนอย่างเร็วที่สุด ถือเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจที่อยากให้ฐานข้อมูลประชากรอยู่ในส่วนนี้ได้ครบ 100% คิดว่าสามารถพัฒนาระบบร่วมกันให้ใช้ประโยชน์ได้ในสถานการณ์นี้ด้วย

”ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยจะมีการสนับสนุนงบประมาณและปัจจัยในการผลิตลงไปถึงประชาชน ในการสนับสนุนพันธุ์พืชไร่พืชสวน จากเหตุน้ำท่วมใหญ่บางครอบครัวอาจจะหมดตัวและไม่เหลืออะไร มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐต้องเข้าไปสนับสนุน และยังมีอีกหลายมาตรการจากหลายกระทรวง“ นายสาวธีรรัตน์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ยังถามถึงมาตรการระยะกลางและระยะยาว ในการลดความเสี่ยงและป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการรับมือกับพายุซูริกในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งคิดว่าต้องมีการจัดทำข้อมูลเปิดด้านน้ำ ทั้งน้ำฝน ว่ามีการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบชลมาตรที่ทั่วถึงหรือไม่ , น้ำท่า ที่ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลน้ำทั้งระบบ และ น้ำเทศ ว่ารัฐบาลได้วางแนวทางการเจรจาพหุภาคีระหว่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่อยู่รอบแม่น้ำโขง ในการบูรณาการข้อมูลน้ำร่วมกันเพื่อการจัดการน้ำทั้งระบบในประเทศกลุ่มนี้แล้วหรือไม่ รวมถึง อยากให้มีการจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเพื่อให้มีระบบการแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางรัฐบาล ได้ดำเนินการในเรื่องของการเตือนภัยกับประชาชน ยกตัวอย่าง สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ มีเครื่องมือครบ และมีสถานีวัดน้ำ ทั้งน้ำฝนที่ตกตกลงมาและน้ำสะสมในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง จึงอยากให้ทุกคนส่งต่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นของหน่วยงานรัฐ ในการแจ้งเตือนได้ทันท่วงที ขณะที่ในช่วงกลางปี 2568 ประชาชนจะได้ใช้ ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน” หรือ “Cell Broadcast” ในการเตือนภัยให้ประชาชน หวังว่าการให้ความชัดเจนในการเตือนภัยที่กำลังหาแนวทางร่วมกัน จะประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุด.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย