กทม. 19 ก.ย.-“อนุทิน” รมว.มหาดไทย ย้ำรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทกภัยอย่างเต็มที่ แนะอยากให้ “สทนช.” รวมเป็นหนึ่งหน่วยงานหลัก ในการรับมือกับปัญหาสถานการณ์น้ำขณะนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศ ว่าจังหวัดที่มีความสุ่มเสี่ยงได้มีการเฝ้าระวัง ประชาชนหลายคนมีความกังวล ในเรื่องของการเตือนภัย โดยเรามีการเตือนภัยมาโดยตลอด และได้เน้นย้ำไปทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เน้นย้ำ ถึงการเตือนภัยในทุกรูปแบบให้มากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ในเรื่องการหลากมาของน้ำป่าและปริมาณฝนที่ตกลงมา เป็นเรื่องของธรรมชาติที่นอกเหนือการควบคุมของเรา
ทั้งนี้ในส่วนของการป้องกันอุทกภัย รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และตนอยากให้หน่วยงาน สำนักจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้เป็นเจ้าภาพเรื่องของการดูแลป้องกันอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรมเพราะ กระทรวงมหาดไทยมีกรมโยธาธิการ และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีหน่วยงาน สทนช. งบประมาณประมาณที่เราได้เสนอขึ้นไปในการป้องกัน ไม่ได้ถูกจัดสรรมาที่กระทรวงมหาดไทย ดังนั้นจึงทำได้เพียงในเรื่องของการบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชน ฉะนั้นคงต้องถึงเวลาที่รัฐบาลมอบหมายให้เป็นนโยบายเร่งด่วน อีกทั้ง ตนจะนำความคิดของไปเสนอในที่ประชุมของรัฐบาล
เมื่อถามว่า หลักเกณฑ์ของผู้ที่ได้รับผลกระทบ จะทำอย่างไรถึงได้รับการเยียวยา นายอนุทิน กล่าวว่า ประการแรก ต้องอยู่ในเขตประสบภัย ประการที่สอง คือ ถูกประสบภัยภายใน 1-7 วัน เป็นต้น ส่วนในเรื่องของความช่วยเหลือ กระทรวงมหาดไทยมีกฏเกณฑ์ที่จะช่วยในเรื่องการลดค่าไฟ ในเดือนกันยายน และเดือนตุลาคมหากยังมีสถานการณ์อุทกภัยอยู่ อีกทั้งจะใช้การฟื้นฟู เช่น โครนที่ต้องใช้น้ำฉีดออกบริเวณบ้าน ซึ่งต้องนำน้ำเหล่านี้ไปบริการ
เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ทาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) มีการแจ้งเตือน 10 จังหวัดภาคกลาง ที่จะมีการระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยามากยิ่งขึ้นทำให้อาจจะมีการท่วมในพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพ ฯ นายอนุทิน กล่าวว่า เราได้มีข้อสั่งการ ให้เฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในเรื่องของการช่วยเหลือ รวมถึงการเตรียมอุปกรณ์ในการช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อม เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก ซึ่งตนอยากให้จบที่การป้องกัน ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลชุดที่แล้วมีอายุสั้นจนเกินไป ไม่สามารถดำเนินนโยบายต่อเนื่องได้ หวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะมุ่งเน้นเรื่องของการ ป้องกันมากขึ้น กระทรวงมหาดไทยพร้อมให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ข้อมูลข่าวสารประชาชนสามารถสื่อสารมายังรัฐบาลได้ หากทุกฝ่ายได้รับข้อมูลข่าวสารพร้อมกัน ก็จะนำข้อมูลมามาเร่งดำเนินการป้องกันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น.-317.-สำนักข่าวไทย