ทำเนียบฯ 18 ก.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” ประชุมมอบนโยบายคณะกรรมการ ป.ป.ส. ยันรัฐบาลให้ความสำคัญแก้ปัญหายาเสพติด บรรจุเป็น 1 ใน 10 เรื่องเร่งด่วน เตรียมขยายผล 25 จังหวัดนำร่อง มุ่งบำบัดให้ผู้ติดยาเสพติดกลับสู่สังคม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 โดยกล่าวเปิดการประชุมว่า วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ได้ประชุมเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากของประเทศ เป็นพื้นฐานพัฒนาเศรษฐกิจต่อไปได้ เพราะเรื่องเศรษฐกิจต้องถูกดูแลอย่างดี หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่ในหลายจังหวัด ได้รับเสียงสะท้อนในเรื่องปัญหายาเสพติด ไม่ว่าจากสส.หรือพี่น้องประชาชนเอง เพราะเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวง ทำลายทั้งสุขภาพจิต และสร้างปัญหาให้กับครอบครัวด้วย ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติด เป็น 1 ใน 10 นโยบายเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ โดยจะขยายผลจากการดำเนินงานของรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้การป้องกันและการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ติดตามตั้งแต่เดือน มิ.ย. – 31 ส.ค. ใน 25 จังหวัดเข้มข้น ที่เราโฟกัสในการแก้ปัญหา มีการวัดผลออกมาแล้ว เห็นได้ชัดถึงการร่วมมือกันอย่างทุ่มเทและจริงใจ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ฝ่ายความมั่นคง หน่วยงานปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการ ป.ป.ส. ที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนก็เพิ่มมากขึ้นใน 25 จังหวัดนี้อย่างเห็นได้ชัด จึงขอฝากขอบคุณทีมงานด้วย และได้ทราบว่า มีการจับกุมผู้ผลิตรายใหญ่ได้หลายราย ทำให้รายเล็กลดลงและถูกจับไปด้วย ประชาชนก็รู้สึกปลอดภัย พึงพอใจมากขึ้น
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้มีการจัดเฟส และขยายจำนวนจังหวัดให้เร็วขึ้น เพื่อจะได้ครอบคลุมทั้งประเทศโดยเร็ว นอกจาก 25 จังหวัดนี้ที่ช่วยได้แล้ว มีอีกหลายจังหวัดขอความช่วยเหลือมา ซึ่งเราต้องทำต่ออย่างเข้มแข็ง อย่างเช่น พื้นที่ที่ทำไว้แล้วเป็นโมเดล เช่น พื้นที่ธวัชบุรีโมเดล จ.ร้อยเอ็ด และท่าวังผาโมเดล จ.น่าน เป็นสิ่งที่ทำและได้ผลมาก เพราะมีการลงไปพูดคุยปัญหาชายแดน ที่จะซีลชายแดน เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาจากประเทศอื่น
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มอบยุทโธปกรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ เช่น ไนท์วิชั่น และรถโฟวิล เพื่อให้การจับกุมมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นเราจะทำให้เรื่องนี้มีการขับเคลื่อนต่อไป และมีการนำบทเรียนที่ทำมาประสบความสำเร็จใน 25 จังหวัดที่ผ่านมา มาทำต่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์จะทำต่อไป และเป็นขั้นตอนทำให้กระบวนการสั้นลงได้ และมีประสิทธิผลมากขึ้น
“ขณะนี้เราพยายามมุ่งเน้นการปราบปราม การบำบัดเยียวยา ตลอดจนทำให้ผู้เสพกลับเข้าสู่สังคมได้และพร้อมประกอบอาชีพ หลังบำบัดหายแล้ว เพราะบางคนที่บำบัดหายแล้ว แต่ไม่มีอาชีพก็กลับสู่วงจรยาเสพติดอีกครั้ง จึงอยากจบปัญหาตรงนี้ให้กับประชาชน”นายกรัฐมนตรี ระบุ .-316 – สำนักข่าวไทย