ทำเนียบฯ 18 ก.ย.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม ประชุม ศปช. นัดแรก ตั้งศูนย์บูรณาการแก้ปัญหาแบบ One Stop Service แก้ไขปัญหารวดเร็ว ยึดประชาชนเป็นหลัก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวาตภัย และดินโคลนถล่มหรือ (ศปช.)ครั้งที่ 1/2567 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 22 หน่วยงาน เข้าร่วม อาทินายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกองทัพ ผู้แทนสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
โดยวาระการประชุมเพื่อพิจารณารูปแบบการจัดตั้งคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม โดยมีหน้าที่ ประมวลสถานการณ์รวมถึง บูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศทรัพยากรน้ำวิเคราะห์สภาพอากาศ เพื่อแจ้งเตือนสร้างการรับรู้นอกจากนั้นยังประสานช่วยเหลือผู้ประสบภัย การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย การเตรียมที่พักอาศัย รวมถึงเชิญบุคคลและหน่วยงานเข้าประชุม เพื่อรายงานต่อศปช.เป็นระยะ รวมถึงรูปแบบ การรายงานผลประชุมติดตามสถานการณ์ สำหรับสถานที่ปฎิบัติงานศูนย์ศปช. จะใช้ชั้น 3 ที่สำนักงาน กพ.เดิม ถนนพิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์ โดยจะจัดตั้งกลุ่มไลน์ในการประสานงาน “กลุ่มประสานงาน ศปช.” นอกจากนั้นจะมีการปรับแนวทาง ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย อาทิแนวทางการจ่ายเงินเยียวยา ตามหลักเกณฑ์เดิม แนวทางการจ่ายเงินเยียวยา ในกรณีพิเศษ มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า จะพิจารณาไม่เก็บค่าไฟฟ้าเดือนกันยายน 2567 และให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 สำหรับค่าไฟเดือนตุลาคม
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องสำคัญเร่งด่วนคือสิ่งที่ประชาชนกำลังประสบภัยพิบัติในภาคเหนือและภาคอีสาน ส่วนหนึ่งคลี่คลายแล้ว แต่กำลังจะมีพายุเข้ามาอีกหนึ่งทางภาคอีสานและเหนือเป็นระดับดีเปรสชั่น สิ่งสำคัญต้องทำเรื่องเก่าที่ค้างให้บรรลุเนื่องจากปัญหาสะสมและรอขั้นตอนการเยียวยา เมื่อเกิดเป็นลลูกโซ่ จึงต้องวางรายละเอียดทิศทางให้ตรงกัน
“หัวใจสำคัญต้องรวดเร็ว และเตรียมการความพร้อมให้ราษฎร หรือประชาชนที่ถูกชี้เป้า และดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว โดยต้องบูรณาการทุกหน่วยงานเพื่อเข้ามาร่วมกับดำเนินการได้ทันที ให้ทุกอย่างเป็น One Stop Service มีหน้าที่ประชุมสั่งการอำนวยการ เพื่อรายงานที่ประชุมใหญ่ให้รับทราบต่อไป.-316.-สำนักข่าวไทย