พปชร.เปิดฉากชำแหละ “ดิจิทัลวอลเล็ต”

พรรคพลังประชารัฐ 17 ก.ย.- พปชร. เปิดฉากฝ่ายค้านนอกสภาฯ​ “สนธิรัตน์​-อุตตม-ธีระชัย” ชำแหละ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็นพายุหมุนหรือฝนหลงฤดู​ เย้ย​ สุดท้ายก็เลือกแจกเป็นเงินสด​ ลั่น​ ไม่อยากเห็นโครงการเรือธง​ กลายเป็นโครงการเรือล่ม​


ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ​ ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานยุทธศาสตร์ด้านวิชาการ ร่วมแถลงข่าวตรวจสอบนโยบายรัฐบาล แถลงต่อรัฐสภา

นายสนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการ กล่าวชำแหละนโยบายรัฐบาลในฐานะฝ่ายค้าน​ ว่า​ วันนี้​ดิจิทัลวอลเล็ตผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว และถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล สิ่งที่เราไม่สบายใจคือโครงการนี้​ เดินอยู่บนความไม่แน่นอนของรัฐบาล​ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการหลายครั้ง จนสุดท้ายตอนนี้มีการแจกเป็นเงินสด​ ซึ่งแตกต่างกับที่หาเสียงไว้ว่าเป็นดิจิทัลวอลเล็ต มีคำถามตามมา ว่า​ เรื่องนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่สิ่งที่เราเห็นด้วยมาตลอด คือการแจกให้กับกลุ่มเปราะบาง​ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่พรรคพลังประชารัฐ​ ใช้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 มันชัดเจนว่า​ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกลายเป็นโครงสร้างหลัก และหวังเป็นอย่างยิ่ง​ ว่า​ จะให้ความสำคัญกับร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย​


นายสนธิรัตน์​ ยังกล่าวต่อว่า​ เรื่องที่รัฐบาลหวัง​ ว่า​ จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ผลักดัน GDP ได้ 0.35 % ต่อปี​ คำถามคือ​ มันจะเป็นพายุหมุน ที่คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไปหรือไม่​ หรือสุดท้ายมันจะเป็นแค่ฝนหลงฤดู สิ่งที่เราจะตรวจสอบต่อไป คือ​ โครงการนี้ลดการเติบโตในด้านอื่นๆหรือไม่

“สุดท้ายด้วยความเป็นห่วงในโครงการนี้​ มีผู้ลงทะเบียนถึง 36 ล้านคน รัฐบาลสัญญาว่าจะดำเนินการให้แน่นอน แต่มันกลับมีเครื่องหมายคำถาม ว่าจะทำอย่างไร​ ทำวิธีใด​และสำคัญที่สุดงบประมาณมันจะมาจากไหน พรรคพลังประชารัฐอยากเห็น โครงการเรือธงของรัฐบาลเป็นโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ได้ ไม่อยากเห็นโครงการเรือธงกลายเป็นโครงการเรือล่ม​ ออกสตาร์ทแค่ปากอ่าว แต่ไปได้ไม่ไกล” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ​ กล่าวถึงโครงการกองทุนรวมวายุภักษ์ ของกระทรวงการคลัง ว่า​ เป็นโครงการที่มีปัญหา​ เฉือดเนื้อคนจนไปแปะให้คนรวย​ เพราะทรัพย์สินของรัฐทั้งหมดเป็นของประชาชนทั้งประเทศ แต่นำไปอุดหนุนให้กับคนที่จะมาร่วมลงทุน แค่หลักพันหลักหมื่น ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ไม่ถูกต้อง ในการที่ขยายขอบเขต กองทุนวายุภักษ์​ จากที่เป็นการระดมทุนในปี 2546 สมัยนายกฯ ทักษิณ​ ชินวัตร​ เป็นการระดมมาเพื่อใช้ในกิจการภาครัฐ แต่ครั้งนี้นอกจากเป็นการเอามาลงในหุ้นตลาดหลักทรัพย์​ ยังนำไปลงทุนหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์​ ทั้งในเรื่องทองคำ​ น้ำ​มันดิบ​ สินค้าโภคภัณฑ์​ หุ้นกู้​ขยะ​ หากอยู่ในวงการพระ อาจเรียกได้ว่า “ไม่ใช่กิจของสงฆ์​” เพราะไม่ใช่วัตถุประสงค์ และอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ตนมองว่าเกินเลย


นอกจากนี้ หนังสือเชื้อชวนให้ลงทุน แม้จะมีการบอกว่าไม่รับประกัน แต่คนที่อ่านกฎหมายเป็นจะบอกได้เลยว่า มีผลของการประกัน ทั้งในเรื่องของผลตอบแทน และการประกันเงินต้นโดยอัตโนมัติ เพราะกองทุนนี้มีกำไรสะสมอยู่แล้ว 1.4 แสนล้านบาท​ ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน เพราะกำไรสะสม 1.4 แสนล้าน และทรัพย์สินที่มีอยู่ 3.5 แสนล้านเป็นของภาครัฐ ที่กระทรวงการคลังถือแทนประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งถ้าเป็นเงินข้าราชการ ​กบข. ก็ถือหลักผลประโยชน์แทนข้าราชการที่เป็นสมาชิก

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย ซึ่งคนที่ดำเนินการอ้างว่า ทำได้เนื่องจากมีมติ ครม. กำกับเอาไว้ ซึ่งตนกังวลแทนเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง ที่เป็นลูกน้องเก่าของตน ต้องเข้าใจว่า กบข. หรือกองทุนประกันสังคม เขามีกฎหมายเฉพาะ แต่มติ ครม. ไม่มีอำนาจเหมือนทั้ง​ 2 กองทุนข้างต้น​ที่มีเงิน​ ซึ่งจะต้องไปขออนุญาตจากทาง กบข. และกองทุนประกันสังคม เนื่องจากเป็นหน่วยลงทุนรายใหญ่​ ครม.ไม่มีอำนาจดำเนินการนอกเหนือจากกฎหมายที่ตั้ง 2 กองทุนนี้

ขณะเดียวกัน เงินของ กบข. และกองทุนประกันสังคม ที่อยู่ในกระทรวงการคลัง ถือว่าเป็นเงินของแผ่นดิน การใช้เงินแผ่นดินจะต้องทำเป็นกฎหมาย อยู่ดีๆจะนำเงินไปมอบให้กับผู้จัดการกองทุน ไปแจก หรือนำไปอุดหนุน หรือชดเชยเพื่อคุ้มครองเงินต้น ถือว่าไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การใช้เงินแผ่นดินมีรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ที่จะต้องออกเป็นกฎหมายผ่านรัฐสภาเท่านั้น

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ปัญหาทั้งหมดได้ทำเป็นจดหมายเปิดผนึก ส่งถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบไปแล้วถึง 4 ฉบับ หากเห็นด้วยกับตนว่ามีปัญหา เสี่ยงกับการผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรีจะต้องมีปฏิกิริยา ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกันนี้ยังทำจดหมายอย่างเป็นทางการแจ้งไปยังประธานคณะกรรมการ กบข. และเลขาธิการกองทุนประกันสังคม ให้รับทราบแล้ว ทุกคนมีหน้าที่ต้องดูแลตัวเอง

ด้าน นายอุตตม สาวนายน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับรัฐบาลที่กำหนดการแก้หนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนลำดับแรกของคณะรัฐมนตรี แต่ก็มีข้อเสนอแนะว่า การแก้หนี้ให้บรรลุผลนั้น ต้องทำครบวงจร เช่น รัฐบาลต้องผนึกธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินเอกชน/รัฐ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างยืนในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน เติมกำลังให้ประชาชนและเศรษฐกิจ สร้างอนาคตประเทศ ทั้งนี้ โครงการที่ทำต้องเข้าถึงประชาชนฐานรากทั่วทั้งประเทศ บริการเสมอภาคเป็นธรรม พร้อมทั้งมีการนำเทคโนโลยีมาร่วมขับเคลื่อน

“รัฐมนตรีคลัง ควรหารือกับ ธปท. ถึงแนวทางการลดเงินที่เก็บเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) เหลือ 0.23% ต่อ 6 เดือน ชั่วคราว 5 ปี เพื่อนำเงินที่ประหยัดได้ไปลดยอดหนี้ (haircut) สำหรับลูกหนี้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/เดือน และต้องเจรจาให้ธนาคารต้องนำกำไรสะสมมาร่วมด้วยไม่น้อยกว่า 25% ของหนี้ที่ลดให้แก่ลูกหนี้ อันเป็นการร่วมมือกันแก้ปัญหาระหว่างรัฐกับเอกชน” นายอุตตม  กล่าว

พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค กล่าวว่า ถ้าพายุหมุนสามลูกหมุนได้สามรอบจริงๆ เหมือนที่รัฐบาลได้โฆษณาไว้ตั้งแต่แรก ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์และมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล 3 บริษัทหลักๆ มีอักษรย่อแต่ละบริษัทคือ B M X ซึ่งรายละเอียดต้องติดตามในสัปดาห์ต่อไป.-315 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย