นายกฯ รับฟังแถลงผลการศึกษานักศึกษา วปอ.รุ่น66

สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ 17 ก.ย.- นายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟังการแถลงผลการศึกษานักศึกษา วปอ.รุ่น66 ชี้ ข้อเสนอแนะตรงกับนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ออกตัวบอกเป็นรุ่นน้อง วปอ.บอ.รุ่น1 ชม กองทัพเป็นที่พึ่งของประชาชนยามสงบ-น้ำท่วมทหารมาช่วย ยามศึกก็อยู่แถวหน้า ระบุ งานใหญ่ของประเทศไม่สามารถทำได้ด้วยองค์กรเดียว ต้องประสานพลังความร่วมมือทุกภาคส่วน มอง วาระการเมืองมีเวลาจำกัดยอยากทำนโยบายให้สำเร็จในหนึ่งรัฐบาล


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร (วสท.) รุ่นที่ 65 วิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) รุ่นที่ 69 วิทยาลัยการทัพเรือ (วทร.) รุ่นที่ 56 และวิทยาลัยการทัพอากาศ (วทอ.) รุ่นที่ 58

ภายหลังการ เข้าร่วมรับฟังการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดิฉันแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรุ่นน้อง วปอ.บอ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรหลักสูตรผู้บริหารแห่งอนาคต รุ่นที่ 1 วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มีโอกาสมารับฟังผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร นักศึกษาเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยทัพเรือและวิทยาลัยกองทัพอากาศ


ในวันนี้ข้อเสนอการพัฒนาประเทศ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่ Thailand next ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 66 จากการรับฟังมาจากทุกท่าน ที่รายงานนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ตรงกับนโยบายของรัฐบาล ที่เพิ่งแถลงต่อรัฐสภาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แปลความท้าทายต่างๆที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ให้เปลี่ยนเป็นโอกาส เป็นข้อเสนอที่ดิฉันและคณะรัฐมนตรีที่มาวันนี้ได้รับฟัง รู้สึกเป็นประโยชน์มากๆและมีหลายๆอย่างที่ได้รับฟังแล้วถึงกับต้องจดตามไปด้วยเพราะเป็นข้อเสนอแนะและข้อแนะนำที่เกิดประโยชน์อย่างมาก แน่นอนโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะสถาบันไหนองค์การไหนก็จะต้องเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นกำลังเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นยุคต่างๆอย่างการเรียนการศึกษาที่เมื่อก่อนเคยเน้นในเรื่องของโค้ชชิ่ง พอเวลาผ่านมาสักพักโค้ชชิ่งสำคัญน้อยลง AI สำคัญมากขึ้น สิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและเราเองก็ต้องเตรียมความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในทุกวัน

สำหรับข้อเสนอนักศึกษาวิทยาลัยป้องกัน ร่างอนาคตเปลี่ยนแปลงใน 4 มิติ ซึ่งประกอบด้วย อันแรกคือการซ่อมรากฐานลงทุน เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ พัฒนาคุณภาพการศึกษาพัฒนาระบบน้ำท่วม น้ำแล้งทั้งประเทศ รวมไปถึงประสานพลังภาคเอกชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ อันนี้จะเป็นสิ่งที่เราสามารถสัมผัสได้ เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังน้ำท่วมและเราได้รับความร่วมมือความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ตรงนี้ถือเป็นกำลังสำคัญอย่างมาก ซึ่งทางกองทัพเอง หรือ ผบ.สส. รัฐมนตรีทุกท่านที่ช่วยกัน อันนี้อย่างที่เคยได้พูด
งานใหญ่ของประเทศคงไม่สามารถใช้องค์กรใด องค์กรหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่งที่จะทำให้สิ่งสำคัญเหล่านี้ประสบความสำเร็จ ได้จะต้องใช้ความร่วมมือประสานพลังจากทุกคน ทุกภาคส่วน เพื่อให้ประสบความสำเร็จและสุดท้ายแล้วประโยชน์ทั้งหลายจะตกอยู่กับพี่น้องประชาชน

ส่วนเรื่องการผลัดใบทางเศรษฐกิจมุ่งสร้างเศรษฐกิจที่อยู่ดีมีสุขหรือใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ผ่านความคิดนโยบายในเรื่องของ Open Thailand นำองค์กรความรู้สากลมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศ วางรากฐานของประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและรับมือกับปัญหาโลกใบพร้อมกัน ซึ่งนักนักศึกษาได้เสนอ เรื่องการลงทุนที่มี ลดลงรัฐบาลสนับสนุนให้เกิดมากขึ้นให้ได้ โดยมีการพูดคุยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พัฒนาเศรษฐกิจไปด้วยกัน พร้อมพัฒนาระบบของราชการสร้าง Digital Government อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลเราสนับสนุนเป็นอย่างมาก เพราะเราต้องการที่จะให้ภาครัฐมีการลดขนาดและลดขั้นตอนต่างๆลง ซึ่งจริงๆเรามีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการทำ one stop service เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการของภาครัฐได้อย่างรวดเร็วและสะดวก ซึ่งตอนนี้ตนเองได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานเรื่องน้ำท่วม ได้คุยกับคณะรัฐมนตรีโดยอยากให้ปรับในเรื่องของเอกสารต่างๆที่ประชาชนจะได้รับการเยียวยาผ่านเอกสาร ราชการมากมาย ย้ำในเรื่องนี้อย่างมาก


สำหรับการส่งเสริมกองทัพรองรับความท้าทายพัฒนาสู่การเป็นกองทัพที่ทันสมัยเท่าทันเทคโนโลยีพร้อมผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทั้งหมดนี้มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งที่ผ่านมามีนโยบายทั้งเร่งด่วนที่ต้องแก้ทันที และนโยบายระยะกลาง นโยบายระยะยาว แนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 66 นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำงานของรัฐบาลต่อไปในอนาคต

ในส่วนของวิทยาลัยเสนาธิการทั้ง 3 เหล่าทัพ แนวคิดการพัฒนากองทัพเพื่อให้เป็นวันทีมทัพไทยด้วยแนวคิดปฏิบัติการหลายมิติสร้างวิธีคิดยืดหยุ่นปรับตัวให้ทันกับโลกยุคปัจจุบันและพร้อมนำเทคโนโลยีทางทหารมาประยุกต์ใช้ ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานทำให้กองทัพเป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทยอย่างแท้จริง คิดว่าช่วงที่ผ่านมาได้เห็นแล้วว่ากองทัพเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง และได้เสียงตอบรับจากประชาชนดีมาก ซึ่งเคยมีคำที่พูดว่า ยามสงบเราก็ได้กองทัพมาช่วยปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม ภัยต่างๆที่พี่น้องประชาชนเจอ ยามที่มีศึกท่านก็อยู่แถวหน้า อันนี้ก็อยากทำให้การเข้าใกล้ประชาชนกับกองทัพมีการลดช่องว่างระหว่างกัน เพื่อการประสานงานและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไปในอนาคต

“ในเรื่องตำแหน่งการเมืองเองเรามีวาระตามการเมืองและมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาในการทำงานมันมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทำให้การแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องเป็นโจทย์ที่ท้าทายและสำคัญมากที่เราจะสามารถทำนโยบายเริ่มต้นจนจบให้ได้ใน 1 รัฐบาล อันนี้เป็นความท้าทายแต่แน่นอนด้วยเวลาที่มีเราพยายามเร่งทำนโยบายทุกอย่างให้สำเร็จให้ได้เพื่อผลประโยชน์อยู่ที่พี่น้องประชาชน เราจะได้รู้สึกว่ารัฐบาลเรามีความเข้มแข็งและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในวันนี้นะคะ ดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรีอยากขอโอกาสทุกท่านได้ประสานพลังทุกท่านมีทั้งข้าราชการภาคเอกชน นักการเมืองและอีกหลายภาคส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยการพัฒนาประเทศ เราทุกคนมาร่วมมือกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดมีข้อแนะนำซึ่งกันและกัน อย่างวันนี้เป็นเรื่องที่ดีมากๆที่รัฐบาลจะได้รับฟังและนำไปปรับใช้และมาร่วมทำให้ประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่มีโอกาสเป็นประเทศที่คนไทยทุกคนกล้ามีความหวังเป็นประเทศพื้นที่แห่งโอกาสทำให้ทุกคนภูมิใจในประเทศไทยและทำให้ประเทศไทยมีอนาคตที่ดีกว่าเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงอนาคตข้างหน้า“ นายกรัฐมนตรี ระบุ .-316 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]