ทำเนียบ 16 ก.ย.- นายกฯ เผยตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม “ภูมิธรรม” นั่งประธาน ประชุมนัดแรกพุธนี้ เล็งออกมาตรการไม่เก็บค่าน้ำ-ค่าไฟพื้นที่ประสบภัยทั้งเดือน ก.ย. ส่วน ต.ค. ลดให้ 30% ยืนยันเร่งจ่ายเยียวยาซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนเร็วที่สุด พร้อมสั่งทบทวนกรอบช่วยเหลือให้เร็วและเหมาะสม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ว่า ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองประธาน และมีคณะกรรมการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทุกด้านให้ครบถ้วน เพื่อแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที หากมีปัญหาหรือต้องเยียวยาสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วจึงจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และมีคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ คอส.ที่จะต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง และการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อให้มาพูดคุยกันว่าตรงไหนเจอปัญหาอะไรบ้าง จะได้ดำเนินการให้รวดเร็วชัดเจน ซึ่งคณะกรรมการฯ ชุดนี้จะดำเนินการไปจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย
ส่วนสถานการณ์น้ำที่จังหวัดหนองคายและภาคอีสาน นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น้ำเริ่มมาทางอีสาน แต่ทั่วไปแล้วปริมาณน้ำไม่ได้กระทบก็ทำให้น้ำมีปริมาณที่ลดลง และจังหวัดต่างๆ ที่ได้รับรายงานจากกรมชลประทานและกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าระดับน้ำกำลังลดลงเรื่อยๆ หรือจังหวัดไหนที่ต้องผันน้ำเข้าจังหวัดนั้นต้องประสานและแจ้งให้ประชาชนทราบก่อน จะได้เตรียมความพร้อมถึงเรื่องการเคลื่อนย้ายและเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ซึ่งได้กำชับในที่ประชุมแล้วว่าต้องมีการแจ้งล่วงหน้าหลายวัน ส่วนจังหวัดที่ถูกน้ำท่วมไปแล้วประมาณ 3 วันนี้ทุกอย่างก็น่าจะจบลง การฟื้นฟูแผนต่างๆ ก็พยายามทำให้กลับสู่สภาพปกติเร็วที่สุด
ส่วนเรื่องการเยียวยาที่ไม่ต้องการให้เน้นกรอบวันที่ถูกน้ำท่วม แต่ให้เป็นไปตามความเสียหาย นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องมาดูเรื่องของรายละเอียดอีกทีว่าจะสามารถปรับอะไรได้บ้าง แต่ประเด็นตอนนี้คือความรวดเร็วในการเยียวยาประชาชน ซึ่งก็ได้คุยหลายฝ่ายว่าความรวดเร็วต้องมีแต่กรอบเดิมก็ต้องมีอยู่ จึงต้องใช้กรอบการเยียวยาเดิมไปก่อน เพราะหากต้องรอกรอบการเยียวยาใหม่จะต้องใช้เวลาซึ่งได้พูดคุยกับกระทรวงมหาดไทยไว้ว่าจะมีการเวฟค่าไฟ (ยกเว้นค่าธรรมเนียม) ในเดือนกันยายน ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และในเดือนตุลาคม สามารถลดได้อีก 30% แต่อันนี้เป็นการตั้งไว้ หากเหตุการณ์น้ำท่วมยาวกว่านั้นก็สามารถเพิ่มเติมตรงนี้ได้อีกแต่จะทำแบบนี้เพื่อซัพพอร์ต ประชาชนเป็นการเยียวยาที่เร่งด่วน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องของการซ่อมบ้านให้กับผู้ประสบภัยได้พูดคุยกับกองทัพแล้วมีการระดมกำลังอย่างเต็มที่แต่ยังมีปัญหาเรื่องกำลังพลไม่พอ จึงคุยกับกระทรวงศึกษาธิการให้ใช้ทีมอาชีวะในแต่ละจังหวัดระดมคนเข้ามาช่วยเพื่อจะให้ความเสียหายถูกซ่อมแซมเร็วที่สุดความเสียหายจะได้ไม่ยาวต่อเนื่องไป
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดหนองคาย นั้นลดลงแล้วและทยอยลดลง ส่วนประเทศจีนมีการปล่อยน้ำปกติไม่ได้มีส่วนทำให้น้ำท่วมเพิ่มเติม
ส่วนของแม่น้ำโขงปลายน้ำจะลงที่อุบลราชธานีก่อนที่จะไปสปป.ลาวมีการเตรียมความพร้อมจังหวัดอีสานตอนล่างเพื่อรองรับน้ำ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการแจ้งให้ทุกจังหวัดทราบแล้ว ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ก็เข้าไปในพื้นที่แล้ว มีการเตรียมอุปกรณ์ไว้พร้อมแล้วและไม่ต้องเป็นห่วง ในส่วนของกรุงเทพฯ มีความสามารถในการรับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีมากพอ เพราะฉะนั้นกรุงเทพฯ ก็จะไม่ท่วม
นายกฯ กล่าวว่าในส่วนของการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้นเป็นการใช้งบประมาณตามกรอบเดิมโดยไม่ต้องเสนอให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณา แต่อาจเสนอเพิ่มเติมได้เลยได้ค่าเยียวยาแค่ 3 วัน แต่ 3 วันมันน้อยเหลือเกิน ซึ่งเกิดความเสียหายมากต้องมาดูในรายละเอียดว่าปรับอะไรได้บ้าง
ส่วนยอดค่าใช้จ่ายในการเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมมีอยู่หลายหมวด รวมแล้วกว่า 230,000 บาท มีงบกลางที่เราสำรองไว้สำหรับแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วย
ด้านนายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า เราทำตามกรอบเดิมทุกอย่างแต่แก้ปัญหาด้วยหัวใจสำคัญคือเรื่องความเร็ว เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ผ่านมากว่าจะได้เป็นหลายเดือนหรือเป็นปี ฉะนั้นครั้งนี้จะจัดการไปเลย ส่วนจะให้เยียวยามากขึ้นกว่านี้อาจจะพิจารณาตามหลัง โดยคณะกรรมการที่นายกฯตั้งขึ้นจะมีการประชุมนัดแรกวันพุธนี้ (18 ก.ย.) ทั้งสำนักงบประมาณ สำนักงานกฤษฎีกาและสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องจะประเมินร่วมกันและออกมาเป็นข้อสรุปพร้อมไทม์ไลน์ ซึ่งขณะนี้เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามี 2 ประเด็น คือการส่งกำลังทั้งหมดเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดอุทกภัยโดยเร็วและอีกส่วนหนึ่งคือการเยียวยาตามหลังมาเพื่อให้ทุกอย่างประมาณต้นเดือนตุลาคมเข้าสู่ภาวะปกติทันที และต้องดำเนินการควบคุมกันไป ซึ่งขณะที่ทำงานจะดูหน้างานสรุปทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาต่อไปไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายคณะกรรมการ จากนี้จะมีการพูดคุยลงรายละเอียดและเสนอรายงานต่อนายกฯเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ช่องทางการเยียวยาจะใช้รูปแบบเดิมที่มีอยู่แล้วแต่จะสามารถพิจารณาเพิ่มเติมอีกหากมีการเยียวยาได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นโจทย์ที่นายกฯ ได้มอบให้ ศูนย์ป้องกันและแก้ปัญหาการช่วยเหลือน้ำท่วม ซึ่งกรอบการเยียวยาเดิมค่าเยียวยาอาจจะน้อย แต่หากจะปรับ เกรงว่าจะล่าช้าจึงขอให้รีบจ่ายเยียวยาให้เร็วที่สุดไปก่อน ตามวาระปกติของหน่วยงานต่างๆ ทำได้อยู่แล้ว ซึ่งจะมีการขอเบิกจ่ายงบกลางที่นายกฯ เปิดให้แล้ว ซึ่งในรายละเอียดจะพูดคุยกันในวันพุธอีกครั้ง
ขณะที่นายกรัฐมนตนี กล่าวอีกว่า ได้ให้คณะกรรมการ ศปช.ที่ตั้งใหม่เป็นผู้พิจารณาว่านายกรัฐมนตรี ควรจะลงไปตรวจพื้นที่ใดบ้างดูความเหมาะสมเรื่องหน้างานว่ามีความพร้อมหรือไม่ แต่ถ้าไปได้ก็ไปอยู่แล้ว เช่นที่ผ่านมา นายอนุทิน ได้ลงพื้นที่ไปดูที่จังหวัดหนองคายไปก่อนเลย และหลายที่นายกฯ ก็จะมอบหมายให้กับรองนายกฯ ทั้ง 4 คน ให้ลงไปช่วยกันดูแลและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง .-316 – สำนักข่าวไทย