“ธีรรัตน์” ตอบกระทู้ สว. แจงเยียวยาน้ำท่วม

รัฐสภา 16 ก.ย.-“ธีรรัตน์” รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้ สว.ด้วยวาจา แจงเยียวยาน้ำท่วมทุกด้านเร่งด่วน ส่งเครื่องมือ-สรรพกำลังลงพื้นที่ เพิ่มงบจังหวัดเป็น 100 ล้านบาท เล็งลดค่าน้ำ-ไฟ อาจไม่ต้องจ่าย ใช้แอปลงทะเบียนรับสิทธิ์เยียวยา พร้อมมีมาตรการแก้ปัญหาระยะยาว

การประชุมวุฒิสภาวันนี้ (16 ก.ย.) มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามด้วยวาจา ที่ถามโดยนาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. ถามถึงมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมอย่างไร จะฟื้นฟูเยียวยาเมื่อไหร่ กี่โมงจึงจะได้ การทำความสะอาดบ้านล้างโคลนถนนหนทาง จะได้รับการช่วยเหลืออย่างไร เครื่องมือหนัก จะได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดข้างเคียงพอเพียงหรือไม่ จึงอยาก ให้จังหวัดที่มีอุปกรณ์เหล่านี้รวมทั้งบุคลากรเข้าไปช่วยสนับสนุนแต่ขณะนี้ยังไม่เห็นคำสั่ง มีแต่คำสั่งด้วยวาจา และจะมีมาตรการเยียวยาเมื่อไหร่อย่างไร รวมทั้งเสนอว่าควรที่จะงดการเก็บค่า น้ำค่าไฟ
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตอบกระทู้แทน กล่าวว่ารัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ และรู้ว่าความเดือดร้อนทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนคือหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรีบดำเนินการให้สถานการณ์นั้นกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด เราทราบข่าว ในเรื่องของฝนมาพายุมา มรสุมมา ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นจากประเทศเพื่อนบ้าน และฝนที่ตกหนักในภาคเหนือของไทย และเราได้ดำเนินการทุกช่องทางในการเตือนภัยให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ แต่จากภาพที่เราเห็นน้ำมาเร็วิ มาแรง และมาเป็นจำนวนมากจริงๆ แต่ไม่ ได้ ทำให้เราท้อถอยได้ เรายังคงเตรียมการซักซ้อมในพื้นทื่โดยรอบและพื้นที่ที่น้ำจะไปถึง และเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ไปที่ด่านแม่สายและเห็นว่าในพื้นที่มีความเสียหายมาก และสภาพโคลนที่มีความหนา แค่บนถนนที่ทำการชะล้างแล้วยังสูงถึงประมาณ 1 ฟุต ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น วันนั้นน้ำยังมีปริมาณที่มาก ที่สูงและแรง พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่รายรอบมีกำลังใจที่ดี เมื่อได้เห็นการทำงานของทางภาครัฐที่เดินทางเข้าไป ต่างเข้ามาโผกอดและ ส่งมอบ กำลังใจให้กัน และสร้างความเชื่อมั่นว่า เรา จะไม่ทิ้งพวกเขาแน่นอน เรื่องการเยียวยาและชะล้างโคลน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการโดยเร่งด่วน ไม่ได้เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงที่มีเครื่องมือเครื่องไม้ที่มีสรรพกำลังให้ลงไปช่วยเหลือกัน เช่นในส่วนของกระทรวงกลาโหม โดยรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ส่งหน่วยงานทั้งกองทัพภาค 3 และหลายหน่วยงานเข้าไประดมกำลังในพื้นที่ โดยจะเห็นภาพชัดเจนว่า กำลังทหารทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ ต่างเอาเครื่องมือที่มีอยู่ลงไปช่วยเหลือกัน มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเห็นว่าพี่น้องประชาชน ทั้งที่ติดอยู่ในชั้น 2 และไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาได้ ก็ลำเลียงเครื่องมือเข้าไปในที่เกิดเหตุมีการขนย้ายผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง เด็กเล็กออกมาจากพื้นที่เกิดเหตุ โดยปลอดภัย


สำหรับการทำความสะอาดพื้นที่หลังน้ำลดนั้น นส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า การทำความสะอาดครั้งเดียวไม่เพียงพอ เรายังมีการตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพราะภาพที่เห็นจะเห็นโคลนสูงไปถึงชั้นสอง ดังนั้นการทำความสะอาดครั้งเดียวไม่เพียงพอจึงต้องลงไปดูแลและช่วยจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ทางกองกำลังจึงจะถอนกลับมา โดยบ้านใดที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ก็จะถอนกำลังไปช่วยที่อื่น แต่ถ้าบ้านใดที่มีสมาชิกไม่เพียงพอ ก็สามารถร้องขอมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทันที หรือทางช่องทางฮอตไลน์ต่าง ๆ ในการส่งข้อมูลข่าวสาร ซึ่งตนได้รับการติดต่อจากหน่วยกู้ภัยที่ลงไปในพื้นที่ว่ายังขาดเครื่องมือไปจุดนั้น จุดนี้ เมื่อได้รับเรื่องมาก็ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือดำเนินการต่อ นี่คือการดำเนินการอย่างเหมาะสมและรวดเร็วเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการดูแล ถือว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ เอกชน จิตอาสาและทุกภาคส่วน

นางสาวธีรารัตน์ กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ลงไปดูแลในพื้นที่หนองคาย เพราะน้ำจะลงไปทางร่องน้ำโขง พี่น้องประชาชนลุ่มน้ำโขงจะได้รับผลกระทบ จึงไปเยี่ยมที่ศูนย์อพยพผู้พักพิงมีการนำอาหารเครื่องดื่ม เครื่องผลิตน้ำประปาลงไป และมีดำริในเรื่องของการป้องกันโจรขโมยที่ขณะนี้พี่น้องประชาชนไม่กล้าย้ายออกจากบ้านเพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน จึงได้นำเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวณ ลงไปดูแลความปลอดภัยและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้ขอให้ประชาชนรักษาชีวิตของท่านไว้และในส่วนการเยียวยารัฐ การฟื้นฟู การซ่อมแซมบ้านเรือนต่างๆ รัฐจะจะช่วยเหลือเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ จะต้องออกให้ทันเหตุการณ์ ซึ่งในวันนี้ทุกคนลงไปแบบไม่ได้คิดถึงว่าจะได้รับอะไรตอบแทนมาบ้าง แต่ขอให้ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่เราจะไม่ละเลย และต้องสนับสนุนขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่หน้างานอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่ทางอาสาสมัครที่ลงไปช่วยพี่น้องประชาชน และระหว่างทางเดินทางกลับที่พักได้ประสบอุบัติเหตุ เราขอแสดงความเสียใจ และได้รับรู้ว่าคือเขาคือผู้เสียสละ และจะมีการให้ขวัญและกำลังใจกับครอบครัวของเขาด้วย ในสิ่งเหล่านี้รัฐบาลได้รับทราบ


ส่วนค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์ค่าใช้จ่ายต่างๆให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้น นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่าเมื่อวานได้มีการประชุมกันที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ปภ. ซึ่งเป็นผู้มีภารกิจดูแลสาธารณูปโภคให้กับพี่น้องประชาชนด้วย ก็มีการตั้งโจทย์ไว้ในเรื่องของการแบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชนด้วย ถ้าเป็นไปได้ไม่จำกัดในเรื่องของข้อระเบียบหรือข้อบังคับใดๆก็ขอให้รลดจนไม่ต้องจ่ายเลยในช่วงนี้ให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นการแบ่งเบาให้ได้มากที่สุด และขั้นตอนต่อไป จะนำเข้าครม.เพื่อขอความเห็นชอบ ซึงจะต้องคำนึงถึงระเบียบข้อบังคับต่างๆให้เป็นไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง

ส่วนการเยียวยาผู้ประสบภัย ตนได้รับทราบว่าในวันนี้การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหรือผลกระทบจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในระยะแรกจะใช้จ่ายจากเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอยู่จำนวนหนึ่ง ทุกจังหวัดใช้เวลาในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ที่ 20 ล้านบาท เรามีในส่วนนี้ที่จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดำเนินการร่วมกัน หากไม่เพียงพอหรือเกินขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดจะสามารถจ่ายเงินทดลองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังได้เลยว่าด้วยเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินพ.ศ 2562 และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกจังหวัดได้วงเงินขั้นต้น ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้ เราได้รับทราบว่ากรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้จังหวัดที่ประสบภัยในภาคเหนือแล้วเพิ่มขึ้นเป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาทก็ถือว่าเป็นการทำงานที่รวดเร็วและไม่มีการกระจุกตัวอยู่แค่ส่วนกลางเท่านั้นแต่เรากระจายอำนาจให้หน้างานสามารถที่จะตัดสินใจ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้โดยเร็วที่สุด

นางสาวธีรรัตน์ ย้ำว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจได้ตั้งศูนย์บัญชาการซึ่งจะมีการประชุมกันในบ่ายวันนี้ด้วยจะมีการนำรวมกำลังของนายกรัฐมนตรีทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะร่วมกันทำงานและวันนี้ มีการตั้งศูนย์กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ปภแล้วจะทำให้การรับรู้ข้อมูลและการส่งต่อข้อมูลการสื่อสารต่างๆเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีเอกภาพในทิศทางเดียวกัน ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยต่างๆลงไปเป็นจำนวนมากเราจะเห็นภาพชุลมุนวุ่นวายแต่เราจะเห็นจิตใจและความเสียสละของทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือจริงๆใครทำอะไรได้ทำก่อนช่วยเหลืออะไรได้ช่วยก่อนซึ่งถือเป็นค่านิยมที่ดีของประเทศไทยของเราที่มีสืบต่อกันมาทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ เราจะได้เห็นการรวมใจช่วยกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเสมอ


นส.ธีรรัตน์ ยังนำเสนอขอสรุปถึงการสั่งการของนายกรัฐมนตรีผ่านไปยังกระทรวงต่างๆที่อยู่ในกำกับได้ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ว่า ส่วนแรกอย่างที่ได้รับทราบว่าน้ำที่มาจำนวนมากส่วนหนึ่งมาจากจากต่างประเทศด้วย จึงมีแผนที่จะเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเมียนมาโดยทำงาน ร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ซึ่งตอนที่เดินทางไปแม่สายยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้ช่วยเหลือพี่น้องชาวเมียนมาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม และการที่ต้องขยายพื้นที่รับน้ำ ระหว่างสองประเทศ เพราะในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก เราจึงต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือ โดยกระทรวงการต่างประเทศกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยจะร่วมมือในการทำงาน เร่งพิสูจน์สัญชาติ ผู้ประสบภัย เพื่อที่จะให้ได้รับเงินเยียวยายังทั่วถึง การเร่งซ่อมแซมสะพานที่ขาดและชำรุด ดูในเรื่องการเดินทางของพี่น้องประชาชนให้สามารถเดินทางติดต่อการได้อย่างปลอดภัย การควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน การหามาตรการที่เร่งด่วนเพื่อเตือนภัยแก่ประชาชนและผลักดันระบบ SMS Alert ต้องมีประสิทธิภาพ ซึ่งวันนี้มีความคืบหน้าเมื่องบประมาณปี 68 ผ่านสภา เราจะสามารถผลักดันให้ระบบนี้ใช้ได้จริงทันที การให้ทุกภาคส่วนช่วยกันทำความสะอาดบ้านเรือนและถนน รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงการใช้ App ทางลัดเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์เยียวยาเพื่อให้พี่น้องประชาชนสะดวกในการที่จะใช้มือถือติดต่อกับทางภาครัฐได้โดยตรง ไม่ใช่ใช้เฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะให้เป็นที่รวบรวมข้อมูลพื้นฐานของพี่น้องประชาชนให้ได้รับการช่วยเหลือทันที ไม่ต้องเสียเวลาตรวจสอบสิทธิพื้นฐาน การอพยพพี่น้องประชาชน สัตว์เลี้ยง เป็นหน้าที่ที่ทำงานร่วมกันของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การดูแลความเป็นอยู่ในศูนย์อพยพ การดูแลเรื่องยารักษาโรคกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการเตรียมความพร้อมในพื้นที่ที่น้ำกำลังลงไปถึง การดำเนินการเกี่ยวกับการเตือนภัยในพื้นที่สูง ทางกรมทรัพยากรธรณีได้มีความพร้อมที่จะรับมือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การเร่งตรวจสอบ เร่งปรับปรุงการเสริมความเข้มแข็งในคันกั้นน้ำ ระบบระบายน้ำ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยจะทำงานร่วมกัน การตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจาการลงพื้นที่พบว่าน้ำ อาหารมีอย่างทั่วถึงเพียงพอ แต่เราคาดการณ์สถานการณ์ว่าน้ำยังคงมีต่อเนื่องใน 2-3สัปดาห์นี้ ดังนั้นการช่วยเหลือจึงสามารถลำเลียงไปได้ การที่จะใช้งบกลางในการดูแลพี่น้องประชาชนจะต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว จะต้องลดข้อจำกัดในการช่วยเหลือประชาชนให้หมดไป

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหาน้ำในระยะยาวที่เราถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ เราตั้งใจที่จะทำมาหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว เราไม่อยากให้พูดถึงว่าทำไมเดี๋ยวน้ำท่วม เดี๋ยวน้ำแล้ง ตนก็เป็นคนหนึ่งที่เคยประสบปัญหานี้ เช่นกัน ดังนั้นวันนี้เรามาร่วมกันทำงาน มาเริ่มก้าวนับหนึ่งอีกครั้ง โดยการนำผลการศึกษาในอดีต นำปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาทำงานแบบบูรณาการและทำให้งานสำเร็จโดยเร็ว มั่นใจว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วนอย่างดี และต้องขอบคุณสว.ที่ห่วงใยพี่น้องประชาชน เรายินดีที่จะรับฟังความเห็นของทุกคนที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนขอให้สื่อสารและส่งต่อข้อมูลเหล่านั้นมายังพวกเราจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สั่งสูงสุด.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]