“รังสิมันต์” หวั่น “เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” เปิดทางทุนเทาดำเข้าประเทศ

รัฐสภา 13 ก.ย.-“รังสิมันต์” จัดหนัก “เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” หวั่นเปิดทางทุนเทาดำเข้าประเทศ ชี้หากไม่ระวังอาจเปลี่ยนประเทศไทย หวังภาวะผู้นำ นายกฯ ในการแก้ปัญหาประเทศ ลั่นคนไทยเจ็บปวดจากบัญชีม้าพอแล้ว อย่าให้มี “นายกม้า ที่ตัวจริงควบคุมอยู่ใต้แสงจันทร์”

ในการประชุมร่วมรัฐสภา เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายรัฐบาลในประเด็น การแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดตัดต้นตอการผลิต และจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้นควบคุมการลักลอบตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด รวมถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ช่วยเหลือเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างทันท่วงที โดยผนึกกำลังกับประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างกลไกในการร่วมรับผิดชอบของบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม และธนาคารพาณิชย์


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การแถลงนโยบายในครั้งนี้ มีบางประเด็นที่ น.ส.แพทองธาร ได้นำเสนอต่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน่าสนใจ คือการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลวต่อการทำหน้าที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นภายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เพราะประเทศไทยมีความท้าทายเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของสังคมจากการคุกคามของยาเสพติดโดยช่วงไตรมาสที่สองของปี 2567 มีคดีคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29.9% และมีจำนวนผู้ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นถึง 1.9 ล้านคน แสดงเห็นว่า ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมารัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐาไม่สามารถลดปัญหายาเสพติดที่เกิดขึ้นในสังคมและยังแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มของปัญหายาเสพติดได้ขยายใหญ่โตมากยิ่งขึ้น

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของ ป.ป.ส.ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 มีการยึดยาบ้าไปแล้วกว่า 541 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 11,854 กิโลกรัม ซึ่งมีปริมาณใกล้เคียงกับปี 2566 ทั้งปี และยาไอซ์ที่ยึดได้มีปริมาณมากกว่าปี 2565 ทั้งปี สะท้อนว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ล้มเหลวในการปราบปรามยาเสพติด การจับยาได้เพิ่มขึ้นไม่ใช่ตัวชี้วัดของความสำเร็จในการปราบปรามยา แต่มันสะท้อนให้เห็นว่ายาเสพติดที่เข้ามาในประเทศนั้นมากมายเพียงใด


ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราได้กลายเป็นแหล่งส่งออกยาเสพติดแหล่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะยาเสพติดประเภท เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ยาเสพติดชนิดนี้ มีแหล่งผลิต คือ ประเทศเมียนมา แต่ทำไมยังคงผลิตกันได้เป็นล่ำเป็นสัน และนังสามารถส่งออกไปขายได้ทั่วโลกเช่นนี้มีใคร เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดเหล่านี้บ้าง

ข้อมูลของสหประชาชาติ ได้ระบุว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เป็นจุดหนึ่งที่พบความหนาแน่นของยาบ้ามากที่สุด โดยมีจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการขนส่งยาเสพติดในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของว้า ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในประเทศเมียนมา โดยกลุ่มติดอาวุธนี้ได้ใช้เงินจากการขายยาเสพติด ไปพัฒนากองทัพของตัวเองให้มีความเข้มแข็ง จนสามารถก่อตั้งเขตปกครองตนเองว้าได้แล้ว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่ายาเสพติดที่ผลิตได้จากลุ่มกองกำลังนี้คงมีจำนวนมากมายมหาศาลจนล้นตลาด ส่งผลให้ราคายาเสพติดในประเทศไทยถูกลงอย่างน่าตกใจ จากการพิจารณาของกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยเราได้เชิญ DEA ของสหรัฐอเมริกามาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จึงได้ทราบว่า ราคายาบ้าที่มีการซื้อขายกันในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ 352 ดอลล่าสหรัฐต่อ 2,000 เม็ด หรือตกแล้ว 5.91 บาทต่อเม็ดเท่านั้น และหากเป็นการซื้อขายกันตามตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ราคาซื้อขายจะตกที่ 4.92 บาทเท่านั้น


การที่ยาเสพติดราคาถูกได้ถึงขนาดนี้ แสดงว่ายาบ้าได้ล้นทะลักสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก การปราบปรามยาเสพติดในช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาลนายเศรษฐาได้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงสมดั่งที่นายกฯ น.ส.แพทองธาร ว่าเอาไว้จริงๆ แล้วรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ที่มาจากพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกัน จะรับผิดชอบต่อความล้มเหลวนี้อย่างไร ว่าจะกล้าจัดการปัญหาที่ต้นตอจริงหรือไม่ 3 ปีต่อจากนี้

อีกทั้ง นายกฯ ได้แถลงว่า จะร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดที่ต้นตอ ตนเห็นด้วย แต่แหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดอย่างว้า ที่มีเขตอิทธิพลติดกับชายแดนประเทศจีนมาจนถึงประเทศไทย และบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เราจะดำเนินการอย่างไร กลุ่มว้าเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจ ซึ่งพวกเขาไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลทหารเมียนมา และสื่อต่างประเทศอย่าง The Diplomat ได้ลงข่าวเรื่องนี้ถึงขนาดว่าว้าได้มีข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจชาติหนึ่งว่าจะไม่ส่งยาเสพติดไปที่ประเทศนั้น เพื่อแลกกับการสนับสนุนในด้านต่างๆ

คำถามที่สำคัญ คือ ท่านจะใช้การเจรจาพูดคุยกับรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อกำจัดขบวนการยาเสพติดในว้าจะสำเร็จได้อย่างไรนั้นเป็นไปไม่ได้ ปัจจุบันรัฐบาลทหารเมียนมาน่าจะควบคุมพื้นที่ภายในเมียนมาประมาณ 45% เท่านั้น หากแหล่งผลิตยาเสพติดที่อยู่ในเขตว้าสามารถคงสภาพการผลิตแบบนี้ต่อไปได้ ประเทศไทยไม่มีทางที่จะปลอดภัยจากภัยคุกคามอย่างยาเสพติดได้เลย

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า นายกฯ อาจจะตอบว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามควบคุมสารตั้งต้นเพื่อไม่ให้ถูกนำไปใช้ผลิตยาบ้า แต่การที่ราคายาเสพติดถูกลงถึงเพียงนี้ ได้แสดงให้เห็นว่าทุกมาตรการที่รัฐบาลล้มเหลว เพราะประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญของการส่งเสริมให้เกิดการผลิตยาเสพติด ในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของพวกว้าอีกด้วย เพราะยังต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้าในการผลิตยาออกมาอีกด้วย

“รัฐบาลสามารถทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดนี้อ่อนแอลงได้ด้วยการไม่อำนวยความสะดวกส่งไฟล์ให้ปั๊มยาและส่งกลับมาขายไทย หากเราดำเนินการตัดไฟ เราจะสามารถทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้อ่อนแอลงได้” นายรังสิมันต์ กล่าว

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงนโยบายเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล การนำเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี และนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่มีข้อสังเกตว่ารัฐบาลเลือกที่จะไม่ใช้การเอ่ยถึงคำว่ากาสิโนแม้แต่น้อย ตนจึงไม่มั่นใจถึงแรงจูงใจในการที่จะเลี่ยงกาสิโนว่าหมายถึงอะไร และกังวลถึงความไม่โปร่งใสต่อนโยบายนี้

นายกฯ คนที่แล้ว ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าสถาบันบันเทิงครบวงจรจะสามารถแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมายได้ แต่ตนเองคิดว่าการทำเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เป็นคนละเรื่องกับการแก้ไขบ่อนการพนันผิดกฎหมายตามชุมชนหรือหัวเมืองต่างๆ ดังนั้นถ้านายกอยากจะเอาจริงเอาจังกับเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และมาแก้ปัญหาบ่อนการพนันจริงๆ สิ่งแรกคือเรื่องค่าเข้าเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ไม่น่าจะทำให้รายย่อย ที่เข้าบ่อนผิดกฎหมายอยู่แล้ว ตัดสินใจเลือกเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งท่านจะต้องวางนโยบายให้ชัดว่าต้องการอะไร หากต้องการแก้ปัญหาบ่อนการพนันที่ผิดกฎหมาย วิธีการนี้จะไม่มีทางสำเร็จเด็ดขาด ก็ขอให้รัฐบาลคิดให้ขาดก่อนจะดำเนินนโยบายนี้ “อย่าคิดไป ทำไปเด็ดขาด”

”ผมอดตั้งคำถามถึงศักยภาพของรัฐบาลไม่ได้ว่าหากเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ มีธุรกิจสีดำแอบแฝงเข้ามาจริงๆ รัฐบาลนี้จะมีศักยภาพแค่ไหนในการขจัดภัยคุกคามนี้“ นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ตนก็หวังว่าข้อมูลที่ได้ยินมาจะไม่เป็นความจริง การสมคบกันระหว่างนายใหญ่ นายทุน และนายหน้า ขอให้มันเป็นเพียงแค่ข่าวโคมลอย หวังว่านายกรัฐมนตรีจะพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยความโปร่งใส การที่ตนอภิปรายเรื่องยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ว่าทั้งสามเรื่องนี้เกี่ยวกัน และสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด หากเราไม่ระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดีก็ไม่ต่างอะไรกับการยกประเทศชาติให้กับทุนเทาดำ ที่พัวพันกับยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ และเปลี่ยนประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางที่ผิดกฎหมาย

”ปัญหาต่างๆ ของประเทศชาติ เราต้องการความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาของประเทศไทย ประชาชนคนไทยเจ็บปวดมามากพอแล้วกับปัญหา ซิมม้า บัญชีม้า อย่าถึงขนาดให้แม้แต่ตำแหน่งนายกฯ และรัฐมนตรีต่างๆ ต้องกลายเป็นม้าให้กับนายใหญ่ ให้กับพี่ชาย ให้กับครอบครัว ให้กับเพื่อนควบคุมเลย”

“หนึ่งปีที่ผ่านมา ได้สูญเปล่าอย่างสิ้นเชิงไปแล้วด้วยการมีนายกฯ สองคน อย่าทำให้สามปีต่อจากนี้กลายเป็นความเจ๊งของคนไทย เพราะเรามีนายกฯ ม้า ที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ต้องรอคำสั่งจากนายใหญ่ นายกตัวจริง ที่แอบอยู่หลังแสงจันทร์ ประเทศชาติไม่ใช่เรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งแต่เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน“ นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย

ภายหลัง นายรังสิมันต์อภิปรายเสร็จ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลุกขึ้นชี้แจงว่า เมื่อได้ฟังสมาชิกอภิปราย ก็คิดว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วยซ้ำ ผิดหวังที่ได้พูดพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นอีกหลายๆ คน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย และไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เพราะสิ่งเหล่านี้ที่ท่านพูดในสภา ต้องแสดงความรับผิดชอบ ตนเข้าใจในความหวังดีอยากเห็นปัญหานี้หมดไป ขอบคุณในคำแนะนำหลายๆ เรื่อง แต่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว

จากนั้น นายรังสิมันต์ จึงลุกขึ้นแย้งกรณีที่นายประเสริฐ ระบุผู้อภิปรายคนสุดท้ายต้องรับผิดชอบ เพราะคิดว่าตนเองเสียหาย ว่า ตนยืนยันข้อมูลที่ได้รับมา เพราะข้อมูลทุกอย่างมาจากหน่วยงานความมั่นคง ฝากท่านรัฐมนตรีนิดหนึ่งว่า ถ้าอยากจะปิดบัญชีม้า ท่านจะต้องมีการดำเนินคดีอย่างจริงจังกับคนที่เปิดบัญชีม้า โดยเริ่มต้นได้ง่ายๆ จาก 500 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการขายไฟฟ้าบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และเกี่ยวพันกับการยึดอายัดทรัพย์ของพรรคการเมืองหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอาคารดังกล่าว ซึ่งสามารถทำได้ทันที “พิสูจน์เรื่องนี้ให้เห็น แล้วผมจะเชื่อว่า ท่านเอาจริงเอาจังในการปราบบัญชีม้า”.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]