“อนุทิน” เผยเตรียมพร้อมรับมวลน้ำหลากเข้าภาคอีสาน

ทำเนียบ 13 ก.ย.- “อนุทิน” เผยเตรียมรับมวลน้ำหลากเข้าพื้นที่ภาคอีสาน ชี้เร่งระบายลงแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด เล็งชดเชยผู้ประกอบการโรงแรมใน จ.เชียงราย หลังเปิดให้ประชาชนเข้าพักฟรี ย้ำทุกหน่วยของมหาดไทยเครื่องมือครบ พร้อมช่วยเหลือ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายที่มีกระแสข่าวว่าไม่ได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ โดยนายอนุทิน ยืนยันว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงรายรายได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ นานแล้ว และเป็นสิ่งแรกที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องทำ จึงขอให้เชื่อมั่นในระบบราชการ ไม่พลาดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ซึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ หากไม่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติจะใช้เงินสำรองออกไปได้อย่างไร ซึ่งเมื่อวานนี้(12 ก.ย.) นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า หากเงินไม่พอ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายขยายวงเงิน แสดงว่าประกาศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนกรณีที่มวลน้ำจะหลากไปในพื้นที่ภาคอีสาน ในจังหวัดหนองคายและนครพนม นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องเร่งระบายน้ำลงไปพื้นที่น้ำโขงให้เร็วที่สุด ซึ่งเท่าที่ทราบจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายจะต้องผ่านอำเภอแม่อาย ที่มีเหตุการณ์ดินถล่ม ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของน้ำผ่านจังหวัดเชียงราย เชียงแสน ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด


ส่วนปัญหาขณะนี้ที่ทางการจีนมีการปล่อยน้ำลงมา นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ต้องแก้ปัญหาในส่วนเรา ส่วนการรับมือมวลน้ำในภาคอีสาน ตนมั่นใจว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดน้ำหลาก ก็ต้องมีการเตรียมแผนเผชิญเหตุ แต่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการช่วยเหลือการอพยพ การสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร อาหาร และศูนย์อพยพ จังหวัดเชียงรายจะถือเป็นโมเดลที่ดี ที่ประชาชนมีน้ำใจซึ่งกันและกัน และเจ้าของโรงแรมในพื้นที่หลายแห่งให้พี่น้องประชาชนได้เข้าไปพักพิงโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี บอกว่า ไม่ได้จะต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปทำบัญชี และชดเชยให้ ซึ่งวันนี้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.4) จะลงพื้นที่ไปยังจังหวัดเชียงราย

ส่วนในพื้นที่อำเภอแม่สายที่สถานการณ์ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้วเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟู และมีการฟื้นฟูร้านค้าได้รับผลกระทบจำนวนมาก เงินเยียวยาสูงสุดตามกรอบงบประมาณแล้วจะได้ประมาณเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีจะของบกลางไปเองเลยและน.ส.ธีรรัตน์ จะลงพื้นที่ในนามกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทยก็อยู่ในพื้นที่ การหาวิธีการช่วยเหลือเยียวยาก็จะเกิดขึ้น ยิ่งนายกรัฐมนตรีไปอยู่หน้างานก็จะยิ่งตัดสินใจได้ถูกต้องมากขึ้น นายอนุทิน ย้ำว่า ได้มีการประเมินมวลน้ำที่จะมาจากประเทศเมียนมาตลอดเวลา

ส่วนจะต้องมีการช่วยเหลือเรื่องใดเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้องคาพยพทั้งหลายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกู้ภัย เยียวยา ก็อยู่ในพื้นที่แล้ว อีกทั้งยังมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) ที่มีเครื่องมือเครื่องจักรที่สแตนด์บายในพื้นที่พร้อมทันทีหากมีการร้องขอ ณ สถานการณ์ปัจจุบันทุกอย่างมีความเพียงพอ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีการช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านอพยพได้ออกมาอย่างปลอดภัย.-315 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น