รัฐสภา 12 ก.ย.-พปชร. 2 ขั้วซัดกันนัว หลัง “เด็กลุงป้อม” ทำหน้าที่ฝ่ายค้านครั้งแรก แซะระนาวถึงนายกฯ หญิง-ครม.สืบสันดาน โอดโหวต 39 เสียง แต่ถีบให้เป็นฝ่ายค้าน
การประชุมรัฐสภาในวาระการแถลงนโยบายรัฐบาล ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธาการประชุม โดยนายชัยมงคล ไชยรบ สส.พรรคพลังประชารัฐ ในฝั่งของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อภิปรายในฐานะฝ่ายค้านครั้งแรก โดยกล่าวเปิดว่าทันทีที่เห็นนายกแพทองธาร ชินวัตร ตนก็นึกถึงประโยคที่ว่าคนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่ความหวังของคนไทยเริ่มเรืองรอง แต่พอปรากฎชื่อคณะรัฐมนตรีออกมาเริ่มลางเลือน เพราะประกอบไปด้วยคนเก่า 70-80% เปรียบเสมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ ติดฉลากเพิ่มเติมมีบ้างที่พ่อมาแทนลูก มีบ้างที่ลูกมาแทนพ่อ และมีน้องแทนพี่ ซึ่งไม่ได้บอกว่าเขาไม่ใช่คนดี แต่เขาจะบริหารประเทศ ได้หรือไม่ เพราะ ครม. ชุดนี้ ประกอบไปด้วยหลายสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งชำรุด ทางประวัติศาสตร์ ที่เป็นผลพวงต่อจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มีจุดยืนว่าอำนาจต้องมาจากปลายกระบอกปืน และยังมีรัฐมนตรีอาชีพที่เป็นมา 16 -17 สมัย และคนใหม่ที่เข้ามาก็ยังสืบทอดโดยสายเลือด จนสื่อมวลชนขนาดนาม ครม.ชุดนี้ว่า “สืบสันดาน” เพิ่งเห็นได้ชัดว่าครม.ชุดนี้ไม่สามารถหวังผลได้
นายชัยมงคล ยังกล่าวต่อว่า คำแถลงนโยบายของนายกฯ ถ้าปฏิบัติได้ตามนั้น ประเทศเจริญแน่นอนแต่หลายนโยบาย มองเหมือนไม่มีความหวัง เช่น “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ตนเชื่อว่าจะมีการจ้างงาน แต่คนไทยก็คงจะได้ไปแจกไพ่ หรือเป็นพนักงานต้อนรับ แต่คนรวยก็ยังคงมีอยู่ 10 ตระกูลเหมือนเดิม ดังนั้นนโยบายแบบนี้ทำให้เห็นว่าเป็นนโยบายของคนชั้นนำ เพื่อชนชั้นนำและกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ตนจึงไร้ความหวังจากพฤติกรรมที่ท่านทำ ขณะที่นโยบายแจกเงินหมื่น อยากตั้งคำถามว่าวางแผนไว้ดีแล้วใช่หรือไม่ เพราะถ้าแจกเป็นเงินสดคงจบไปแล้ว
นายชัยมงคล ยังกล่าวอีกว่า เมื่อมองที่มาของรัฐบาล ภาพที่ประชาชนรับรู้คือตระบัดสัตย์ มีที่ไหนครับพรรคที่ยกมือให้ 39 เสียง บอกให้เขาไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พรรคที่งดออกเสียงกับเชิญมาเป็นรัฐบาล
ระหว่างที่นายชัยมงคล อภิปรายนั้น นายอรรถกร ศิริลัทธยากรซึ่ง เป็น สส.ในฝั่งของร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่า ลุกขึ้นประท้วงผู้ที่อภิปรายผิดข้อบังคับพูดจาเสียดสีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งตนเห็นว่า หากย้อนไปเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้อภิปราย คงเห็นด้วยกับการแถลงนโยบายครั้งนี้ แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรเปลี่ยนใจ จึงขอฝากประธานให้กำชับผู้อภิปรายอยู่ในข้อบังคับการประชุมด้วย
จากนั้นนายชัยมงคลได้อภิปรายต่อว่า “วันนี้ก็ตอบท่านผู้ประท้วงเลยก็ได้ว่า ผมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เมื่อเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล แล้ววันนี้ตนมองว่าไม่อยากให้รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ อาศัยมือประชาชน อ้างประชาธิปไตย แต่มากอบโกยผลประโยชน์แบบตะกละตะกลาม มูมมาม”.-312.-สำนักข่าวไทย