“หมอวรงค์” ร้อง กกต. ปม “ทักษิณ” ครอบงำเพื่อไทย

กกต. 11 ก.ย.- “หมอวรงค์” ร้อง กกต. ปม “ทักษิณ” ครอบงำ “เพื่อไทย” ชี้เข้าข่ายการยุบพรรคโดยศาลรัฐธรรมนูญ ลั่นหากไม่ทำตามกฎหมาย จากระบอบทักษิณจะกลายเป็นระบอบชินวัตร แนะ กกต. ทำหน้าที่ให้เต็มที่ เชื่อบ้านเมืองจะดีขึ้น


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี พร้อมคณะ เดินทางยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องเรียนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทย โดยนายแพทย์วรงค์ ให้สัมภาษณ์ก่อนยื่นหนังสือว่าวันนี้ตนมายื่นเอกสารร้องเรียน 2 กรณี ประกอบด้วย 1.ร้องเรียนนายทักษิณ ที่ครอบงำพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ (รธน.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ในมาตรา 29 ส่วนประเด็นที่ 2 พรรคเพื่อไทย ยินยอมให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามาชี้นำพรรค ซึ่งเป็นไปตามความผิด พ.ร.บ. เดียวกัน ในส่วนของมาตรา 28

ส่วนที่ตนมาร้อง เนื่องจากการครอบงำเป็นปัญหาใหญ่ของระบบการเมืองไทย เนื่องจากผู้ปฏิบัติเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ถูกชี้นำ แต่บุคคลที่ครอบงำ อาจได้ผลประโยชน์แต่ประชาชนไม่รับรู้ จึงทำให้ตนต้องเข้ามาร้องเรียน เพื่อปกป้องประโยชน์ของประชาชน และปกป้องกฎหมายรัฐธรรมนูญ


ทั้งนี้ มี 3 สาระสำคัญ ที่เป็นเหตุผลต่อการร้องเรียน คือ การที่ นายทักษิณ เชิญชวนแกนนำบางส่วนของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาล ช่วงเย็นของวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสข่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และการพูดคุยได้บทสรุปว่า จะเสนอนายชัยเกษม ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้วันรุ่งขึ้นจะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย โดยการเปลี่ยนตัวจากนายชัยเกษม เป็นนางสาวแพทองธาร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นกรรมหรือเป็นวาระที่สำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว เพราะนายทักษิณ ไม่ใช่สมาชิกพรรค แต่มาครอบงำ รวมทั้งชี้นำพรรคเพื่อไทย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค รวมทั้งกรรมการบริหารพรรคออกมาปฏิเสธตามกระแสข่าว

ส่วนประเด็นที่ 2 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา สื่อมวลชนสอบถามนายทักษิณ ว่า จะให้นางสาวแพทองธาร รวบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วยหรือไม่ และนายทักษิณ ได้ตอบกลับว่า มันหนักเกินไป ดังนั้น แม้จะอ้างว่านางสาวแพทองธาร เป็นลูกสาว แต่นางสาวแพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น เป็นการชี้นำหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ นายทักษิณได้ระบุอีกว่า การกระทำดังกล่าว ไม่ใช่การครอบงำ แต่เป็นการครอบครอง เพราะ นางสาวแพทองธาร เป็นลูกสาวตน ดังนั้น ตนจึงมองว่า การครอบครองนั้นหนักกว่าการครอบงำ เนื่องจากมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ส่วนการจะให้คำปรึกษาในฐานะคนเป็นพ่อ ตนมองว่า ควรให้คำปรึกษาที่บ้าน ไม่ใส่แสดงผ่านสื่อสาธารณะ เสมือนเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย


ส่วนประเด็นที่ 3 คือ การให้สัมภาษณ์ที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลต้องการเสียงที่เพียงพอต่อการผ่านกฎหมาย จึงให้เลขาธิการพรรคเพื่อไทยทำหนังสือเชิญร่วมรัฐบาล ดังนั้นเห็นชัดเจนว่านายทักษิณ ชี้นำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ร่วมทั้งกรณีที่ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่จะมีกลุ่มของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีเพื่อการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคำพูดของนายทักษิณ นั้นชัดเจนว่า จะเลือกกลุ่มใด และเป็นไปตามนั้น คือ ร้อยเอก ธรรมนัส

นายแพทย์วรงค์ กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย ที่ให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคมาครอบงำ พรรคการเมืองนั้นจึงมีความผิด และนำไปสู่การยุบพรรคโดยศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่าปัจจุบัน มีประเด็นกระบวนการนิติสงคราม ถึงการร้องเรียนนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรีในประเด็นต่างๆ ว่าเป็นกระบวนการเช็คบิล และมีการจ้างโดยนำเงินมาแลกเปลี่ยน นายแพทย์ วรงค์ กล่าวว่า คำว่านิติสงคราม เป็นคำโจมตีของบุคคลที่มาฟ้อง และถามกลับว่าบุคคลเหล่านั้น เชื่อมั่นต่อกระบวนการระบบประชาธิปไตยหรือไม่ และประชาธิปไตย มีหัวใจหลัก 3 ข้อ คือ 1.สิทธิเสรีภาพ 2.การเลือกตั้ง และ 3.กระบวนการตรวจสอบ

ดั้งนั้นกระบวนการของประชาธิปไตย ต้องยอมรับการตรวจสอบ ส่วนบุคคลที่ระบุว่า เป็นกระบวนการนิติสงคราม เท่ากับบุคคลเหล่านั้นไม่ยอมรับการตรวจสอบ แล้วการตรวจสอบน้ำตนมองว่าเป็นเสน่ห์ของระบบประชาธิปไตย และประชาชนได้ประโยชน์ ดังนั้น คำว่านิติสงคราม เป็นวาทะกรรมที่เกร็งกลัวการตรวจสอบ ของพวกที่ไม่ชอบการตรวจสอบแต่อ้างว่ารักประชาธิปไตย ซึ่งมันของปลอม ฉะนั้น ตนยืนยันว่า ตนไม่รับเงิน และหากบุคคลใดบอกชื่อตนว่าตนรับเงิน ตนจะฟ้องทุกคน

ส่วนที่ระบอบทักษิณ จะฟื้นขึ้นมานั้น หากนายทักษิณ ไม่ทำตามกฎหมาย จากระบอบทักษิณ จะกลายเป็นระบอบชินวัตร

ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้อง กกต. เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยเกิดการบาลานซ์ หาก กกต. ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ตนยืนยันว่า บ้านเมืองจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ยืนยันว่า ไม่ได้ร้องไปเรื่อย และไม่เลอะเทอะ มีหลักมีเกณฑ์ และร้องแต่เรื่องใหญ่ๆ เรื่องเล็กตนไม่ร้อง .-317 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย