fbpx

นักวิชาการแนะรัฐบาลเร่งทำผลงานให้ชัด ภายใน 1 เดือน

ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 11 ก.ย. – นักวิชาการมอง 10 นโยบายเร่งด่วนรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นควิกวิน เล็งเห็นผลระยะสั้น ตั้งข้อสังเกต “แจกเงินหมื่น” เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจจริงหรือไม่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ใส่-ไม่ใส่ในนโยบายก็เสี่ยง แนะรีบทำผลงานให้ชัดภายใน 1 เดือน ชี้เสถียรภาพกับความเชื่อมั่นสำคัญ


ดร.ปุรวิชญ์ วัฒนสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่จะแถลงต่อรัฐสภาตอบโจทย์ปัญหาประเทศในปัจจุบันหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าเป็นนโยบายควิกวินของพรรคเพื่อไทยเพราะ 10 นโยบายเร่งด่วนเป็นนโยบายที่ทำทันทีและเห็นผลได้ในระยะสั้น แต่ 10 นโยบายเร่งด่วนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะหากย้อนดูในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ก็มีลักษณะเช่นนี้คือเรื่องนโยบายเร่งด่วนและนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ปรับโครงสร้างหนี้ SME อาชญากรรม ยาเสพติดเหล่านี้เป็นปัญหาเร่งด่วน ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ประเด็นคือผ่านมาแล้ว1 ปีปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสคนรู้สึกว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน ถึงแม้นายกฯแพทองธารจะบอกว่า ภายในสามเดือนเห็นผลแต่สำหรับตนเองมองว่า 3 เดือนอย่างช้าไป เพราะนโยบายเหล่านี้เป็นสิ่งที่แถลงมาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา แต่ยังไม่เห็นผลที่เกิดขึ้นเลย อีกทั้งยังเกิดความเปลี่ยนแปลงตลอดโดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จากเดิมจะแจกทุกคน ก็ปรับมาเป็นการแจกให้กลุ่มเปราะบางก่อน สำหรับตนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นลักษณะควิกวิน คือทำให้เห็นผลได้เร็ว ได้คะแนนเสียงเร็วฟื้นความเชื่อมั่น ความนิยมในตัวพรรคเพื่อไทย แต่จะสำเร็จได้เร็วแค่ไหนยังมีอีกหลายปัจจัย

ส่วนการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโดยเฉพาะนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้เกิดภาพว่าพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ยังคิดกระบวนการของนโยบายไม่เสร็จ ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวว่า เป็นภาพสะท้อนอย่างชัดเจนในช่วงปีกว่าว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตกระบวนการออกแบบไม่ได้มีกระบวนการครบถ้วนทั้งหมด เงินจะมาจากไหน ดำเนินการอย่างไร นโยบายที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนรายละเอียดตลอดเวลาไหนจะการ ดำเนินการที่เสี่ยงขัดวินัยการเงินการคลัง หลังนางสาวแพทองธารได้รับการโปรดเกล้าฯ ยอมรับว่าจะเดินหน้าโครงการบนเงื่อนไขที่เป็นไปได้จึงออกมาเป็นการจ่ายเงินให้กับเปราะบางก่อน พรรคเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายนี้ เพราะการเป็นลายเซ็นของพรรคเพื่อไทยไปแล้วมาหนึ่งปีว่าจะทำได้หรือไม่ ประกอบกับมีการตั้งงบประมาณเพิ่มเติมปีงบประมาณ 2567 เพื่อมาดำเนินโครงการ นโยบายนี้อย่างสะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยต้องการจะรักษาสัญญากับประชาชนที่ได้หาเสียงเอาไว้ถึงแม้จะมีเงื่อนไขที่ไม่สามารถทำได้เหมือนในสมัยรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร จนทำให้มีข้อถกเถียงกันเยอะว่าจะนำเงินจากไหนและก็กลายเป็นการแจกเงินอยู่ดี


“คำถามคือจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจรอบใหญ่หรือไม่ นโยบายถือเป็นดาบ 2 คม ก็ไม่ได้แต่ถ้าทำแล้วก็มีข้อวิจารณ์ จากฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยและจากประชาชนที่เสียภาษีด้วย” ดร.ปุรวิชญ์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะถึงขั้นร้องไห้หรือไม่ เมื่อมีกระแสประชาชนคิดถึงนโยบายคนละครึ่งของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นโยบายเงินจะวัดฝีมือหรือทำให้คะแนนลดลง ดร.ปุรวิชญ์ มองว่า เป็นภาพที่สะท้อนใหญ่หลวงมาก ตลอดกาลการทำงานหนึ่งปีที่ผ่านมาแทนที่คนจะมองเห็นว่าว่าโครงการ 10,000 บาทเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย กลับกลายเป็นว่าทำได้ยากเงินจะได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คนที่ลงทะเบียนไปแล้วก็เกิดคำถามว่าจะได้เงินหรือไม่ ถึงปฏิเสธไม่ได้และเป็นกิริยาตามธรรมชาติ เนื่องจากโครงการคนละครึ่งเพียงแค่ลงทะเบียนและประชาชนได้นำเงินไปใช้ให้กับร้านค้า จึงเป็นภาพเปรียบเทียบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วนี่จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของพรรคเพื่อไทยว่าจะทำอย่างไร อีกทั้งจะทำอย่างไรให้คนหรือภาพจำของโครงการคนละครึ่ง และ พิสูจน์ว่าโครงการดิจิทัล Wallet ดีกว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ตอนนี้ยังไม่เห็น เพราะดูแล้วเหมือนเป็นการแจกเงินปกติทั่วไป

ส่วนหนึ่งในนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เดินหน้าเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โดยหวังเอาเงินใต้ดินขึ้นมา จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ นั้น ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวว่า นโยบายนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะมีการพูดคุยกันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนายทักษิณ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในระบบเศรษฐกิจมี ภาคส่วนที่ไม่เป็นทางการหรือเงินใต้ดิน โดยหลักคิดคือนำเข้ามาอยู่ในระบบให้เสียภาษีและนำเงินเข้ารัฐ โดยเมื่อมีแนวคิดจะเริ่มทำทีไรก็จะเกิดแรงต้านทันที ทั้งกลุ่มผู้สูญเสียประโยชน์ โดยหลายเรื่องที่อยู่ในนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพ ทองธาร มีความพยายามที่จะทำมานานมากเพราะทุกคนมองเห็นถึงโอกาสที่ใหญ่ยิ่งหากนำเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการเข้าไปอยู่ในระบบได้ เม็ดเงินที่จะเข้ามาอยู่ในระบบจะมีอีกมหาศาล แต่หากทำแบบนี้จะมีคนเสียประโยชน์เยอะมาก นี่จึงเป็นความท้าทายว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหนยังไม่ต้องพูดถึงกระแสสังคม ตนคิดว่าไม่ง่ายสำหรับรัฐบาล แต่ที่ต้องแถลงเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้และมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะรุ่งเรืองฟื้นฟูอีกครั้งก็ต้องเอาทุกเซกเตอร์ในสังคมมาอยู่ในระบบให้ได้ พร้อมย้ำว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเช่นนั้น


เมื่อถามว่าการเอาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ใส่เข้าไปในนโยบายรัฐบาลถือเป็นความเสี่ยงหรือไม่ ดร.ปุรวิชญ์ เห็นว่าจะเอาใส่หรือไม่เอาใส่ในนโยบายของรัฐบาลก็มีความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่การเอามาใส่เอาไว้ในคำแถลงนโยบายถือเป็นจุดตั้งต้นว่าจะทำอย่างนี้จึงประกาศแต่วันแรกที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เพราะนโยบายคือธงนำในการบริหารประเทศ และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์แต่ยังมีอีกหลายนโยบาย โดยหากมองลงไปจะเห็นว่าในนโยบาย เต็มไปด้วยเรื่องของเศรษฐกิจ

“หากมองในภาพใหญ่นี่คือการบูธเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หากมองย้อนกลับไป 20 ปีที่แล้ว ยุทธศาสตร์นี้คือวิธีการแบบเดียวกับพรรคไทยรักไทย อีกทั้งในคำท้ายของการแถลงนโยบายอย่างมีคำว่าคนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพราะนี่คือคำที่เป็นเครื่องหมายการค้าของนางสาวแพทองธาร” ดร.ปุรวิชญ์ กล่าว

ส่วนความเป็นพรรคเพื่อไทยที่ยังคงไลน์เซ่นเดิม ที่มีนโยบายลักษณะทุนนิยมประชานิยม ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วหากพูดตามตรงนี่คือกลิ่นอายเดิมของรัฐบาลพรรคไทยรักษ์ไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทั้งวิธีการนำเสนอ การขายเรื่องต่างๆที่ดูเหมือนว้าว อีกทั้งอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวคิดหลักๆก็เป็นสิ่งที่นายทักษิณเคยพูดตั้งแต่ 20 ปีและในเวทีแสดงวิสัยทัศน์เมื่อเดือนสิงหาคม

เมื่อถามถึงความเสี่ยงทั้งตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่เต็มไปด้วยนักร้องเรียน ดร.ปุรวิชญ์ มองว่า คุณจะขายอะไรก็แล้วแต่ก็ตามแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเสถียรภาพกับความเชื่อมั่น เพราะตั้งแต่วันแรกที่นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนก่อตั้งคำถามแล้วว่าจะเป็นได้กี่วัน กี่เดือน ทั้งการเป็นรัฐบาลผสม รวมถึงการเมืองระบบโควตาจะเข้ารูปเข้ารอยกันได้มากแค่ไหน

อีกเรื่องคือนิติสงคราม ของบรรดานักร้องเรียนแค่ยังไม่ทันจะแถลบนโยบายของรัฐบาล ก็มีคำร้องกับตัวของนายกรัฐมนตรี เป็น 10 เรื่อง ทั้งตำแหน่งหน้าที่ เรื่องหุ้น เรื่องจริยธรรม เรื่อง ครอบงำพรรค แล้วบอกว่าจะยังมีอีกเยอะ มาอีกเยอะมาก แล้วแต่ว่าจะเลือกเรื่องไหนขึ้นมา จึงเป็นคำถามตอบมาว่าเสถียรภาพของรัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน แม้ว่าจะมีโปรเจ็คใหญ่อย่างเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ อีวี ดิจิตอลอีโคโนมี่ แต่คำถามคือจะอยู่ได้กี่วัน กี่เดือน

ขณะที่เรื่องของความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล เช่น สมัยนายเศรษฐาเป็นเซลล์แมนที่ไปขายเจรจาเรื่องธุรกิจทั่วโลกแต่ปรากฏว่ายังไม่ถึงหนึ่งปีก็พ้นจากตำแหน่ง ส่วนนางสาวแพทองธารยังไม่ทันจะเข้าตำแหน่ง ก็มีมีดมาจ่อเต็มไปหมด ที่สำคัญคือระบบราชการหากเชื่อว่าอยู่ได้ไม่นาน จะเกิดระบบเกียร์ว่างได้ (ทำไปทำไมเสี่ยง) แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่านางสาวแพทองธาร อยากจะอยู่ครบ 3 ปี และมีความเชื่อมั่นจะอยู่ได้ แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยคำร้อง มองว่า หากมีคำร้อง 10 เรื่อง ก็อาจมีสักเรื่องที่อาจจะเข้าเป้าได้ และมีกรณีของนายเศรษฐา ให้เห็นซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดจะหลุดจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับ นางสาวแพทองธารที่ถือว่าเป็นโจทย์ที่หนัก ไม่ง่าย ซึ่งแต่ละเรื่องบรรทัดฐานที่ผ่านมาเอาแน่เอาลงไม่ได้ ต้องเจอกับนักร้องที่ปรากฏตัว และนักร้องนิรนาม ยุบพรรค ส่วนจะป้องกันอย่างไร หรือต้องรีบดันนโยบายให้สำเร็จ จึงต้องรีบขาย 10 นโยบายเร่งด่วน ให้เห็นผลตั้งแต่1 เดือนแรก

“การเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโครงสร้างออกแบบโดยรัฐธรรมนูญ60 ภายหลังรัฐประหารปี 57 คือมีลักษณะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอองค์กรอิสระและศาลมีอำนาจมาก ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ตามเหมือนเดินไต่บนเส้นลวด คุณไม่รู้เลยว่าการเดินอยู่บนเส้นลวดจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ และหากมองในมุมพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าหากการขายสิทธิ์นโยบายเร่งด่วนโดยเฉพาะเรื่องเงิน 10,000 บาทได้สำเร็จจะเป็นเกาะป้องกันว่าอย่างน้อยก็มีผลงาน ส่วนจะได้คะแนนเสียงหลังจากนี้มากน้อยแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” ดร.ปุรวิชญ์ ระบุ .-316 (1) สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ไทยเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีกระลอก

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน