นักวิชาการแนะรัฐบาลเร่งทำผลงานให้ชัด ภายใน 1 เดือน

ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 11 ก.ย. – นักวิชาการมอง 10 นโยบายเร่งด่วนรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นควิกวิน เล็งเห็นผลระยะสั้น ตั้งข้อสังเกต “แจกเงินหมื่น” เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจจริงหรือไม่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ใส่-ไม่ใส่ในนโยบายก็เสี่ยง แนะรีบทำผลงานให้ชัดภายใน 1 เดือน ชี้เสถียรภาพกับความเชื่อมั่นสำคัญ


ดร.ปุรวิชญ์ วัฒนสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่จะแถลงต่อรัฐสภาตอบโจทย์ปัญหาประเทศในปัจจุบันหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าเป็นนโยบายควิกวินของพรรคเพื่อไทยเพราะ 10 นโยบายเร่งด่วนเป็นนโยบายที่ทำทันทีและเห็นผลได้ในระยะสั้น แต่ 10 นโยบายเร่งด่วนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะหากย้อนดูในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ก็มีลักษณะเช่นนี้คือเรื่องนโยบายเร่งด่วนและนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ปรับโครงสร้างหนี้ SME อาชญากรรม ยาเสพติดเหล่านี้เป็นปัญหาเร่งด่วน ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ประเด็นคือผ่านมาแล้ว1 ปีปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสคนรู้สึกว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน ถึงแม้นายกฯแพทองธารจะบอกว่า ภายในสามเดือนเห็นผลแต่สำหรับตนเองมองว่า 3 เดือนอย่างช้าไป เพราะนโยบายเหล่านี้เป็นสิ่งที่แถลงมาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา แต่ยังไม่เห็นผลที่เกิดขึ้นเลย อีกทั้งยังเกิดความเปลี่ยนแปลงตลอดโดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จากเดิมจะแจกทุกคน ก็ปรับมาเป็นการแจกให้กลุ่มเปราะบางก่อน สำหรับตนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นลักษณะควิกวิน คือทำให้เห็นผลได้เร็ว ได้คะแนนเสียงเร็วฟื้นความเชื่อมั่น ความนิยมในตัวพรรคเพื่อไทย แต่จะสำเร็จได้เร็วแค่ไหนยังมีอีกหลายปัจจัย

ส่วนการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโดยเฉพาะนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้เกิดภาพว่าพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ยังคิดกระบวนการของนโยบายไม่เสร็จ ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวว่า เป็นภาพสะท้อนอย่างชัดเจนในช่วงปีกว่าว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตกระบวนการออกแบบไม่ได้มีกระบวนการครบถ้วนทั้งหมด เงินจะมาจากไหน ดำเนินการอย่างไร นโยบายที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนรายละเอียดตลอดเวลาไหนจะการ ดำเนินการที่เสี่ยงขัดวินัยการเงินการคลัง หลังนางสาวแพทองธารได้รับการโปรดเกล้าฯ ยอมรับว่าจะเดินหน้าโครงการบนเงื่อนไขที่เป็นไปได้จึงออกมาเป็นการจ่ายเงินให้กับเปราะบางก่อน พรรคเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายนี้ เพราะการเป็นลายเซ็นของพรรคเพื่อไทยไปแล้วมาหนึ่งปีว่าจะทำได้หรือไม่ ประกอบกับมีการตั้งงบประมาณเพิ่มเติมปีงบประมาณ 2567 เพื่อมาดำเนินโครงการ นโยบายนี้อย่างสะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยต้องการจะรักษาสัญญากับประชาชนที่ได้หาเสียงเอาไว้ถึงแม้จะมีเงื่อนไขที่ไม่สามารถทำได้เหมือนในสมัยรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร จนทำให้มีข้อถกเถียงกันเยอะว่าจะนำเงินจากไหนและก็กลายเป็นการแจกเงินอยู่ดี


“คำถามคือจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจรอบใหญ่หรือไม่ นโยบายถือเป็นดาบ 2 คม ก็ไม่ได้แต่ถ้าทำแล้วก็มีข้อวิจารณ์ จากฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยและจากประชาชนที่เสียภาษีด้วย” ดร.ปุรวิชญ์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะถึงขั้นร้องไห้หรือไม่ เมื่อมีกระแสประชาชนคิดถึงนโยบายคนละครึ่งของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นโยบายเงินจะวัดฝีมือหรือทำให้คะแนนลดลง ดร.ปุรวิชญ์ มองว่า เป็นภาพที่สะท้อนใหญ่หลวงมาก ตลอดกาลการทำงานหนึ่งปีที่ผ่านมาแทนที่คนจะมองเห็นว่าว่าโครงการ 10,000 บาทเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย กลับกลายเป็นว่าทำได้ยากเงินจะได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คนที่ลงทะเบียนไปแล้วก็เกิดคำถามว่าจะได้เงินหรือไม่ ถึงปฏิเสธไม่ได้และเป็นกิริยาตามธรรมชาติ เนื่องจากโครงการคนละครึ่งเพียงแค่ลงทะเบียนและประชาชนได้นำเงินไปใช้ให้กับร้านค้า จึงเป็นภาพเปรียบเทียบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วนี่จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของพรรคเพื่อไทยว่าจะทำอย่างไร อีกทั้งจะทำอย่างไรให้คนหรือภาพจำของโครงการคนละครึ่ง และ พิสูจน์ว่าโครงการดิจิทัล Wallet ดีกว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ตอนนี้ยังไม่เห็น เพราะดูแล้วเหมือนเป็นการแจกเงินปกติทั่วไป

ส่วนหนึ่งในนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เดินหน้าเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โดยหวังเอาเงินใต้ดินขึ้นมา จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ นั้น ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวว่า นโยบายนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะมีการพูดคุยกันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนายทักษิณ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในระบบเศรษฐกิจมี ภาคส่วนที่ไม่เป็นทางการหรือเงินใต้ดิน โดยหลักคิดคือนำเข้ามาอยู่ในระบบให้เสียภาษีและนำเงินเข้ารัฐ โดยเมื่อมีแนวคิดจะเริ่มทำทีไรก็จะเกิดแรงต้านทันที ทั้งกลุ่มผู้สูญเสียประโยชน์ โดยหลายเรื่องที่อยู่ในนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพ ทองธาร มีความพยายามที่จะทำมานานมากเพราะทุกคนมองเห็นถึงโอกาสที่ใหญ่ยิ่งหากนำเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการเข้าไปอยู่ในระบบได้ เม็ดเงินที่จะเข้ามาอยู่ในระบบจะมีอีกมหาศาล แต่หากทำแบบนี้จะมีคนเสียประโยชน์เยอะมาก นี่จึงเป็นความท้าทายว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหนยังไม่ต้องพูดถึงกระแสสังคม ตนคิดว่าไม่ง่ายสำหรับรัฐบาล แต่ที่ต้องแถลงเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้และมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะรุ่งเรืองฟื้นฟูอีกครั้งก็ต้องเอาทุกเซกเตอร์ในสังคมมาอยู่ในระบบให้ได้ พร้อมย้ำว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเช่นนั้น


เมื่อถามว่าการเอาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ใส่เข้าไปในนโยบายรัฐบาลถือเป็นความเสี่ยงหรือไม่ ดร.ปุรวิชญ์ เห็นว่าจะเอาใส่หรือไม่เอาใส่ในนโยบายของรัฐบาลก็มีความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่การเอามาใส่เอาไว้ในคำแถลงนโยบายถือเป็นจุดตั้งต้นว่าจะทำอย่างนี้จึงประกาศแต่วันแรกที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เพราะนโยบายคือธงนำในการบริหารประเทศ และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์แต่ยังมีอีกหลายนโยบาย โดยหากมองลงไปจะเห็นว่าในนโยบาย เต็มไปด้วยเรื่องของเศรษฐกิจ

“หากมองในภาพใหญ่นี่คือการบูธเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หากมองย้อนกลับไป 20 ปีที่แล้ว ยุทธศาสตร์นี้คือวิธีการแบบเดียวกับพรรคไทยรักไทย อีกทั้งในคำท้ายของการแถลงนโยบายอย่างมีคำว่าคนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพราะนี่คือคำที่เป็นเครื่องหมายการค้าของนางสาวแพทองธาร” ดร.ปุรวิชญ์ กล่าว

ส่วนความเป็นพรรคเพื่อไทยที่ยังคงไลน์เซ่นเดิม ที่มีนโยบายลักษณะทุนนิยมประชานิยม ดร.ปุรวิชญ์ กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วหากพูดตามตรงนี่คือกลิ่นอายเดิมของรัฐบาลพรรคไทยรักษ์ไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทั้งวิธีการนำเสนอ การขายเรื่องต่างๆที่ดูเหมือนว้าว อีกทั้งอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวคิดหลักๆก็เป็นสิ่งที่นายทักษิณเคยพูดตั้งแต่ 20 ปีและในเวทีแสดงวิสัยทัศน์เมื่อเดือนสิงหาคม

เมื่อถามถึงความเสี่ยงทั้งตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่เต็มไปด้วยนักร้องเรียน ดร.ปุรวิชญ์ มองว่า คุณจะขายอะไรก็แล้วแต่ก็ตามแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเสถียรภาพกับความเชื่อมั่น เพราะตั้งแต่วันแรกที่นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนก่อตั้งคำถามแล้วว่าจะเป็นได้กี่วัน กี่เดือน ทั้งการเป็นรัฐบาลผสม รวมถึงการเมืองระบบโควตาจะเข้ารูปเข้ารอยกันได้มากแค่ไหน

อีกเรื่องคือนิติสงคราม ของบรรดานักร้องเรียนแค่ยังไม่ทันจะแถลบนโยบายของรัฐบาล ก็มีคำร้องกับตัวของนายกรัฐมนตรี เป็น 10 เรื่อง ทั้งตำแหน่งหน้าที่ เรื่องหุ้น เรื่องจริยธรรม เรื่อง ครอบงำพรรค แล้วบอกว่าจะยังมีอีกเยอะ มาอีกเยอะมาก แล้วแต่ว่าจะเลือกเรื่องไหนขึ้นมา จึงเป็นคำถามตอบมาว่าเสถียรภาพของรัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน แม้ว่าจะมีโปรเจ็คใหญ่อย่างเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ อีวี ดิจิตอลอีโคโนมี่ แต่คำถามคือจะอยู่ได้กี่วัน กี่เดือน

ขณะที่เรื่องของความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล เช่น สมัยนายเศรษฐาเป็นเซลล์แมนที่ไปขายเจรจาเรื่องธุรกิจทั่วโลกแต่ปรากฏว่ายังไม่ถึงหนึ่งปีก็พ้นจากตำแหน่ง ส่วนนางสาวแพทองธารยังไม่ทันจะเข้าตำแหน่ง ก็มีมีดมาจ่อเต็มไปหมด ที่สำคัญคือระบบราชการหากเชื่อว่าอยู่ได้ไม่นาน จะเกิดระบบเกียร์ว่างได้ (ทำไปทำไมเสี่ยง) แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่านางสาวแพทองธาร อยากจะอยู่ครบ 3 ปี และมีความเชื่อมั่นจะอยู่ได้ แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยคำร้อง มองว่า หากมีคำร้อง 10 เรื่อง ก็อาจมีสักเรื่องที่อาจจะเข้าเป้าได้ และมีกรณีของนายเศรษฐา ให้เห็นซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดจะหลุดจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับ นางสาวแพทองธารที่ถือว่าเป็นโจทย์ที่หนัก ไม่ง่าย ซึ่งแต่ละเรื่องบรรทัดฐานที่ผ่านมาเอาแน่เอาลงไม่ได้ ต้องเจอกับนักร้องที่ปรากฏตัว และนักร้องนิรนาม ยุบพรรค ส่วนจะป้องกันอย่างไร หรือต้องรีบดันนโยบายให้สำเร็จ จึงต้องรีบขาย 10 นโยบายเร่งด่วน ให้เห็นผลตั้งแต่1 เดือนแรก

“การเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโครงสร้างออกแบบโดยรัฐธรรมนูญ60 ภายหลังรัฐประหารปี 57 คือมีลักษณะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอองค์กรอิสระและศาลมีอำนาจมาก ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ตามเหมือนเดินไต่บนเส้นลวด คุณไม่รู้เลยว่าการเดินอยู่บนเส้นลวดจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ และหากมองในมุมพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าหากการขายสิทธิ์นโยบายเร่งด่วนโดยเฉพาะเรื่องเงิน 10,000 บาทได้สำเร็จจะเป็นเกาะป้องกันว่าอย่างน้อยก็มีผลงาน ส่วนจะได้คะแนนเสียงหลังจากนี้มากน้อยแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” ดร.ปุรวิชญ์ ระบุ .-316 (1) สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายเผารถ-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี

ปัตตานี 26 มิ.ย. – คนร้ายเผารถ อบต.-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เขาตรึงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวน เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่อำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี หลายจุด มีรายงานว่า รถของ อบต.แป้น ถูกลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย และในพื้นที่โดยรอบยังพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั้งที่ ม.3 ต.กะรุบี ม.8 ต.ตะโละดือรามัน และ ม.4 ต.ปล่องหอยอำเภอกะพ้อ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ เข้าตรึงพื้นที่ และดำเนินการเก็บกู้ ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและสอดส่องตามจุดเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และอยู่ระหว่างการสืบสวนถึงมูลเหตุจูงใจ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเหตุผิดปกติ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]