ประธานวุฒิสภา ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่เคยหลงตัวเอง

รัฐสภา 10 ก.ย.-ประธานวุฒิสภา ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง วางอุเบกขา ไม่เคยหลงตัวเอง เคลียร์ใจ สว. กรณีเบรกไม่ให้พูดในสภา เพราะกินเวลาคนอื่น ชี้คิดต่างไม่ถือว่าแตกแยก ถือเป็นความงดงาม ขณะ “เกรียงไกร” รับเป็นมือใหม่ ไม่สามารถทำให้ทุกคนถูกใจได้ ต้องยึดระเบียบ

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อม พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ร่วมเสวนาทิศทางการทำงานของประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา โดยมี สว. และสื่อมวลชนเข้าร่วม


ประธานวุฒิสภา กล่าวว่าตนไม่เคยเบื่อที่จะฟังสมาชิกวุฒิสภาพูด เพราะยิ่งฟัง ก็ยิ่งได้ความรู้ ซึ่ง สว. หลายคนเป็นคนที่มีความรู้ ในด้านต่างๆ บางครั้งมากกว่าตนด้วยซ้ำ และย้ำว่คนที่ทำหน้าที่เป็นประธาน สิ่งที่ต้องตระหนักเสมอคือต้องวางอุเบกขาให้ได้ ซึ่ง สว.แต่ละคนคิดได้ ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน คิดต่างได้ ซึ่งการคิดต่างคือความงดงาม เสมือนดอกไม้ที่หลากหลายคิดต่างกับแตกแยกไม่เหมือนกัน ดังนั้นประธานต้องวางอุเบกขา คือต้องไม่โกรธไม่เกลียด รับได้และไม่หลงตัวเอง เพราะถ้าหลงก็จะใช้อำนาจเสมือนตัวเองเหนือกว่า ดังนั้น บางทีที่ต้องเบรคบางคนเวลาอภิปรายในสภา ก็ต้องขอโทษ และขอเรียนตรงๆว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่เบรค ซึ่งบางทีสิ่งที่ สว.พูดเป็นประโยชน์ แต่ยาวมากเกินไป ไปกินเวลาคนอื่น จึงต้องเบรก ก็ต้องขออภัยด้วย พร้อม ระบุด้วยว่าสิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คือต้องให้เกียรติและเมื่อถึงเวลาแล้วก็ต้องมาพูดคุยกัน ตนพร้อมที่จะพูดคุยไม่ใช่รวบอำนาจไว้ที่ตัวเอง หรือฟังแต่สิ่งที่ตัวเองอยากจะฟัง และถือว่าการได้มาพบกับ สว.และสื่อถือว่าเป็นบุญ ขอย้ำว่าศูนย์รวมของพวกเราคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความผาสุกของประชาชนชาวไทย ดังนั้นหากตนทำอะไรให้ไม่ถูกใจ หรือมีอะไร ก็สามารถตำหนิติเตียนได้ ยินดีน้อมรับ และจะทำให้ดีที่สุด

สำหรับเป้าหมายในการขับเคลื่อนภารกิจของวุฒิสภานั้น ประธานวุฒิสภา ย้ำว่าการทำงานยึดภารกิจของบ้านเมืองเป็นหลัก ส่วนเรื่องส่วนตัวเมื่อทำหน้าที่แล้วต้องตัดออก จะต้องยอมสละเวลา ทุ่มเทเวลา เพราะ มีคนอยู่สองวัยคือวัยหนึ่งเป็นวัย40-50 ปี เป็นคนร่วมสมัยมีประสบการณ์สูง และตนถือเป็นวัยสุดท้ายที่ทำอะไรไป ไม่มีข้อแก้ตัว ในสิ่งที่ผิดพลาดไปดังนั้นสิ่งที่จะต้องทำ จะต้องทำอย่างสุจริต คือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด


พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา เริ่มต้นที่ระบุว่า ขอสันติสุขจงมีแก่พวกเราทุกคน พร้อมเล่าถึงบริบทของชีวิตที่เคยรับราชการมาตลอด 30 กว่าปี บทบาทกลับมาพลิกผันอีกครั้งของชีวิตคือ ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ส่วนตัวไม่ได้ตั้งใจที่จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา เพียงแต่อยากเป็นสว.เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และไม่อยากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเหนือความคาดหมายที่มาอยู่ในบทบาทของรองประธานวุฒิสภาได้ทำหน้าที่ แต่เมื่อได้รับเลือกก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่ประธานวุฒิสภามอบหมาย แม้ว่าบางครั้งเพื่อนสมาชิกอาจไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ พวกเรามือใหม่หัดขับกันทั้งนั้น กฎระเบียบข้อบังคับก็ศึกษากันไป ย่อมมีข้อบกพร่องกันบ้าง แต่ระหว่างการทำหน้าที่ประธานก็ต้องยึดตามระเบียบข้อบังคับ ส่วนตัวตั้งใจฟังสมาชิก และได้ประโยชน์หลายอย่าง เพราะมาจาก 20 กลุ่มอาชีพ

“บางครั้งผมอยากอภิปรายบ้างเช่น นายแพทย์เปรมศักดิ์ พูดถึงเรื่องน้ำท่วมก็อยากพูดบ้าง แต่พูดไม่ได้ ตามบทบาทหน้าที่ หลังลงจากบัลลังก์ก็มาพรั่งพรูกับสมาชิก แต่ถือเป็นประสบการณ์ ทุกท่านสามารถมีคำติและคำชมได้ตลอด พร้อมรับฟังความเห็นต่าง 5 ปีจากนี้เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มทุนความรู้และจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” พลเอกเกรียงไกร กล่าว

พลเอกเกรียงไกร ย้ำว่าวุฒิสภาจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อประชาชน เชื่อว่า สว.มีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพื่อประชาชนและเราถือเป็นส่วนหนึ่งของสภาแห่งนี้ อยากให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หากจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่ารักในสิ่งที่เขาเกลียด และอย่าเกลียดในสิ่งที่เขารัก ลงมือทำคือคำตอบ


ขณะที่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง กล่าวว่า ตนชินแล้ว พอได้เห็นหน้าค่าตาสื่อมวลชนประจำ กกต. เจอคำถามหนักๆ มาตั้งแต่เป็น กกต.แล้ว การให้สัมภาษณ์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตนมาเป็นรองประธานวุฒิสภา พวกเราต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป. ข้อบังคับเดียวกัน การทำหน้าที่บนบัลลังก์ต้องระมัดระวังด้วย มีหลายครั้งที่ตนอยากจะพูดว่าบนบัลลังก์แต่พูดไม่ได้

“เรามือใหม่ด้วยกันทั้งหมด เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังนิดหนึ่งหรือแม้กระทั่งการรักษาเวลาในการพูดก็ต้องรักษา บางทีพูดจบแล้วหาทางลงไม่ได้บางทีการหารือก็ต้องเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ ไปกำชับท่านมาก ท่านก็หาว่าผมอีกเคร่งครัด ทำงานไปเรื่อยๆก็คงสนิทไปเรื่อยๆ ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ” นายบุญส่ง กล่าว

นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า สำหรับสื่อมวลชนคงไม่มีอะไรจะฝาก ตนฝากประเด็นให้ท่านขยายต่อเรื่องภารกิจด่วนของรัฐบาล ตนเห็นว่าหลายประเด็นเป็นประเด็นที่กระทบกระเทือนกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประเด็นแรกการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการให้เช่าที่ดิน 99 ปี

“เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส เราคงจะพูดกันอีกยาว ในการแถลงการณ์นโยบายของรัฐบาลพวกเราควรจะถาม พวกเราควรจะชี้ให้เห็นว่ามันไม่ชอบอย่างไร วุฒิสภาเราไม่ควรเห็นด้วย 99 ปี เราไม่ใช่เมืองขึ้น จะเอาแบบฮ่องกง มาเก๊า พวกเราไม่ใช่ ฝากสื่อนิดหนึ่ง ควรจะตั้งเป็นคำถามไว้ตอบสังคมและประชาชน” นายบุญส่ง กล่าว

นายบุญส่ง ย้ำกับสื่อมวลชนว่า ตนอยากทราบที่มาของวุฒิสภาชุดตน ควรจะปรับปรุงควรจะแก้ไขอย่างไรหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่รอประธานวุฒิสภาเดินเข้าห้องประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับสื่อมวลชน ปรากฎว่าบริเวณที่สมาชิกวุฒิสภานั่งได้มีน้ำรั่วจากบริเวณฝ้าลงมาอย่างไม่ขาดสาย กระเด็นโดนสว.ที่นั่งใกล้เคียง ทำให้ สว.ต้องย้ายเก้าอี้หนีน้ำรั่วโดยทันที.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย