ประธานวุฒิสภา ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่เคยหลงตัวเอง

รัฐสภา 10 ก.ย.-ประธานวุฒิสภา ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง วางอุเบกขา ไม่เคยหลงตัวเอง เคลียร์ใจ สว. กรณีเบรกไม่ให้พูดในสภา เพราะกินเวลาคนอื่น ชี้คิดต่างไม่ถือว่าแตกแยก ถือเป็นความงดงาม ขณะ “เกรียงไกร” รับเป็นมือใหม่ ไม่สามารถทำให้ทุกคนถูกใจได้ ต้องยึดระเบียบ

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อม พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ร่วมเสวนาทิศทางการทำงานของประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา โดยมี สว. และสื่อมวลชนเข้าร่วม


ประธานวุฒิสภา กล่าวว่าตนไม่เคยเบื่อที่จะฟังสมาชิกวุฒิสภาพูด เพราะยิ่งฟัง ก็ยิ่งได้ความรู้ ซึ่ง สว. หลายคนเป็นคนที่มีความรู้ ในด้านต่างๆ บางครั้งมากกว่าตนด้วยซ้ำ และย้ำว่คนที่ทำหน้าที่เป็นประธาน สิ่งที่ต้องตระหนักเสมอคือต้องวางอุเบกขาให้ได้ ซึ่ง สว.แต่ละคนคิดได้ ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน คิดต่างได้ ซึ่งการคิดต่างคือความงดงาม เสมือนดอกไม้ที่หลากหลายคิดต่างกับแตกแยกไม่เหมือนกัน ดังนั้นประธานต้องวางอุเบกขา คือต้องไม่โกรธไม่เกลียด รับได้และไม่หลงตัวเอง เพราะถ้าหลงก็จะใช้อำนาจเสมือนตัวเองเหนือกว่า ดังนั้น บางทีที่ต้องเบรคบางคนเวลาอภิปรายในสภา ก็ต้องขอโทษ และขอเรียนตรงๆว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่เบรค ซึ่งบางทีสิ่งที่ สว.พูดเป็นประโยชน์ แต่ยาวมากเกินไป ไปกินเวลาคนอื่น จึงต้องเบรก ก็ต้องขออภัยด้วย พร้อม ระบุด้วยว่าสิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คือต้องให้เกียรติและเมื่อถึงเวลาแล้วก็ต้องมาพูดคุยกัน ตนพร้อมที่จะพูดคุยไม่ใช่รวบอำนาจไว้ที่ตัวเอง หรือฟังแต่สิ่งที่ตัวเองอยากจะฟัง และถือว่าการได้มาพบกับ สว.และสื่อถือว่าเป็นบุญ ขอย้ำว่าศูนย์รวมของพวกเราคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความผาสุกของประชาชนชาวไทย ดังนั้นหากตนทำอะไรให้ไม่ถูกใจ หรือมีอะไร ก็สามารถตำหนิติเตียนได้ ยินดีน้อมรับ และจะทำให้ดีที่สุด

สำหรับเป้าหมายในการขับเคลื่อนภารกิจของวุฒิสภานั้น ประธานวุฒิสภา ย้ำว่าการทำงานยึดภารกิจของบ้านเมืองเป็นหลัก ส่วนเรื่องส่วนตัวเมื่อทำหน้าที่แล้วต้องตัดออก จะต้องยอมสละเวลา ทุ่มเทเวลา เพราะ มีคนอยู่สองวัยคือวัยหนึ่งเป็นวัย40-50 ปี เป็นคนร่วมสมัยมีประสบการณ์สูง และตนถือเป็นวัยสุดท้ายที่ทำอะไรไป ไม่มีข้อแก้ตัว ในสิ่งที่ผิดพลาดไปดังนั้นสิ่งที่จะต้องทำ จะต้องทำอย่างสุจริต คือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด


พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา เริ่มต้นที่ระบุว่า ขอสันติสุขจงมีแก่พวกเราทุกคน พร้อมเล่าถึงบริบทของชีวิตที่เคยรับราชการมาตลอด 30 กว่าปี บทบาทกลับมาพลิกผันอีกครั้งของชีวิตคือ ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ส่วนตัวไม่ได้ตั้งใจที่จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา เพียงแต่อยากเป็นสว.เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และไม่อยากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเหนือความคาดหมายที่มาอยู่ในบทบาทของรองประธานวุฒิสภาได้ทำหน้าที่ แต่เมื่อได้รับเลือกก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่ประธานวุฒิสภามอบหมาย แม้ว่าบางครั้งเพื่อนสมาชิกอาจไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ พวกเรามือใหม่หัดขับกันทั้งนั้น กฎระเบียบข้อบังคับก็ศึกษากันไป ย่อมมีข้อบกพร่องกันบ้าง แต่ระหว่างการทำหน้าที่ประธานก็ต้องยึดตามระเบียบข้อบังคับ ส่วนตัวตั้งใจฟังสมาชิก และได้ประโยชน์หลายอย่าง เพราะมาจาก 20 กลุ่มอาชีพ

“บางครั้งผมอยากอภิปรายบ้างเช่น นายแพทย์เปรมศักดิ์ พูดถึงเรื่องน้ำท่วมก็อยากพูดบ้าง แต่พูดไม่ได้ ตามบทบาทหน้าที่ หลังลงจากบัลลังก์ก็มาพรั่งพรูกับสมาชิก แต่ถือเป็นประสบการณ์ ทุกท่านสามารถมีคำติและคำชมได้ตลอด พร้อมรับฟังความเห็นต่าง 5 ปีจากนี้เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มทุนความรู้และจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” พลเอกเกรียงไกร กล่าว

พลเอกเกรียงไกร ย้ำว่าวุฒิสภาจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อประชาชน เชื่อว่า สว.มีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพื่อประชาชนและเราถือเป็นส่วนหนึ่งของสภาแห่งนี้ อยากให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หากจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่ารักในสิ่งที่เขาเกลียด และอย่าเกลียดในสิ่งที่เขารัก ลงมือทำคือคำตอบ


ขณะที่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง กล่าวว่า ตนชินแล้ว พอได้เห็นหน้าค่าตาสื่อมวลชนประจำ กกต. เจอคำถามหนักๆ มาตั้งแต่เป็น กกต.แล้ว การให้สัมภาษณ์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตนมาเป็นรองประธานวุฒิสภา พวกเราต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป. ข้อบังคับเดียวกัน การทำหน้าที่บนบัลลังก์ต้องระมัดระวังด้วย มีหลายครั้งที่ตนอยากจะพูดว่าบนบัลลังก์แต่พูดไม่ได้

“เรามือใหม่ด้วยกันทั้งหมด เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังนิดหนึ่งหรือแม้กระทั่งการรักษาเวลาในการพูดก็ต้องรักษา บางทีพูดจบแล้วหาทางลงไม่ได้บางทีการหารือก็ต้องเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ ไปกำชับท่านมาก ท่านก็หาว่าผมอีกเคร่งครัด ทำงานไปเรื่อยๆก็คงสนิทไปเรื่อยๆ ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ” นายบุญส่ง กล่าว

นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า สำหรับสื่อมวลชนคงไม่มีอะไรจะฝาก ตนฝากประเด็นให้ท่านขยายต่อเรื่องภารกิจด่วนของรัฐบาล ตนเห็นว่าหลายประเด็นเป็นประเด็นที่กระทบกระเทือนกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประเด็นแรกการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการให้เช่าที่ดิน 99 ปี

“เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส เราคงจะพูดกันอีกยาว ในการแถลงการณ์นโยบายของรัฐบาลพวกเราควรจะถาม พวกเราควรจะชี้ให้เห็นว่ามันไม่ชอบอย่างไร วุฒิสภาเราไม่ควรเห็นด้วย 99 ปี เราไม่ใช่เมืองขึ้น จะเอาแบบฮ่องกง มาเก๊า พวกเราไม่ใช่ ฝากสื่อนิดหนึ่ง ควรจะตั้งเป็นคำถามไว้ตอบสังคมและประชาชน” นายบุญส่ง กล่าว

นายบุญส่ง ย้ำกับสื่อมวลชนว่า ตนอยากทราบที่มาของวุฒิสภาชุดตน ควรจะปรับปรุงควรจะแก้ไขอย่างไรหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่รอประธานวุฒิสภาเดินเข้าห้องประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับสื่อมวลชน ปรากฎว่าบริเวณที่สมาชิกวุฒิสภานั่งได้มีน้ำรั่วจากบริเวณฝ้าลงมาอย่างไม่ขาดสาย กระเด็นโดนสว.ที่นั่งใกล้เคียง ทำให้ สว.ต้องย้ายเก้าอี้หนีน้ำรั่วโดยทันที.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]