“ศิริกัญญา” หวังแบ่งจ่ายเงินหมื่น ไม่ใช่เรื่องจริง

รัฐสภา 10 ก.ย.- “ศิริกัญญา” หวังแบ่งจ่ายเงินหมื่นดิจิทัลฯ ไม่ใช่เรื่องจริง หวั่นพายุหมุนกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้และไม่ตรงกับที่เคยสัญญาไว้ช่วงหาเสียง แต่ไม่แปลกใจเพราะหาแหล่งเงินไม่ทัน คาดงวด 2 อาจต้องรออีก 1 ปี บอกจะช่วยคิดทำอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย


นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟส 2 สำหรับบุคคลทั่วไปอาจแบ่งจ่าย 2 งวด โดยเป็นเงินสด 5,000 บาท ในช่วงเดือนตุลาคม และจ่ายเป็นดิจิทัลวอลเล็ต อีก 5,000 บาทในปีหน้า ว่า หวังว่าสิ่งที่นายภูมิธรรมพูดจะไม่ใช่เรื่องจริง ต้องรอคอยความชัดเจนจากผู้มีอำนาจและส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ทั้ง นายกรัฐมนตรี หรือนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตลอดจนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการจ่ายเงินเฟสที่ 2 ให้กับคนประมาณ 30 ล้านคน ซึ่งหากมีการแบ่งจ่ายจริง ก็จะทำให้โครงการนี้ไม่เป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ และที่รัฐบาลพยายามจะอธิบายมาตลอด 1 ปี

ทั้งนี้นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า การแบ่งจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็น 2 งวด ก็ไม่ใช่เอาเรื่องน่าแปลกใจ เพราะจนถึงขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ผ่านความเห็นชอบของทั้ง 2 สภา แล้วแต่รัฐบาล มีงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการประมาณ 187,700 ล้านบาท เพียงพอแจกสำหรับคน 19 ล้านคน ยังไม่เพียงพอต่อการจ่ายให้กับคน 30 ล้านคนได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องสอบถามกับรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ประจวบเหมาะกับการที่นายภูมิธรรม ออกมาบอกว่าจะมีการแบ่งจ่ายออกเป็น 2 งวด ก็เป็นไปตามคาดการณ์ว่าสาเหตุมาจากเม็ดเงินไม่เพียงพอ โดยมีการอ้างเงื่อนไข 2 เรื่อง คือ 1.ไม่แน่ใจว่าระบบการชำระเงินจะเสร็จทันหรือไม่ ซึ่งจะทำให้การจ่ายเงิน 5,000 บาทในงวดแรก จ่ายเป็นเงินสดหรือกลไกลทางอื่น หากเป็นเช่นนั้นแล้วจะยังเรียกโครงการนี้ว่าดิจิทัลได้อีกหรือไม่ 2.แหล่งที่มาของเงินในงวดที่ 2 อีก 5,000 บาทจะนำมาจากที่ใด เพราะงบประมาณปี 2568 ไม่เพียงพอ จึงอาจต้องเลื่อนจ่าย ไปเป็นปีงบประมาณ 2569 ซึ่งจะเริ่มจ่ายได้หลังวันที่ 1 ตุลาคมปี 2568 หรืออีก 1 ปีนับจากนี้ ดังนั้นหากเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนและออกมาพูดมากเท่าไหร่จะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสนว่าสุดท้ายเงินจะได้หรือไม่ได้ และจะได้เป็นเงินสด หรือผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สิ่งที่น่ากังวลคือผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่จะเกิดขึ้นจากเดิมที่จะเป็นพายุหมุนเข้ามากระแทก แต่ตอนนี้พายุหมุนได้ลดกำลังลงเหลือเพียงแค่หย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งไม่สามารถจะทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มากอย่างที่เคยโฆษณาไว้แล้ว แล้วจะมีมาตรการใดมาทำให้เศรษฐกิจโตได้ตามเป้าหมายที่เคยตั้งไว้


ส่วนความไม่แน่นอนของนโยบายจะทำให้เกิดความแปรปรวนหรือผลกระทบหรือไม่นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ความไม่แน่นอนความไม่ชัดเจนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสับขาหลอกและชักเข้าชักออกตลอดเวลาแบบนี้ ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดน้อยถอยลง ประชาชนชาวรากหญ้ายังรอคอยความหวัง จากคำสัญญาที่เคยให้ไว้ในสมัยเลือกตั้ง ว่า จะมีเงินหมื่นเข้ากระเป๋าในทันทีหรือเร็วที่สุดหรือแม้แต่จะมีค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท หรือตามสภาวะเศรษฐกิจ เด็กจบใหม่ในระดับปริญญาตรี จะมีเงินเดือน 25,000 บาท คำสัญญาเหล่านั้นมันค่อยๆ จางหายไปตามระยะเวลาที่รัฐบาลเพื่อไทยเดินหน้าทำงาน ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล รวมถึงความเชื่อมั่นที่จะออกไปจับจ่ายใช้สอยก็ลดน้อยถอยลงไปด้วย

ทั้งนี้ นางสาวศิริกัญญา เปิดเผยว่ารายละเอียดที่รับรองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยเรื่องไทม์ไลน์การแบ่งจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ส่งให้รัฐสภา ซึ่งสิ่งที่ระบุไว้ในนโยบายบอกเพียงว่า จะทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้าง โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลให้กับภาคประชาชน

“ตอนแรกยังจับผิดว่ามีความแตกต่างระหว่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลคุณเศรษฐา และคุณแพทองธาร ว่าคำว่า 10,000 บาทมันหายไป และคิดว่าเดี๋ยวคงจะต้องมา พูดเรื่องนี้ในสภา วันหนึ่งหมื่นบาทหายไปอย่าทำให้ประชาชนใจเสีย รีบบอกมาว่ายังจ่าย 10,000 บาทอยู่ แต่ความชัดเจนก็เริ่มปรากฏขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจากการที่คนคงทำออกมายอมรับ ว่าจะต้องแบ่งจ่ายออกเป็นครั้งละ 5,000 บาท เราจึงต้องมาประเมินใหม่ทั้งหมดว่าสรุปแล้วโครงการนี้จะต้องเดินหน้าต่อในรูปแบบใด และแหล่งที่มาของเงินจะหาได้ครบเมื่อไหร่ รวมถึงผลกระทบที่จะเข้ามากระตุกเศรษฐกิจจากอาการโคม่ามากแค่ไหน คงต้องมาพูดกันใหม่หมดเลย”


ส่วนกังวลหรือไม่นั้นว่าหากมีการจ่ายเงินไปแล้ว จะเกิดการรั่วไหลหรือการทุจริต ในการดำเนินโครงการนั้น นางสาวศิริกัญญา เชื่อว่าความไม่สับสน กลับไปกลับมา ไม่ได้มีเจตนาเพื่อให้เกิดการโกงหรือคอร์รัปชัน แต่เป็นเพราะไม่ได้มีการคิดอย่างรอบคอบไปจนจบทำให้เกิดช่องโหว่ในตัวระบบได้ จึงทำให้เกิดความกังวลได้ว่าระบบชำระเงินที่เร่งรัดจะใช้บล็อกเชน จนลืมตรวจเช็กศักยภาพของระบบว่าจะไม่ล่มเงินไม่หายก็อาจทำให้ถูกโจมตีได้ ซึ่งช่องโหว่ก็เกิดขึ้นจากการคิดไม่ถี่ถ้วน ตอนนี้ความเสี่ยงด้านกฎหมายค่อยๆ คลี่คลายไปทีละเปาะแล้ว เหลือเพียงไม่กี่เรื่องแต่ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เช่น การนำเงินชำระหนี้จาก ธ.ก.ส. มาดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก่อน แต่ก็ไม่ได้มีความผิดถึงขั้นต้องเข้าคุก ความเสี่ยงในตอนนี้คือการไม่สามารถดำเนินโครงการไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง ซึ่งเราคัดค้านมาโดยตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับรูปแบบนี้ แต่ตอนนี้มาถึงจุดที่มีการลงทุนลงแรง ทางทรัพยากรและงบประมาณต่างๆ ที่ถูกออกแบบไว้สำหรับโครงการนี้ค่อนข้างมากแล้ว เรียกได้ว่ากลับตัวก็ไม่ได้ แต่เดินต่อไปก็ไปไม่ถึงเหมือนกัน ใจจริงยังช่วยคิดดูว่าจะมีทางออกสำหรับโครงการนี้อยู่ เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อได้ โดยไม่ต้องทำผิดกฎหมาย แต่แม้โครงการนี้จะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แล้ว ก็เรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการอื่นๆ มาช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้นและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีกว่าเดิม เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นแก้ไขปัญหาเรื่องค่าครองชีพ.-319 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]

บ้านห้วยเต่าปะทะเดือด! ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

สงขลา 11 ก.ย.- ปะทะเดือด! เจ้าหน้าที่ปิดล้อมไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ บ้านห้วยเต่า ขณะที่รถหุ้มเกราะทหารตกเหวขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ บาดเจ็บ 8 นาย เกิดเหตุปะทะที่บ้านห้วยเต่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขณะที่ชุดจรยุทธกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ได้พบกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชุดของนายอุสมี ได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่และหลบหนีเข้าไปในบ้านห้วยเต่า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายของอำเภอสะบ้าย้อยและพื้นที่ใกล้เคียงได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกว่า นายอุสมีน่าจะมีกำลังอยู่ประมาณ 4-5 คน และเคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยเป็นหลัก ขณะที่รถหุ้มเกราะทหาร ร.5 พัน 3 ตกเหว ขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ มีทหารบาดเจ็บ 8 นาย นำตัวส่ง รพ. นาทวี แล้ว ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด พื้นที่บ้านห้วยเต่า แล้ว -สำนักข่าวไทย