ฝ่ายค้านขอรัฐตอบให้ชัด-ตรงคำถาม จองกฐินแล้ว 30 คน

รัฐสภา 9 ก.ย.- “ปกรณ์วุฒิ” บอกฝ่ายค้านทำการบ้านล่วงหน้า ดูหัวข้อรอเคาะคนอภิปรายนโยบายรัฐ เบื้องต้นมี 30 คนจอง ตั้งธงถามดิจิทัลวอลเล็ต ขอรัฐแจงให้ชัด-ตรงประเด็น ขณะ พปชร. ยังไม่ประสานร่วมงานฝ่ายค้าน และไทยสร้างไทยกลับมาโหวตตามฝ่ายค้าน รอคุยเรื่องอนาคต


นายปกรณ์วุฒิ อุดม​พิพัฒน์​สกุล รักษาการประธานวิปฝ่ายค้าน สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เปิดเผยว่าพรรคประชาชนได้มีการเสนอหัวข้อ สำหรับการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่ยังไม่ได้รับร่างแถลงนโยบายรัฐบาล และเมื่อได้รับร่างแถลงนโยบายแล้วคณะกรรมการก็ได้มาจัดหมวดหมู่ ว่ามีนโยบายเร่งด่วนใดที่จำเป็นต้องอภิปรายบ้าง หรือมีนโยบายใดที่ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ แล้วจะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกหัวข้อกันต่อ เบื้องต้น มีผู้แสดงความประสงค์อภิปรายประมาณ 30 คนโดยต้องจัดสรรเวลาอีกครั้ง ส่วนตัวแทนของพลังประชารัฐยังไม่ได้มาพูดคุยกัน ยังไม่มีใครประสานงานมา ซึ่งอาจจะต้องละเว้นไปก่อน เพื่อมาพูดคุยเงื่อนไขกันในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีพรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่หลังไมค์มา ขอโควตาเวลาแล้ว คงจะต้องบริหารจัดการเวลากันไป

ส่วน พรรคไทยสร้างไทย นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่าในการลงมติโหวต ทิศทางเดียวกับพรรคฝ่ายค้านเหมือนเดิมแล้ว จากการตรวจสอบผลโหวตแต่ยังไม่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการ คงต้องคุยกันอีกครั้งว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้คิดว่าจะสามารถบริหารจัดการเวลา 13 ชั่วโมงที่ได้รับในสัดส่วนของฝ่ายค้านได้


นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่าถ้าสังเกตดีๆ สัดส่วนเวลาคณะรัฐมนตรีได้เพิ่ม จากเวลาของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นความตั้งใจของทุกฝ่ายที่อยากให้คณะรัฐมนตรีมีเวลาชี้แจงอย่างเต็มที่ ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังว่า รัฐมนตรีจะต้องชี้แจงไปในทิศทางใด แต่สิ่งที่ต้องการคือความชัดเจน เวลาตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกตหรือสงสัยอยากให้ตอบให้ชัดเจน ตรงคำถาม ไม่ตอบข้อมูลเฉพาะที่ข้าราชการเตรียมให้หรือเปิดคลิป วิดีโอให้ดู เพราะจะไม่เป็นประโยชน์ต่อเวลาของสภา จึงอยากให้เก็บตกคำถามของ สส. สว. ทุกคน และตอบคำถามอย่างตรงประเด็นก็คิดว่าน่าจะเป็นที่พอใจแล้ว

ส่วนที่มีคนติดใจว่าเป็นการใช้คำแถลงนโยบายเดิมของรัฐบาลนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีไม่ได้เขียนเอง นายปกรณ์วุฒิคิดว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องยอมรับว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหน้าตา จึงไม่น่าแปลกใจ ที่นโยบายไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะไม่ได้เป็นการพลิกขั้วรัฐบาล นโยบายจึงยังเหมือนเดิมแต่ก็มีจุดแตกต่าง ที่พักฝ่ายค้านต้องตั้งข้อสังเกตเช่น บางเรื่องที่โผล่ขึ้นมาใหม่ หรือบางเรื่องที่เคยมีแต่หายไป หรือบางเรื่องที่ควรเป็นเรื่องเร่งด่วนแต่ไม่ถูกบรรจุในเรื่องเร่งด่วน ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

ส่วนนโยบายที่มีความสำคัญในอนาคต ในคำแถลงนโยบายยังไม่มีกรอบอะไรที่ชัดเจน กังวลหรือไม่นั้น นายปกรณ์วุฒิ กะว่าพยายามทำความเข้าใจ ว่าการแถลงนโยบายมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถใส่รายละเอียดลงลึก ได้มาก แต่เวทีแถลงนโยบายเป็นเวทีสำคัญ สมาชิกก็ต้องสอบถามเพื่อให้รัฐบาลชี้แจง ให้ชัดเจน ว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร


สำหรับนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่และคงมีสมาชิกอภิปรายทวงถามอย่างแน่นอน ของรัฐบาลอย่างแน่นอนเพราะมีการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนไปมา จนที่สุดอยู่ในร่างแถลงนโยบายของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งต้องถามความชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ และพรรคประชาชนเคยทวงถามหลายครั้งว่าในบางรายละเอียดอาจ สุ่มเสี่ยงต่อการขัดต่อกฎหมาย บางฉบับหรือบางเงื่อนไข ถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คงต้องรอ คำตอบที่ชัดเจนว่า 1 ปีกว่าแล้วนิ่งหรือยัง.-319 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย