นายกฯ หวังอยู่ครบ 3 ปี ลั่นเดินหน้าทำงานเต็มที่

ทำเนียบฯ 7 ก.ย. – นายกฯ หวังอยู่ครบ 3 ปี ลั่นเดินหน้าทำงานเต็มที่ ระบุ 3 เดือนแรกมีสรุปผลงาน บอกเกิดมาไม่เคยมีคดีความและไม่อยากมี เพราะลูกยังเล็ก โดยจะรับมือให้ดีที่สุด ระวังข้อกฎหมายรัดกุม ขอจบดราม่าไม่พูดเรื่อง “ระบอบทักษิณ”


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีทั้ง 35 คน แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่ดิฉันและคณะรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน” นับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิตของดิฉันและคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ตนและคณะรัฐมนตรีทุกคนพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ เราจะทำงานแข่งกับเวลา ทุกนาที ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเราคือผู้แทนของประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ เรามาจากพรรคการเมืองที่มีความแตกต่างหลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างช่วงวัย เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็ง ให้รู้ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและทันเวลา

น.ส.แพทองธาร ยังขอให้ความมั่นใจว่าจะใช้ความสามารถในการประสานพลังกับคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ให้ทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ เชื่อว่าโอกาสคือสิ่งที่เราสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ คณะรัฐมนตรีและข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมแล้วที่จะทำงานอย่างแน่วแน่และมั่นคง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทำงานเป็นทีมสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมให้กับประชาชน และไม่ใช่เริ่มพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตนได้ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านช่วยกันดำเนินการต่อเนื่อง จากงานของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ และขอให้ทุกกระทรวงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตลอดทั้งปี


เมื่อถามว่านายกฯ มีเวลา 3 ปี ได้ตั้งการประเมินผลงานตัวนายกฯ เอง และรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การวัดการประเมินต่างๆ คงต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกว่าเราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ส่วนของนโยบายต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคือนโยบายอะไร ในใจคิดว่าต้องสรุปให้ประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกแน่นอน แต่ส่วนตัวจะนัดรัฐมนตรีแต่ละท่านมาร่วมพูดคุยกันทุกกระทรวง โดยจะสลับกระทรวงกันไป ซึ่งได้วางเวลากันแล้วว่าจะเป็นช่วงไหน อยากให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้เวลามอบหมายอะไรไปแล้วไม่สามารถถามได้ว่าอยู่ตรงไหน คิดว่าทุกท่านก็มีความตั้งใจที่จะทำตามนโยบายอยู่แล้ว คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้เร็วขึ้น

เมื่อถามว่าการเมืองปัจจุบันนิติสงครามทางการเมือง จะสู้รบอย่างไร เพื่อให้การทำงานอยู่ครบ 3 ปี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกท่านความตั้งใจอยู่แล้ว เรื่องของกฎหมายเรามีทีมกฎหมาย แต่แน่นอนในคณะรัฐมนตรีมีผู้มีประสบการณ์และมีรัฐมนตรีใหม่ ฉะนั้นเราปรึกษากันและกัน ประสบการณ์เหล่านี้บางทีต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย เพราะบางเรื่องไม่สามารถตอบได้ว่าขาวหรือดำ แน่นอนว่าต้องมีความตั้งใจและดูทุกอย่างปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบและรัดกุม

เมื่อถามว่า นายกฯ ไม่กังวลกับคิวกฐินที่รอนายกฯ อยู่ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ย้อนถามว่าคิวกฐินเลยหรือนี่ คือคำเปรียบเปรียบเทียบใช่หรือไม่ เมื่อสื่อตอบว่ามีนักร้องเตรียมที่จะร้องหลายคดี นายกฯ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า แค่สื่อมวลชนถามก็น่าสงสารแล้ว ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดีจะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และความจริงไม่อยากมีคดี เพราะลูกยังเล็กอยู่เลย


เมื่อถามว่านโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างไปจากรัฐบาลของนายเศรษฐาบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือว่าเราเองอยากทำงานให้ครบ 3 ปี ให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน อย่างตอนนี้มีการเปลี่ยนนายกฯ และคณะรัฐมนตรี เราพยามตอกย้ำยืนหยัดว่าตั้งแต่สมัยนายเศรษฐาเป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย นโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้วค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม นโยบายครั้งนี้เราได้ปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากนายเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล ว่ามีตรงไหนหรือไม่ที่จะต้องปรับแก้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปรับแก้ต่างๆ จะทำให้เราสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และนโยบายที่เรารวบรวมในการแถลงในเล่มเป็นนโยบายที่เราใช้ตั้งแต่ตอนหาเสียง เราได้ตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลจนมาถึงตอนนี้ อยากแย้มได้เลยว่าค่อนข้างนโยบายเหมือนเดิม มีการเป็นปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ

เมื่อถามว่าการที่ น.ส.แพทองธาร ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ ด้วยความเป็นพ่อลูกกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้มีการมองว่าระบอบทักษิณกลับมาแล้วจะลบคำปรามาสนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จะไม่ขอตอบเรื่องนายทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไรก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้

เมื่อถามต่อว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในเดือน ก.ย.นี้ จะเห็นผลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องของไทน์ไลน์ ขอให้นายจุลพันธ์ อมรภิวัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นคนให้รายละเอียด แต่แน่นอนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทันที เพราะเป็นข้อแรกที่เราได้เน้นย้ำและจะต้องทำงานกันต่อไป

นายกรัฐมนตรียังตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศที่สอบถามถึงกรณีหลายประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะสื่อสารกับต่างชาติเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย และเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าตนเองพร้อมที่จะทำให้ประเทศกลับมามีอนาคต และในวันนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี พร้อมจะเดินหน้า ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมานั้น เป็นความโชคร้ายของนายเศรษฐา ซึ่งพวกเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่พวกเราพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ และส่งต่อนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]