ทำเนียบฯ 7 ก.ย. – นายกฯ หวังอยู่ครบ 3 ปี ลั่นเดินหน้าทำงานเต็มที่ ระบุ 3 เดือนแรกมีสรุปผลงาน บอกเกิดมาไม่เคยมีคดีความและไม่อยากมี เพราะลูกยังเล็ก โดยจะรับมือให้ดีที่สุด ระวังข้อกฎหมายรัดกุม ขอจบดราม่าไม่พูดเรื่อง “ระบอบทักษิณ”
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีทั้ง 35 คน แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่ดิฉันและคณะรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน” นับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิตของดิฉันและคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ตนและคณะรัฐมนตรีทุกคนพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ เราจะทำงานแข่งกับเวลา ทุกนาที ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเราคือผู้แทนของประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ เรามาจากพรรคการเมืองที่มีความแตกต่างหลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างช่วงวัย เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็ง ให้รู้ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและทันเวลา
น.ส.แพทองธาร ยังขอให้ความมั่นใจว่าจะใช้ความสามารถในการประสานพลังกับคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ให้ทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ เชื่อว่าโอกาสคือสิ่งที่เราสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ คณะรัฐมนตรีและข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมแล้วที่จะทำงานอย่างแน่วแน่และมั่นคง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทำงานเป็นทีมสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมให้กับประชาชน และไม่ใช่เริ่มพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตนได้ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านช่วยกันดำเนินการต่อเนื่อง จากงานของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ และขอให้ทุกกระทรวงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตลอดทั้งปี
เมื่อถามว่านายกฯ มีเวลา 3 ปี ได้ตั้งการประเมินผลงานตัวนายกฯ เอง และรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การวัดการประเมินต่างๆ คงต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกว่าเราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ส่วนของนโยบายต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคือนโยบายอะไร ในใจคิดว่าต้องสรุปให้ประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกแน่นอน แต่ส่วนตัวจะนัดรัฐมนตรีแต่ละท่านมาร่วมพูดคุยกันทุกกระทรวง โดยจะสลับกระทรวงกันไป ซึ่งได้วางเวลากันแล้วว่าจะเป็นช่วงไหน อยากให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้เวลามอบหมายอะไรไปแล้วไม่สามารถถามได้ว่าอยู่ตรงไหน คิดว่าทุกท่านก็มีความตั้งใจที่จะทำตามนโยบายอยู่แล้ว คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้เร็วขึ้น
เมื่อถามว่าการเมืองปัจจุบันนิติสงครามทางการเมือง จะสู้รบอย่างไร เพื่อให้การทำงานอยู่ครบ 3 ปี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกท่านความตั้งใจอยู่แล้ว เรื่องของกฎหมายเรามีทีมกฎหมาย แต่แน่นอนในคณะรัฐมนตรีมีผู้มีประสบการณ์และมีรัฐมนตรีใหม่ ฉะนั้นเราปรึกษากันและกัน ประสบการณ์เหล่านี้บางทีต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย เพราะบางเรื่องไม่สามารถตอบได้ว่าขาวหรือดำ แน่นอนว่าต้องมีความตั้งใจและดูทุกอย่างปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบและรัดกุม
เมื่อถามว่า นายกฯ ไม่กังวลกับคิวกฐินที่รอนายกฯ อยู่ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ย้อนถามว่าคิวกฐินเลยหรือนี่ คือคำเปรียบเปรียบเทียบใช่หรือไม่ เมื่อสื่อตอบว่ามีนักร้องเตรียมที่จะร้องหลายคดี นายกฯ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า แค่สื่อมวลชนถามก็น่าสงสารแล้ว ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดีจะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และความจริงไม่อยากมีคดี เพราะลูกยังเล็กอยู่เลย
เมื่อถามว่านโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างไปจากรัฐบาลของนายเศรษฐาบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือว่าเราเองอยากทำงานให้ครบ 3 ปี ให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน อย่างตอนนี้มีการเปลี่ยนนายกฯ และคณะรัฐมนตรี เราพยามตอกย้ำยืนหยัดว่าตั้งแต่สมัยนายเศรษฐาเป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย นโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้วค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม นโยบายครั้งนี้เราได้ปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากนายเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล ว่ามีตรงไหนหรือไม่ที่จะต้องปรับแก้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปรับแก้ต่างๆ จะทำให้เราสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และนโยบายที่เรารวบรวมในการแถลงในเล่มเป็นนโยบายที่เราใช้ตั้งแต่ตอนหาเสียง เราได้ตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลจนมาถึงตอนนี้ อยากแย้มได้เลยว่าค่อนข้างนโยบายเหมือนเดิม มีการเป็นปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ
เมื่อถามว่าการที่ น.ส.แพทองธาร ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ ด้วยความเป็นพ่อลูกกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้มีการมองว่าระบอบทักษิณกลับมาแล้วจะลบคำปรามาสนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จะไม่ขอตอบเรื่องนายทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไรก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้
เมื่อถามต่อว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในเดือน ก.ย.นี้ จะเห็นผลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องของไทน์ไลน์ ขอให้นายจุลพันธ์ อมรภิวัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นคนให้รายละเอียด แต่แน่นอนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทันที เพราะเป็นข้อแรกที่เราได้เน้นย้ำและจะต้องทำงานกันต่อไป
นายกรัฐมนตรียังตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศที่สอบถามถึงกรณีหลายประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะสื่อสารกับต่างชาติเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย และเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าตนเองพร้อมที่จะทำให้ประเทศกลับมามีอนาคต และในวันนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี พร้อมจะเดินหน้า ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมานั้น เป็นความโชคร้ายของนายเศรษฐา ซึ่งพวกเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่พวกเราพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ และส่งต่อนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน.-319-สำนักข่าวไทย