บทบาท ปชช. ปัจจัยทำให้ประชาธิปไตย ยั่งยืน

บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ 6 ก.ย.- นักวิชาการ มองบทบาทประชาชน คือ ปัจจัยที่จะทำให้ประชาธิปไตยมีความยั่งยืน ชี้ การใช้ กม.ยุบพรรคต้องรอบคอบ พร้อมตั้งคำถาม ยุบแล้วลบอุดมการณ์ทางการเมืองได้จริงหรือ ขณะที่การเปิดช่องทางให้ ปชช.เข้าถึงข้อมูล นำไปสู่การพัฒนาระบบการเลือกตั้ง ยกระดับมาตรฐานทางการเมือง


นักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 14 (พตส.14) จัดปาฐกถาและการนำเสนอยุทธศาสตร์เชิงปฏิบัติการต่อสาธารณะ โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ ศาสตราภิชาน ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวปาฐกถาเรื่อง “ประชาธิปไตยฐานรากกับการสร้างพรรคการเมืองของประชาชน”

นายธงทอง กล่าวถึง พรรคการเมืองกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่หลายประเทศและคนส่วนใหญ่ศรัทธาว่าเป็นระบบการปกครองที่มีส่วนเสียน้อยที่สุด ตนไม่สามารถบอกได้ว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นมีความเพอร์เฟค แต่สามารถที่จะพัฒนาและสามารถที่จะติชม แก้ไขจุดอ่อนและแสวงหาความเจริญงอกงามขึ้นจากสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และส่งเสริมให้ก้าวหน้าได้เมื่อเทียบกับระบอบการปกครองอื่น


นายธงทอง กล่าวว่า ปัจจัยที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีความยั่งยืนได้ คือบทบาทของประชาชน ซึ่งคำว่าพลเมือง คือผู้ที่เป็นกำลังของบ้านเมือง วิธีประชาธิปไตยต้องทำให้ประชาชนแอคทีฟและมีช่องทางในการแสดงความคิดเห็นได้ แต่รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยก็ได้พูดถึงเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งหากทุกคนไม่แสดงความคิดเห็นก็คงเดินหน้าไปไม่ได้ แต่ก็ต้องมีกรอบกติกาที่พอเหมาะ

พรรคการเมืองเป็นการรวบรวมความเห็นประชาชนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ในรัฐธรรมนูญ มีทั้งระบบบัญชีรายชื่อและแบ่งเขต ซึ่งระบบบัญชีรายชื่อนั้นเป็นความเชื่อมโยงสำคัญกับการมีพรรคการเมือง ทำให้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ถึงเรื่องของนโยบายของแต่ละพรรค และพรรคการเมืองหลายพรรคสามารถเติบโตได้อย่างชัดเจนและบางพรรคกลับเสียสัดส่วนในระบบบัญชีรายชื่อลงไปเช่นกัน ทำให้เห็นว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายและท่าทีทางการเมือง ในการเสริมสร้างพัฒนาการของพรรคการเมือง แต่หากยกระบบพรรคการเมืองออกไป สภาก็คงวุ่นวายมากพอสมควร เพราะพรรคการเมืองนั้น สามารถควบคุมเสียงได้ ทุกอย่างจะเป็นระบบ เช่น การแบ่งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆในสภา

นายธงทอง เห็นว่าการยุบพรรคการเมืองควรเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และต้องมีเหตุผลอย่างยิ่งยวด อย่าลืมว่าเหตุผลการยุบพรรคจะเป็นการปิดสวิสต์ความเห็นของคนจำนวนมากที่ร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งการปิดสวิตช์นั้นจะมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่


“คิดว่าบ้านเรายุบพรรคการเมือง 2-3 พรรคใหญ่ จึงต้องตั้งคำถามว่า สุดท้ายแล้วทำให้เกิดผลอะไรสามารถไปลบอุดมการณ์ทางการเมืองได้จริงหรือไม่ ซึ่งทุกคนจะต้องใช้ดุลยพินิจตัดสินใจ การที่กรรมการบริหารพรรคทำผิด แต่การยุบพรรคการเมืองเป็นการริดรอนสิทธิ์ของประชาชนที่เลือกตั้งในอุดมการณ์นั้นใช่หรือไม่ และการใช้กฎหมายในเรื่องนี้ควรมีความรอบคอบมาก ถ้าพรรคการเมืองใดถูกปฏิบัติด้วยความไม่เป็นธรรม ก็จะทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น” นายธงทอง กล่าว

ขณะที่การวิพากษ์ “ยุทธศาสตร์การพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง” โดยนายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย และนายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

นายยุทธพร กล่าวว่า การเมืองในยุคดิจิทัลนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสท้าทาย คือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยอยู่ในโลกใบเก่า และติดเกาะอยู่และการข้ามไปสู่โลกใบใหม่ สะพานเชื่อมนั้นก็คือเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีในทางกายภาพ แต่นวัตกรรมทางความคิดและนวัตกรรมทางประชาธิปไตยก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโลกใบใหม่ให้สังคมการเมืองไทยในอนาคต ขณะที่เรื่องพรรคการเมือง ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะเชื่อมต่อประชาชนเข้ากับระบบการเมือง ที่จะต้องสร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองและการเกิดพรรคที่มีฐานมาจากมวลชน

นายยุทธพร กล่าวว่า ประเทศไทยคล้ายกับหลายประเทศในโลกที่เผชิญ กับความเปลี่ยนแปลงใน 3 กระแสใหญ่ คือ

1.เรื่องโครงสร้างประชากร ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคนแต่ละรุ่นก็จะมีทัศนคติค่านิยมความคิดความเชื่อทางการเมืองและสังคมที่แตกต่างกันไป ตามบริบทแต่ละยุคแต่ละสมัย ดังนั้นการออกแบบการเลือกตั้ง กระบวนการเรื่องการเมืองยุคดิจิทัล การสร้างเครื่อฃ่ายประชาสังคม และตัวพรรคการเมือง ก็ต้องมีการปรับตัว อย่าลืมว่าความสำเร็จที่จะทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมโปร่งใส จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยการขับเคลื่อนร่วมกันคือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง พรรคการเมือง และประชาชน

2.ภาวะดิสรัพ (Disrupt) ในหลายเรื่อง ทั้งทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สงครามความขัดแย้ง ซึ่งจะเข้ามาท้าทายระบบการเมืองไทย ซึ่งเราก็ต้อง กลไกในการคัดสรรบุคลากรทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพเข้าสู่การเมืองเพื่อไปตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้

3.เรื่องของความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้มุมมองความคิดทางการเมืองของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป

“ขณะที่การปรับตัว สิ่งสำคัญ คือต้องมีพื้นที่สาธารณะ เพื่อตอบโจทย์คนทุกกลุ่มให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายในการสอดรับตอบสนองที่ทันสมัยและรวดเร็ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือยุทธศาสตร์การพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่จะฝากไว้ให้คิดเทคโนโลยีเทคโนโลยี หรือการเมืองยุคดิจิทัล คือคำตอบเดียวของประชาธิปไตยหรือไม่ ซึ่งเทคโนโลยีไม่ได้บอกว่าจะทำให้พรรคการเมืองเติบโตหรือก้าวหน้าอย่างเดียว แต่อาจจะทำให้พรรคการเมืองถดถอยได้เช่นกัน” นายยุทธพร กล่าว

นายยุทธพร กล่าวว่า กฎหมายเลือกตั้งของประเทศไทย มุ่งไปสู่การสร้างความเสมอภาคของผู้สมัครและพรรคการเมือง สุดท้ายเต็มไปด้วยข้อกำหนดมากมาย ซึ่งถูกหยิบจับมาใช้เป็นเกมทางการเมืองของคู่แข่งขัน ดังนั้น วันนี้จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเสรี รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน

ด้านนายธนพร กล่าวว่า ความเข้าใจคือพื้นฐานที่สำคัญของการเมือง และหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญของเราเกิดขึ้นได้จริง ก็จะนำมาสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ทันสมัยและสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสังคม ซึ่งพรรคการเมืองได้ปรับตัวไปตามสังคมที่เปลี่ยนไป ยกตัวอย่าง พรรคสีส้ม มีการเซ็ตระบบการทำงานสัมพันธ์กับสังคม ผ่านทางโซเชียลฯในรูปแบบต่างๆ ถือเป็นบทบาทการให้ความรู้กับสังคม ในทฤษฎีที่หลากหลาย ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง และคุณภาพของการทำงาน แม้ในบทบาทของฝ่ายค้าน ที่ทำการบ้านและการอภิปรายได้ดี

สิ่งสำคัญอีกเรื่อง คือ การเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเปิดกว้างและง่าย จะนำไปสู่การพัฒนาระบบการเลือกตั้งยกระดับมาตรฐานทางการแข่งขันทางการเมืองให้สูงขึ้น และอย่าไปกลัวว่าพวกนักร้อง เพราะเป็นการทำตามช่องทางตามกฎหมาย.-315 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต.โต้ท่าทีกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – โฆษก กต. โต้ 4 ข้อ เกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมานั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ 1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.68) โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน 2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป 3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันนี้ ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

มทภ.2 ปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณ

กาฬสินธุ์ 17 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ร่วมพิธียกเสาเอกเจดีย์โนนสาวเอ้ “หลวงปู่ศิลา” พร้อมปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ “บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 หลังมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.ท.บุญสิน รับตำแหน่งทางการเมือง หรือต่ออายุราชการ จากผลงานแม่ทัพภาคที่ 2 อันโดดเด่น ถูกใจประชาชน วันนี้ พล.ท.บุญสิน ในฐานะลูกศิษย์คนดังของหลวงปู่ศิลา เดินทางมาร่วมพิธีฉลองประกาศตั้งวัดสวนธรรมปีติ และยกเสาเอก เสาโท เจดีย์โนนสาวเอ้ ณ วัดสวนธรรมปีติ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขณะทำพิธียกเสาเอก เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนเข้าร่วมพิธี ขณะที่หลายคนมารอต้อนรับ พล.ท.บุญสิน เพื่อมอบกำลังใจและขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถจำนวนมาก พล.ท.บุญสิน เปิดเผยถึงแผนในอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า จะไปทำหน้าที่เป็นทหารกองหนุน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย ส่วนตำแหน่งทางการเมืองไม่ขอรับ ขอทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติในส่วนที่เราสามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ร่วมส่งดวงวิญญาณ “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัด

สุรินทร์ 17 ส.ค. – ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีฌาปนกิจร่าง “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัดกลางบัวเชด จ.สุรินทร์ พ่อเผยโล่งใจมีคนเข้าใจลูกชายมากขึ้น วัดกลางบัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพของพลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ซึ่งก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกพบว่าเสียชีวิตบริเวณป่าริมคลองส่งน้ำบ้านเขื่อนแก้ว พื้นที่ อ.กาบเชิง โดยวันนี้มีพิธีฌาปนกิจศพพลทหารรัฐภูมิ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติและเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก รวมถึงหน่วยงานต้นสังกัด ก่อนทำพิธีมีทหารกองเกียรติยศทำความเคารพศพ นายอำเภอบัวเชด เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ โดยก่อนหน้าที่จะประกอบพิธี มีหลายหน่วยงาน องค์กรต่างๆ และประชาชน ร่วมกันมอบเงินจากกองทุนต่างๆ ให้กับครอบครัวของพลทหารรัฐภูมิ พ่อโล่งใจคนเข้าใจลูกชายมากขึ้นนายประยูร ผู้เป็นพ่อ เผยความรู้สึกว่าตอนนี้สบายใจขึ้นมากเกี่ยวกับข่าวของลูกชายที่ออกไปในครั้งแรกส่งผลกระทบต่อสภาจิตใจของคนในครอบครัว ก่อนมีการแก้ไขข่าวที่ถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริง และมีคนมาให้กำลังใจจำนวนมาก บอกลูกชายครั้งสุดท้ายว่าลูกทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว พ่อภูมิใจในตัวลูกชายมาก พร้อมยอมรับว่ามีคนมาขอสำเนาเลขบัญชีไปเปิดรับเงินบริจาค แต่ไม่ได้เป็นคนเปิดเอง และจะปิดรับบริจาควันจันทร์นี้ (18 ส.ค.) จนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่าได้เงินเท่าไร มีน้องชายมาบอกว่าเขาจะโอนมาให้ 50,000 […]