บทบาท ปชช. ปัจจัยทำให้ประชาธิปไตย ยั่งยืน

บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ 6 ก.ย.- นักวิชาการ มองบทบาทประชาชน คือ ปัจจัยที่จะทำให้ประชาธิปไตยมีความยั่งยืน ชี้ การใช้ กม.ยุบพรรคต้องรอบคอบ พร้อมตั้งคำถาม ยุบแล้วลบอุดมการณ์ทางการเมืองได้จริงหรือ ขณะที่การเปิดช่องทางให้ ปชช.เข้าถึงข้อมูล นำไปสู่การพัฒนาระบบการเลือกตั้ง ยกระดับมาตรฐานทางการเมือง


นักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 14 (พตส.14) จัดปาฐกถาและการนำเสนอยุทธศาสตร์เชิงปฏิบัติการต่อสาธารณะ โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ ศาสตราภิชาน ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวปาฐกถาเรื่อง “ประชาธิปไตยฐานรากกับการสร้างพรรคการเมืองของประชาชน”

นายธงทอง กล่าวถึง พรรคการเมืองกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่หลายประเทศและคนส่วนใหญ่ศรัทธาว่าเป็นระบบการปกครองที่มีส่วนเสียน้อยที่สุด ตนไม่สามารถบอกได้ว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นมีความเพอร์เฟค แต่สามารถที่จะพัฒนาและสามารถที่จะติชม แก้ไขจุดอ่อนและแสวงหาความเจริญงอกงามขึ้นจากสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และส่งเสริมให้ก้าวหน้าได้เมื่อเทียบกับระบอบการปกครองอื่น


นายธงทอง กล่าวว่า ปัจจัยที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีความยั่งยืนได้ คือบทบาทของประชาชน ซึ่งคำว่าพลเมือง คือผู้ที่เป็นกำลังของบ้านเมือง วิธีประชาธิปไตยต้องทำให้ประชาชนแอคทีฟและมีช่องทางในการแสดงความคิดเห็นได้ แต่รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยก็ได้พูดถึงเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งหากทุกคนไม่แสดงความคิดเห็นก็คงเดินหน้าไปไม่ได้ แต่ก็ต้องมีกรอบกติกาที่พอเหมาะ

พรรคการเมืองเป็นการรวบรวมความเห็นประชาชนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ในรัฐธรรมนูญ มีทั้งระบบบัญชีรายชื่อและแบ่งเขต ซึ่งระบบบัญชีรายชื่อนั้นเป็นความเชื่อมโยงสำคัญกับการมีพรรคการเมือง ทำให้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ถึงเรื่องของนโยบายของแต่ละพรรค และพรรคการเมืองหลายพรรคสามารถเติบโตได้อย่างชัดเจนและบางพรรคกลับเสียสัดส่วนในระบบบัญชีรายชื่อลงไปเช่นกัน ทำให้เห็นว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายและท่าทีทางการเมือง ในการเสริมสร้างพัฒนาการของพรรคการเมือง แต่หากยกระบบพรรคการเมืองออกไป สภาก็คงวุ่นวายมากพอสมควร เพราะพรรคการเมืองนั้น สามารถควบคุมเสียงได้ ทุกอย่างจะเป็นระบบ เช่น การแบ่งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆในสภา

นายธงทอง เห็นว่าการยุบพรรคการเมืองควรเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และต้องมีเหตุผลอย่างยิ่งยวด อย่าลืมว่าเหตุผลการยุบพรรคจะเป็นการปิดสวิสต์ความเห็นของคนจำนวนมากที่ร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งการปิดสวิตช์นั้นจะมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่


“คิดว่าบ้านเรายุบพรรคการเมือง 2-3 พรรคใหญ่ จึงต้องตั้งคำถามว่า สุดท้ายแล้วทำให้เกิดผลอะไรสามารถไปลบอุดมการณ์ทางการเมืองได้จริงหรือไม่ ซึ่งทุกคนจะต้องใช้ดุลยพินิจตัดสินใจ การที่กรรมการบริหารพรรคทำผิด แต่การยุบพรรคการเมืองเป็นการริดรอนสิทธิ์ของประชาชนที่เลือกตั้งในอุดมการณ์นั้นใช่หรือไม่ และการใช้กฎหมายในเรื่องนี้ควรมีความรอบคอบมาก ถ้าพรรคการเมืองใดถูกปฏิบัติด้วยความไม่เป็นธรรม ก็จะทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น” นายธงทอง กล่าว

ขณะที่การวิพากษ์ “ยุทธศาสตร์การพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง” โดยนายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย และนายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

นายยุทธพร กล่าวว่า การเมืองในยุคดิจิทัลนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสท้าทาย คือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยอยู่ในโลกใบเก่า และติดเกาะอยู่และการข้ามไปสู่โลกใบใหม่ สะพานเชื่อมนั้นก็คือเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีในทางกายภาพ แต่นวัตกรรมทางความคิดและนวัตกรรมทางประชาธิปไตยก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโลกใบใหม่ให้สังคมการเมืองไทยในอนาคต ขณะที่เรื่องพรรคการเมือง ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะเชื่อมต่อประชาชนเข้ากับระบบการเมือง ที่จะต้องสร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองและการเกิดพรรคที่มีฐานมาจากมวลชน

นายยุทธพร กล่าวว่า ประเทศไทยคล้ายกับหลายประเทศในโลกที่เผชิญ กับความเปลี่ยนแปลงใน 3 กระแสใหญ่ คือ

1.เรื่องโครงสร้างประชากร ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคนแต่ละรุ่นก็จะมีทัศนคติค่านิยมความคิดความเชื่อทางการเมืองและสังคมที่แตกต่างกันไป ตามบริบทแต่ละยุคแต่ละสมัย ดังนั้นการออกแบบการเลือกตั้ง กระบวนการเรื่องการเมืองยุคดิจิทัล การสร้างเครื่อฃ่ายประชาสังคม และตัวพรรคการเมือง ก็ต้องมีการปรับตัว อย่าลืมว่าความสำเร็จที่จะทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมโปร่งใส จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยการขับเคลื่อนร่วมกันคือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง พรรคการเมือง และประชาชน

2.ภาวะดิสรัพ (Disrupt) ในหลายเรื่อง ทั้งทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สงครามความขัดแย้ง ซึ่งจะเข้ามาท้าทายระบบการเมืองไทย ซึ่งเราก็ต้อง กลไกในการคัดสรรบุคลากรทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพเข้าสู่การเมืองเพื่อไปตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้

3.เรื่องของความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้มุมมองความคิดทางการเมืองของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป

“ขณะที่การปรับตัว สิ่งสำคัญ คือต้องมีพื้นที่สาธารณะ เพื่อตอบโจทย์คนทุกกลุ่มให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายในการสอดรับตอบสนองที่ทันสมัยและรวดเร็ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือยุทธศาสตร์การพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่จะฝากไว้ให้คิดเทคโนโลยีเทคโนโลยี หรือการเมืองยุคดิจิทัล คือคำตอบเดียวของประชาธิปไตยหรือไม่ ซึ่งเทคโนโลยีไม่ได้บอกว่าจะทำให้พรรคการเมืองเติบโตหรือก้าวหน้าอย่างเดียว แต่อาจจะทำให้พรรคการเมืองถดถอยได้เช่นกัน” นายยุทธพร กล่าว

นายยุทธพร กล่าวว่า กฎหมายเลือกตั้งของประเทศไทย มุ่งไปสู่การสร้างความเสมอภาคของผู้สมัครและพรรคการเมือง สุดท้ายเต็มไปด้วยข้อกำหนดมากมาย ซึ่งถูกหยิบจับมาใช้เป็นเกมทางการเมืองของคู่แข่งขัน ดังนั้น วันนี้จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเสรี รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน

ด้านนายธนพร กล่าวว่า ความเข้าใจคือพื้นฐานที่สำคัญของการเมือง และหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญของเราเกิดขึ้นได้จริง ก็จะนำมาสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ทันสมัยและสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสังคม ซึ่งพรรคการเมืองได้ปรับตัวไปตามสังคมที่เปลี่ยนไป ยกตัวอย่าง พรรคสีส้ม มีการเซ็ตระบบการทำงานสัมพันธ์กับสังคม ผ่านทางโซเชียลฯในรูปแบบต่างๆ ถือเป็นบทบาทการให้ความรู้กับสังคม ในทฤษฎีที่หลากหลาย ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง และคุณภาพของการทำงาน แม้ในบทบาทของฝ่ายค้าน ที่ทำการบ้านและการอภิปรายได้ดี

สิ่งสำคัญอีกเรื่อง คือ การเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเปิดกว้างและง่าย จะนำไปสู่การพัฒนาระบบการเลือกตั้งยกระดับมาตรฐานทางการแข่งขันทางการเมืองให้สูงขึ้น และอย่าไปกลัวว่าพวกนักร้อง เพราะเป็นการทำตามช่องทางตามกฎหมาย.-315 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]