พปชร.พร้อมเป็นฝ่ายค้าน “บิ๊กป้อม” หัวหน้าพรรคตลอดไป

พรรคพลังประชารัฐ 6 ก.ย. – “ไพบูลย์” มั่นใจปรับโฉม กก.บห.ใหม่ พรรคมั่นคง ยันไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แขวะคนปรามาส พรรคที่ไม่ใช่ทหาร ยังล้มหายตายจาก แต่ พปชร. ยังอยู่ “บิ๊กป้อม” เป็นหัวหน้าตลอดไป พร้อมเป็นฝ่ายค้าน คุยงานถนัดตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้นไม่เกรงใจใคร


นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันนี้ 24 คน ว่า การทำงานจากนี้จะปรับเปลี่ยนการทำงาน จากเดิมเลขาธิการพรรคจะดูผู้สมัครทั่วประเทศ อาจไม่ได้ดำเนินการในเรื่องอื่นๆ มากพอ โดยให้เลขาธิการเหรัญญิกและนายทะเบียนพรรคเป็นกองสนับสนุนการทำงาน รองหัวหน้าพรรคทั้ง 8 คน ปฏิบัติงานขึ้นตรงหัวหน้าพรรคเพื่อให้พรรคมีความมั่นคงสถาพร พร้อมเชื่อว่าในการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ครั้งนี้ ที่มีทั้งหมด 24 คนจะสร้างความเข้มแข็ง เป็นปึกแผ่นให้กับพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเดินก้าวต่อไป ทั้งนี้โดยหลักแล้วจะมีการประชุมกันและกำหนดแนวทางต่างๆ ตามลำดับ โดยกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่นี้มีความเข้มแข็ง ประกอบด้วย หัวหน้าและรองหัวหน้าพรรค ที่มาจากฝ่ายผู้ที่เป็นนักวิชาการ ผสมผสาน สส. และอดีตรัฐมนตรี มีครบทุกส่วนของพรรค เป็นจุดเข้มแข็ง นอกจากมี สส. อดีตรัฐมนตรี เป็นจำนวนมาก ยังมีนักวิชาการ ที่มีความรู้ในสาขาต่างๆ เข้าร่วมอยู่ในกรรมการบริหารพรรคด้วย จึงมีจำนวนเป็น 24 คน ส่วนแนวทางต่างๆ เมื่อมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งต่อไปจะมีการแถลงข่าวให้ทราบ

นายไพบูล มั่นใจว่า การปรับกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ จะทำให้กรรมการบริหารมีโครงสร้างเป็นหนึ่งเดียวมั่นคง เป็นศูนย์กลางดำเนินงานในนามพรรค ซึ่งเมื่อพรรคมีความมั่นคงเป็นหนึ่งเดียวเป็นเอกภาพก็เชื่อได้ว่า การดำเนินการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือดูแลประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน หรือรับฟังเรื่องราว หรือทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะกรรมการชุดนี้ไม่ใช่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อะไรมากหรือไม่มีบทบาทอย่างที่ผ่านมา แต่ชุดนี้จะมีบทบาทสำคัญ มีการขับเคลื่อนงานต่างๆ


ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านนั้นนายไพบูลย์ กล่าวว่า พร้อมอยู่แล้ว การจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านเป็นสิ่งที่เราพร้อมที่จะปฏิบัติอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นว่าจะก้าวไปสู่ยุคใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง ในทางที่ดีมากขึ้น ชนิดที่ขอให้รอติดตามดู ภายใต้การ นำของพลเอกประวิตร จากนโยบายอนุรักษ์นิยมที่ทันสมัย หรืออุดมการณ์สำคัญคือปกป้องสถาบัน ที่หัวหน้าพรรคย้ำจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ส่วนความแตกต่าง ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคที่มีทหารตั้งในอดีตที่ผ่านมา จะเป็นพรรคชั่วคราวหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า พลเอกประวิตร เป็นนายทหารนอกราชการ แต่นายทหารนอกราชการ มาร่วมในพรรคมีสัดส่วนที่น้อยมาก ตั้งแต่ก่อตั้งมาถึงปัจจุบันพรรคก็มุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ในลักษณะต่อเนื่องยืนยาว ไม่ใช่อย่างที่หลายฝ่ายไปปรามาสว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ หัวหน้าพรรคจะอยู่กับพรรคเป็นหัวหน้าตลอดไป พรรคเราไม่ใช่เฉพาะกิจ

เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พรรคที่ก่อตั้งโดยทหารไม่ได้อยู่ยืนยาวเท่าใด นายไพบูลย์กล่าวว่าพรรคไหนที่แต่งตั้งโดยไม่มียศทหารก็ล้มหายตายจากไปเยอะแล้ว แต่พรรคพลังประชารัฐเราจะอยู่ต่อไป แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็วิจารณ์กันไป ตนเห็นแต่พรรคอื่นหายไปหมดหายไปเรื่อยๆ พรรคพลังประชารัฐยังอยู่


ส่วนที่เป็นฝ่ายค้านแต่มี สส.โหวตให้ฝั่งรัฐบาล นายไพบูลย์ กล่าวว่าเมื่อมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่คงประชุมเรื่องต่างๆ และงานเริ่มในสภา แต่จะเอาอย่างไรขอหารือในที่ประชุมกรรมการพรรคก่อน ไม่อยากให้ความเห็นส่วนตัว และย้ำว่าต่อไปจะดำเนินการหลักโดยกรรมการบริหารพรรคตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง และข้อบังคับพรรค

ส่วนจำเป็นต้องถอดถอนใครไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่าไม่อยากจะพูดถึง ยืนยันเบื้องต้นเรายังไม่มีแนวคิดอะไรทั้งสิ้น ไม่ขอให้ความเห็นส่วนตัว รอให้มีมติทางการจากพรรค

นายไพบูลย์ยืนยันว่า การทำหน้าที่ฝ่ายค้านการตรวจสอบนั้น ไม่เคยเกรงใจใคร ตนชอบมากเพราะเป็นงานถนัด ส่วนตัวตั้งแต่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม 40 สว. ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบมาโดยตลอด 6 ปี การทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ ต้องตรวจสอบความถูกต้องอยู่แล้ว เมินเฉยไม่ได้ การตรวจสอบเป็นหน้าที่หลักของพรรคพลังประชารัฐไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลเพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและ ประชาชน และจะเห็นการตรวจสอบของพรรคพลังประชารัฐเข้มข้นขึ้น

ทั้งนี้ จะเห็นพลเอกประวิตร อภิปรายในสภาหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า พลเอกประวิตร ดำริอยู่บ่อยว่าจะเข้าสภาในเมื่อเวลาที่ สะดวก ยืนยันว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 24 คน กระตือรือร้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของการทำงาน เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในพรรค

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ตั้งเป้าว่าจะซักฟอกใครเป็นพิเศษหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่าคงต้องไปถามท่านเอง แต่ส่วนตนรู้อยู่แล้วว่าจะตรวจสอบใคร พูดไปหลายครั้งแล้ว.-319 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

เด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย เซ่นปม ฮ.ตก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ปมอากาศยานของกองบินตำรวจตก 2 ครั้ง ห้วงใกล้เคียงกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 308/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย กรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมา ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด และจเรตำรวจได้มีคำสั่ง ที่ 89/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ […]

“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ […]

มอบตัวแล้วหลานคลั่งยิงญาติดับ 3 เจ็บสาหัส 1

สุพรรณบุรี 30 พ.ค. – มอบตัวแล้ว หลานคลั่งยิงญาติเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คาดปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดกที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว เหตุสลดหลานชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงนายภาสกร อายุ 67 ปี ลุง, นายลำเพย อายุ 71 ปี ป้า, นางชตารัตน์ อายุ 50 ปี ญาติ เสียชีวิตรวม 3 คน และยังมีนางชุติมน อายุ 67 ปี ญาติ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ บริเวณหลังบ้าน ม.2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ หรือ บาส อายุ 32 ปี อาชีพเป็นช่างสัก หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย […]

จเรตำรวจฯ เผยผลสอบ ฮ.ตก ประจวบฯ นอตยึดใบพัดหลุดทำเครื่องเสียการทรงตัว

30 พ.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติ เผยผลสอบเหตุเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกที่ประจวบฯ เบื้องต้นพบนอต 2 ตัวยึดใบพัดหางหลุด เสียการทรงตัวจนตัดส่วนหางขาด เตรียมรายงาน ผบ.ตร. ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ประสบเหตุตกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ, นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตนเองเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยภายหลังจากที่ได้มีการประชุมแล้ว จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้เข้าร่วมประชุมได้เข้าตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ที่ตกและได้มีการลำเลียงมาไว้ที่กองเป็นตำรวจเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เฮลิคอปเตอร์ตก และร่วมประชุมกับผู้บังคับการกองบิน, นักบินและช่างเครื่องทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง […]