“ชัยวุฒิ” ไม่ขอพูดถึงคนเก่า ยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่

พลังประชารัฐ 5 ก.ย.-“ชัยวุฒิ” ไม่ขอพูดถึงคนเก่าที่ออกไป แต่คนที่อยู่คือรักกัน ชี้ที่ พปชร.มีปัญหาเพราะคนนอกมาครอบงำสั่งการ และ “ดูด” ลั่นไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำการเมืองไม่ตรงไปตรงมา ยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคประกาศรีแบนด์พรรคใหม่ ว่า ไม่ถึงกับรีแบรนด์ ยังคงเป็นพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม เพียงแต่เน้นให้ชัดเจนถึงอุดมการณ์และการทำงานต่อไปในอนาคต ส่วนทุกอย่างยังเหมือนเดิม และคนที่ยังมุ่งมั่นอยู่กับพรรคยังคงยึดการทำงาน คนเก่ากับเรามีอุดมการณ์ร่วมกัน ส่วนคนที่ไม่อยู่ก็ถือว่าออกไปแล้ว ซึ่งก็มีความชัดเจน และตนไม่อยากจะพูดถึง แต่คนที่อยู่ก็คือรักกันทำงานร่วมกันได้แน่นอน


สำหรับกรณีที่ก่อนหน้านี้พรรคก็เคยย้ำเรื่องความไม่แตกแยก แต่สุดท้ายก็มีปัญหาแตกแยกนั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นธรรมดาของพรรคการเมือง ที่มีคนหลายกลุ่มหลายฝ่ายอยู่ด้วยกันก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง ดังนั้นขออย่ามองเฉพาะที่พรรคพลังประชารัฐเลย เพราะทุกพรรคก็มีปัญหาแบบนี้ เพียงแต่ว่าแต่ละพรรคจะบริหารจัดการภายในพรรคอย่างไร ซึ่งในส่วนของพรรคที่เกิดปัญหาครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากปัญหาภายในพรรคอย่างเดียว แต่เกิดจากคนภายนอกพรรคที่เข้ามาครอบงำและสั่งการด้วย จึงเกิดปัญหา

เมื่อถามย้ำว่าที่พูดถึงคนครอบงำเป็นคนจากพรรคอื่นใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าก็ดูจากการจัดตั้งรัฐบาลมีคนภายนอกเข้ามาสั่งการครอบงำ มีการสร้างเงื่อนไข ให้เกิดความแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐ หรือภาษาการเมืองเรียกว่า “ดูด” หรือ “งูเห่า” ซึ่งแบบนี้เรียกว่าไม่ใช่ลูกผู้ชายและมันไม่ใช่กระบวนการทางการเมือง แบบตรงไปตรงมา จึงทำให้เกิดปัญหากับพรรคพลังประชารัฐ แต่เรื่องนี้ผ่านไปแล้วก็ไม่อยากพูดถึง ตอนนี้เราก็เดินหน้าทำงานต่อไป


เมื่อถามว่าที่ผ่านมากลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 สวนมติพรรค จะมีมาตรการอย่างไรต่อไปหรือไม่ ถือเป็นพฤติการณ์ที่ทำให้ขับออกจากพรรคได้หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น หากถึงจุดนั้นค่อยว่ากันอีกที และในพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการขับ ดังนั้นไม่เป็นไร ขอให้ใจเย็นๆ

สำหรับท่าทีขึงขังของพลเอกประวิตร ในที่ประชุมพรรค วันนี้เป็นการส่งสัญญาณ อะไรหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิกล่าวว่าไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ตนคิดว่าเรื่องของกลุ่มส.สที่แยกตัวออกไปคงต้องรอดูสถานการณ์อีกที ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตอนนี้พรรคยังไม่มีท่าที ต้องปล่อยให้ฝ่ายต่างๆทำหน้าที่กันต่อไป ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาแตกหักกัน

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแก้แค้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อ พลเอกประวิตรหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่าตนตอบแทนไม่ได้ ต้องไปถามท่าน แต่การเมืองอย่าพูดเรื่องแค้นหรือความโกรธเคืองอะไรกันเลย เพราะต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ และสถานการณ์การเมืองก็เปลี่ยนมาตลอด วันหนึ่งคนที่ไม่ถูกกันก็ยังกลับมารักกันเลย ผลประโยชน์ลงตัวก็ทำงานด้วยกันได้


ส่วนเมื่อถามย้ำว่าถ้ามีโอกาสเคลียร์ใจจะสามารถกลับมาทำงานร่วมกันได้ ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าไม่ทราบ เมื่อถามว่าที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแบบนี้เพราะพลเอกประวิตรเสื่อมการปกครองใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าไม่ทราบ ขอให้ดูกันเองแล้วกัน ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ตนเห็นว่า พลเอกประวิตร ยังคงเป็น พลเอกประวิตร คนเดิม และมีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีพลัง ที่จะทำงานขับเคลื่อนการเมืองต่อไป ใครจะอยู่ใครจะไปก็เป็นเรื่องของคนภายนอก ไปบังคับไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่าอุดมการณ์หลักของพรรคในการที่จะทำงานเพื่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจทันสมัยขึ้น ปกป้องสถาบัน ทำให้บ้านเมืองมั่นคงเป็นแนวทางหลักของพรรค ที่จะเดินต่อไปแน่นอน

ส่วนสมาชิกของพรรคพร้อมจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขอให้รอดูต่อไปก็แล้วกัน การที่เราประชุมพรรควันนี้ก็แสดงว่าเราพร้อม การตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยืนยันกับสมาชิกพรรคว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งการตรวจสอบรัฐบาลมีหลายช่องทาง ในสภามีการอภิปราย และใครทำผิดทำทุจริต เราก็ว่ากันไป โดยจะทำเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว เมื่อก่อนเกรงใจกันแต่ตอนนี้ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว

ส่วนความพร้อมในการทำงานร่วมกับพรรคประชาชนนั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การจะทำงานร่วมกันในส่วนของฝ่ายค้านก็เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย ส่วนจะทำงานร่วมกันแบบไหนก็ต้องมีการพูดคุยกัน อย่างน้อยการอภิปรายในสภาก็ต้องมาคุยในเรื่องของเวลา ที่จะต้องแบ่งกัน ส่วนการลงมติ ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่มีทิศทางอยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างไร คงไม่จำเป็นต้องตามกันทุกเรื่อง.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน