“โรม” ตั้งฉายา ครม.โควตาครอบครัว ไม่รู้ใครตัวจริง

รัฐสภา 4 ก.ย.- “โรม” ตั้งฉายา ครม.โควตาครอบครัว เก้าอี้ดนตรีหมุนเวียนกันไป ไม่รู้ใครตัวจริง เชื่อสังคมสงสัย เป็นสมบัติผลัดกันชม ชี้คงกังวลทุกเรื่องจนไม่กล้าทำอะไร ตั้งธงรอซักฟอกเวทีแถลงนโยบาย แต่แขวะ 22 สิงหา มีคนแถลงไปหมดแล้ว


นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า หน้าตารัฐมนตรีส่วนใหญ่ เป็นคนเดิม และออกมาเหมือนเป็นโควตาของครอบครัว พอลูกเป็นไม่ได้ก็เอาพ่อมาเป็น เอาน้องมาเป็น เอาเพื่อนมาเป็น บางครั้งต้องยอมรับว่า เวลาพูดถึงการเมือง ก็อยากจะได้คนที่มีความสามารถตรง แต่พอเจอเรื่องจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เป็นการตีความอย่างกว้างของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี สุดท้ายกลายเป็นเก้าอี้ดนตรีหมุนเวียนกันไป ทำให้ไม่มั่นใจว่าคนที่มานั่งเป็นรัฐมนตรีเป็นตัวจริงหรือไม่ หรือจะมีคนอยู่เบื้องหลัง ก็ซึ่งจะทำให้การทำงานการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต อาจมีปัญหาต่อไปได้ ทำให้การตรวจสอบของฝ่ายค้านทำได้ยากยิ่งขึ้น สุดท้ายทำให้เห็นว่าตัวจริงอยู่หลังฉาก ส่วนคนที่เป็นรัฐมนตรีเป็นแค่ตัวแสดงเท่านั้น อาจเป็นปัญหาที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป รวมไปถึงหากในอนาคตมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องไปดูว่าสุดท้าย จะมีการยอมรับให้ระบบแบบนี้ดำเนินต่อไปในอนาคตหรือไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า สัปดาห์หน้าคงจะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งคงทราบแล้วว่า การแถลงนโยบายเกิดขึ้น ไปแล้วเมื่อ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ดังนั้นสัปดาห์หน้าคงไม่ต้องแถลงนโยบายอย่างจริงจังนัก ดังนั้นเชื่อว่า สังคมคงจะตั้งคำถามว่าเป็นเรื่องสมบัติผลัดกันชม หรือเรื่องโควตาครอบครัว อีกทั้งตอนรัฐบาลนายเศรษฐาเห็นการทำงานนายก 2 คน มาวันนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นนายกฯ 2 คนหรือนายกฯ 1 คน แต่สุดท้ายกำลังอยู่ในบรรยากาศที่การเมืองจะขาดเสถียรภาพขาดความแน่นอน และไม่รู้ว่าใครคือผู้ตัดสินใจ และอาจไม่ต้องรับผิดชอบโดยตรงซึ่งจะสร้างปัญหาทางการเมืองเป็นเรื่องที่ตนกังวล นอกจากนี้ยังเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะเป็นรัฐบาลที่กังวลทุกอย่างจนไม่กล้าทำอะไรเลย ซึ่งจะเป็นปัญหาใหม่เพราะความท้าทายของโลก มีความท้าทายหลากหลายรูปแบบถ้าไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะเกรงจะผิดจริยธรรม ถูกตรวจสอบศาลรัฐธรรมนูญเล่นงาน สุดท้ายจะเป็นรัฐบาลที่บริหารอะไรไม่ได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าทางการเมืองรัฐบาลต้องรับผิดชอบไปเต็มๆแต่ผลเสียเกิดขึ้นต่อประชาชน ดังนั้นจุดสำคัญของรัฐบาลคือจะแก้ปัญหาวิกฤตที่ทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างไร ซึ่งหากแก้ไม่ได้การบริหารงานจะไม่ประสบความสำเร็จ


“ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยทำเรื่องใดสำเร็จ ผมขอตั้งคำถามว่าคนใหม่ที่เข้ามาจะทำอะไรสำเร็จหรือไม่ และมีส่วนผสมใหม่คือคนเดิม ที่เป็นรัฐมนตรีแต่เป็นไม่ได้ กลับไปอยู่หลังฉาก อยู่ภายใต้เงามืดแล้ว ส่งตัวแทนมาทำหน้าที่แทน จะบริหารประเทศได้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร จึงเห็นว่า ส่วนผสมในลักษณะแบบนี้ไม่ได้ตอบสนองโจทย์หรือปัญหาของประเทศชาติที่ลอยอยู่ ผมนึกไม่ออกว่ารัฐบาล จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้อย่างไร จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างไร หรือผลักดันเรื่อง Entertainment Complex จะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ หรือกลายเป็นปัญหาใหม่ ของสังคมไทย”นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่าจะรอดูการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าหากติดตาม วันที่ 22 ส.ค. คงจะเห็นทิศทางอยู่แล้ว ฝ่ายค้านแต่ละคนเตรียมการในการอภิปรายแม้จะกระชั้นชิด แต่ก็ต้องทำหน้าที่อภิปรายตั้งคำถามถึงรัฐบาลอย่างเข้มข้น.-319 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย