รัฐสภา 3 ก.ย. – ถกงบวาระ 2 วันแรก ได้ 13 มาตรา “ณัฐชา” ติง พม. จัดงบตกหล่นคนทุกช่วงวัย เหน็บแม้แต่ดวงวิญญาณยังไม่ได้เงินค่าทำศพ ขณะที่ “สส.ภท.” ข้องใจหั่นงบท่องเที่ยว สวนทางใช้การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ
การประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระ 2 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในประชุม ได้แจ้งว่าการพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปอภิปรายต่อในวันที่ 4 ก.ย. เวลา 09.00 น. และสั่งปิดการประชุมในเวลา 21.47 น.
ก่อนหน้านี้ในการพิจารณามาตรา 11 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วงเงิน 3,548,332,300 บาท โดยนายกิตติ กิตติธรกุล สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ประเทศไทยใช้การท่องเที่ยวในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่างบประมาณที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับตั้งแต่ปี 2564-2568 กลับถูกปรับลดลงตลอด สวนทางกับการมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก ทั้งที่การทำให้ประเทศบรรลุเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวต้องได้รับงบประมาณเพิ่มเติม แต่งบที่ได้กลับลดลงสวนทางกับพันธกิจที่คาดหวัง จึงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก สส. อภิปรายครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 11 ตาม กมธ.เสียงข้างมากด้วยคะแนน 282 ต่อ 150 งดออกเสียง 2
ส่วนการพิจารณามาตรา 12 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายว่า สำหรับงบประมาณสวัสดิการจำแนกตามช่วงวัยที่ พม. ดูแลของปี 2567 ตกหล่นทุกช่วงวัย เมื่อดูงบประมาณรายกรมของปี 2568 แทบไม่แตกต่าง วันนี้ประเทศไทยลงทุนให้เด็กเพียง 0.25% ของจีดีพี ถ้าตัดเงินเด็กแรกเกิดตั้งแต่ศูนย์ถึงหกขวบออกไป 0.07% เหลือเงินลงทุนในเด็กเพียงแค่ 0.18% ของจีดีพี ซึ่งเราลงทุนในเด็กน้อยมาก ขณะที่เงินผู้สูงอายุก็ไม่เพียงพอ ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ได้ตั้งคณะกรรมการฯ และมีมติออกมาแล้วว่าจะเพิ่มเงินผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็น 1,000 บาท แต่ในงบประมาณรายจ่ายต่างๆ ก็ไม่ปรากฏทั้งในงบ อปท. และงบอุดหนุน ในส่วนของกรมกิจการผู้สูงอายุ อีกส่วนที่ตกหล่น เป็นเรื่องน่าเศร้าและเป็นเครื่องการันตีว่าสวัสดิการตกหล่นตั้งแต่เกิดจนตาย คือเงินทำศพ 3,000 บาท ปีนี้มีการอนุมัติวงเงินงบประมาณ 461.7 ล้านบาท สามารถจ่ายให้กับศพได้กว่า 1.57 แสนราย และยังมีดวงวิญญาณตกหล่นที่ยังไม่ได้เงินอีก 1.38 แสนราย ใช้เงินอีก 416 ล้านบาท หมายความว่าเรากำลังอนุมัติงบประมาณที่ผิดฝา ผิดตัว ผิดจุด
นายณัฐชา อภิปรายอีกว่า ในส่วนของงบประมาณที่ตกหล่นทุกช่วงวัย เพราะตกหล่นตั้งแต่แรกเกิดเด็กประมาณ 9 แสนกว่าคน ตกหล่น วัยเรียนอีก 1 ล้านกว่าคน หลุดออกจากการศึกษา ผู้สูงอายุไม่ตกหล่นเชิงปริมาณก็ตกหล่นเชิงคุณภาพ เมื่อไปถึงเป็นศพแล้วยังตกหล่นเป็นตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ แล้วปีหน้าคาดว่าจะเป็นอย่างนี้ต่อ เราจะเอาอย่างไรกับการบริหารจัดงานงบประมาณของ พม. ที่ไม่ถูกจุด จึงต้องขอตัดลดงบประมาณของ พม.
จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากด้วยคะแนน 288 ต่อ 147 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 2
สำหรับมาตรา 13 กระทวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เป็น สส. จากพรรคประชาชน (ปชน.) เพราะเห็นว่ามีการใช้งบอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีการตอบสนองการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มการสอนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบสนองตามระดับความสามารถ และบางโครงการเกิดความซ้ำซ้อน จนทำให้งบประมาณไม่ถูกใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าโดยที่ประชุมลงมติเห็นด้วยตามกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน 279 ไม่เห็นด้วย 147 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 1 คะแนน.-319-สำนักข่าวไทย