บุกจับชุดเฉพาะกิจเก็บส่วยรถบรรทุก 11 พื้นที่เป้าหมาย

ป.ป.ช. 3 ก.ย.- ป.ป.ช. ร่วมปฏิบัติการบุกจับชุดเฉพาะกิจ เก็บส่วยรถบรรทุกในพื้นที่เป้าหมาย 11 จุดทั่วประเทศ พบผู้เสียหายกว่า 30 ราย มูลค่าเสียหายรวม 120 ล้านบาท


นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช. ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย ปปป. และ ป.ป.ท. ลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับส่วยรถบรรทุก เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 11 จุด ทั่วประเทศ เพื่อกวาดล้างจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จำนวน 3 หมายจับ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ นครปฐม ชลบุรี เชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร

เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาคนสำคัญในขบวนการดังกล่าว ได้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายนพดล อายุ 57 ปี เป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ นายอเนก อายุ 59 ปี และนายธงชัย หรือ บอย อายุ 38 ปี พลเรือนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อคอยเคลียร์กับผู้ประกอบการรถบรรทุก ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมเชิญตัวนายประทิน อายุ 39 ปี เจ้าของบัญชีม้ามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยเช่นเดียวกัน

สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการรถบบรรทุกยื่นเรื่องร้องเรียน หลังถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงร่วมกับพลเรือน เรียกเก็บส่วย รถเครน และรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เมื่อปี 2566 เจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบข้อมูลสำคัญว่าเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้เป็นเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ (สคน.) หน่วยงานในสังกัดของกรมทางหลวง ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่วิ่งบนทางหลวง แต่กลับใช้อำนาจหน้าที่ในการเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ เรียกเก็บเงินส่วยรายเดือนจากผู้ประกอบการ เพื่อแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี โดยมีนายธงชัย ที่เป็นพลเรือน ทำหน้าที่เจรจาเรียกรับเงินแทน หากผู้ประกอบการรายใด ไม่ทำตามก็จะถูกกวดขันจับกุมอย่างหนักจนกระทบต่อกิจการ โดยทำเช่นนี้มานาน ตั้งแต่ปี 2562 – 2563 มีผู้เสียหายรวมมากกว่า 30 ราย และมีมูลค่าเสียหายรวม 120 ล้านบาท และเงินส่วยหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 1,400,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งเงินที่ได้มาจะถูกโอนไปยังบัญชีม้าของนายประทิน ก่อนจะถูกโอนถ่ายไปยังกลุ่มเจ้าหน้าที่หัวหน้าขบวนการตามลำดับ

เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการสืบหารวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ กว่า 30 ราย และขออำนาจศาลออกหมายจับจนนำมาสู่การตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และเพชรบูรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวเข้าตรวจค้นห้องทำงานที่ ด่านบางปะอิน และด่านวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดของผู้ถูกกล่าวหา และขยายผลการสืบสวนถึงความเชื่อมโยงกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”