สว.พันธุ์ใหม่ ฟ้องสื่อจับตาเลือก ปธ.กมธ. 21 คณะ

รัฐสภา 3 ก.ย. – “นันทนา” นำทีม สว.พันธุ์ใหม่ ฟ้องสื่อจับตาดูเลือกประธานกรรมาธิการ 21 คณะ หวั่นถูกกินรวบได้ฝั่งเสียงข้างมากทั้งหมด ทวงโควตา สว. เสียงข้างน้อย 6-7 คณะ โวยโหวตแพ้ตลอด ถ้า 5 ปีเป็นแบบนี้ ไม่พ้นต้องเรียกเผด็จการรัฐสภา


นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะแกนนำกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ย้ำถึงการทำงานของ สว. เสียงข้างมาก ในการผลักดันเรื่องวาระต่างๆ หลังที่ประชุมวุฒิสภา ลงมติเรื่องจำนวน กรรมาธิการ 21 คณะ ด้วยเสียงข้างมาก 140 เสียงขึ้นไป แม้ว่าจะมีเสียงข้างน้อยท้วงติงแต่สุดท้ายไม่เห็นความหลากหลายอีกทั้งการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจากรณีให้ตรวจสอบจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จากกรณีการบรรยายสาธารณะ ก็ถูกปัดตกลงไปอย่างรวดเร็วไม่มีการเปิดให้อภิปราย ประธานตัดจบโดยการลงมติ ซึ่งเมื่อไหร่ที่มีเกมการลงมติ เราแพ้เสมอจึงเห็นว่าเป็นเรื่องยากลำบากที่จะผลักดันเรื่องต่างๆต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพียงแค่การแก้ไขข้อบังคับการประชุม ยังไม่ได้รับความใส่ใจ สุดท้ายไม่มีผล กลับกลายเป็นศูนย์ โหวตอะไรไปในสภาก็โหวตแพ้ทั้งหมด และแน่นอนว่าคงเป็นเรื่องของวาระซ่อนเร้นต่างๆ

ส่วนจะมีการเรียกร้องหรือขอตรวจสอบอะไรหรือไม่นั้นนางสาวนันทนากล่าวว่า คงจะมีการส่งเสียงให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารไปยังประชาชนว่า เราพยายามเต็มที่แล้ว พยายามทุกอย่าง เช่น การประชุมในวันนี้(3ก.ย.)ที่มีการพิจารณาเรื่องการตรวจสอบผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง อัยการสูงสุด ผู้พิพากษาศาลปกครองสูงสุด มีกรรมาธิการ 15 คน กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ไม่ได้เข้าไปแม้แต่คนเดียว การประชุม ของกรรมาธิการชุดนี้เป็นการประชุมลับแต่เสียงข้างน้อยของสว.ไม่ได้เข้าไปเลย แม้จะมีการตกลงกันก่อนจะให้มีเข้าไปแต่สุดท้ายการเสนอชื่อ 15 คน ไม่มีเลย จึงไม่ทราบว่ามีการประชุมเรื่องอะไรกันบ้าง และมองเป็นเรื่องที่ยากลำบากในการทำงานกันต่อไป เพราะอาจจะถูกปัดตกจากเสียงส่วนใหญ่ในสภาสูง พร้อมยกตัวอย่างการนำเสนอญัตติเรื่องน้ำท่วม ที่เสนอโดยเสียงข้างน้อยนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ก็บรรจุอยู่ในวาระ ไม่ได้พิจารณากว่าจะบรรจุน้ำคงจะลดลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้จะท้อเพราะสิ่งที่พยายามผลักดันอาจไม่ได้ไปถึงเป้าหมาย แต่ก็ยังคิดว่าตรงนี้เสียงของสื่อมวลชนที่ถ่ายทอดออกไปให้กับเราจะทำให้ประชาชนได้รับทราบว่าเราพยายาม อย่างเต็มที่แล้วจึงจะพยายามสื่อสารไปยังประชาชนต่อไป


“จะมีกรรมาธิการจากสีน้ำเงิน 21 คณะ จึงต้องถามประชาชนว่าเห็นชอบด้วยอย่างนั้นหรือไม่ ด้วยเสียงข้างมากไม่ได้แปลว่าต้องกินรวบทั้งหมด ไม่ได้แปลว่าจะต้องได้เป็นประธานกรรมาธิการทุกคณะ ควรจะมีสัดส่วน ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งต้องมีความรู้ความสามารถตรงกับบทบาทภาระหน้าที่ ของกรรมาธิการที่ไปดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่เข้ามาเพื่อที่จะได้รับผลประโยชน์มีห้องทำงาน ขอเครื่องราชฯได้ แต่ประชาชนจะไม่ได้มีประโยชน์อะไร เพราะได้กรรมาธิการที่มาจากข้างเดียวกันทั้งหมด ไม่สามารถผลักดันการทำงานได้จึงขอเชิญชวนให้จับตาดูการตั้งกรรมาธิการ 21 คณะ หวังว่าจะไม่ทำร้ายจิตใจประชาชนถึงขนาดที่จะรวบเอา 21 คณะ ไปอยู่ข้างเดียวกันทั้งหมด ประธานมาจากฝั่งเดียวกันทั้งหมดตรงนี้คงจะเป็นปัญหา ที่สำคัญคือประชาชนจะได้อะไรจากการที่มี ประธาน กรรมาธิการ จากฝั่งเดียวกันทั้งหมด”นางสาวนันทนา กล่าว

นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. กล่าวว่า อยากจะสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะของวุฒิสภาปัจจุบันที่ใกล้เคียงกับคำว่าเผด็จการ รัฐสภาเข้าไปทุกที การที่คนใดกลุ่มหนึ่งเข้ามา ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จในสภา ข้อตกลงหลายข้อที่คุยกันก่อนที่ไม่ได้ทำตามข้อตกลง เช่นการแก้ไขข้อบังคับที่ตอนแรกคุยกันว่า จะรับทั้ง 5 ร่างที่เสนอและพิจารณาร่วมกัน แต่สุดท้ายโหวตรับร่างเดียว ทำให้ไม่สามารถแก้ไข ร่างนั้นได้เลย ขณะที่สว. อิสระที่ไปแปรญัตติหวังจะเปลี่ยนแปลง ให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันรวมถึงหน้าที่ที่มาของสว.ที่มาจากกลุ่มอาชีพแต่ สุดท้ายถูกปรับตกหมด

“ถ้าเป็นแบบนี้ครบ 5 ปีคงเรียกเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเผด็จการรัฐสภา และการทำงานวาระต่างๆให้ประชาชนก็จะเกิดความยากลำบาก เพราะทุกเรื่องทุกสิ่งที่อยากจะผลักดัน ทางฝั่งเขาไม่เห็นด้วย เพราะเกรงจะคุมไม่ได้ ก็จะค่อนข้างลำบาก แต่ยืนยันไม่ได้ท้อถอยแต่เสียดายที่ไม่ได้ทำหน้าที่ให้ประชาชนแต่กลับถูกบล็อก ถูกปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น ปิดการทำงานด้วยกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจึงขออนุญาตฟ้องสื่อให้สื่อสารไปยังประชาชนช่วยเป็นแรงกดดันหรือสนับสนุนให้พวกเราอีกทาง” นายนรเศรษฐ์ กล่าว


นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. กล่าวว่า เกมต่อไปเป็นเกมของกรรมาธิการ 21 คณะ ซึ่ง สว.เสียงข้างน้อย ประมาณ 56 คน หรือ 1 ใน 3 ของสภา ซึ่งตามสัดส่วนที่ สว.เสียงส่วนน้อยน่าจะได้เป็นประธานกรรมาธิการ 6-7 คณะ แต่ก็ต้องรอดูว่าทางอีกฝั่งมีเทคนิคกลยุทธ์อย่างไรที่จะไม่ยอมหรือยอมให้ฝั่ง สว.เสียงข้างน้อยไปเป็นกรรมาธิการฯ ได้ จึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์หน้า พร้อมขอให้จับตาวาระที่ สว. จะต้องสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย.-319 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่ม

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่มจากผู้เชี่ยวชาญ 22 ท่าน พร้อมให้ข้อมูลเต็มที่ ผลสอบออกมาเป็นอย่างไร ก็จะยอมรับ ย้ำเชื่อมั่นความโปร่งใส ขณะนี้ สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง บ.อิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด

ปชช.กลับบ้านสงกรานต์ แน่นสถานีขนส่งหมอชิต 2

บรรยากาศที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ประชาชนเข้าใช้บริการแน่นขนัด บขส. ยืนยันจัดรถเสริมไว้บริการเพียงพอ พร้อมทั้งจัดจุดประสานงานจราจร ให้รถโดยสารเข้าถึงชานชาลาได้เร็วขึ้น

ไล่ล่า “บุญเกิด” มือยิง ตร.ดับ ตั้งค่าหัว 1 แสนบาท

คดีคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิต ขณะเข้าตรวจค้นกระท่อมภายในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาตัวมือยิง เชื่อยังหลบอยู่ในพื้นที่

ลุ้นปาฏิหาริย์ ช่วยแรงงานติดใต้ซากอาคาร สตง.

ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างอาคาร สตง. ถล่ม ยังคงดำเนินต่อเนื่อง หลังพบแสงสัญญาณแห่งความหวัง ที่คาดว่ามีผู้ติดค้างสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยเจ้าหน้าที่เร่งเจาะเปิดพื้นที่พร้อมเติมท่ออากาศลงไป