“ณัฐชา” จี้เยียวยาชาวบ้านได้รับผลกระทบ “ปลาหมอคางดำ”

รัฐสภา 29 ส.ค.-“ณัฐชา” ชี้มาตรการ 7 ข้อของรัฐบาล ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ จี้ “รักษาการนายกฯ” อย่ามัวแต่วุ่นวายกับการกรอกประวัติรัฐมนตรี ช่วยมากรอกข้อมูลให้ชาวบ้านที่ต้องได้รับการช่วยเหลือด้วย

นายณัฐชา บุญอินไชยสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหารวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย กล่าวถึงการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในช่วงเวลาที่ผ่านมา ว่าแม้ขณะนึ้จะมีกระแสที่ลดลงไป แต่สถานการณ์ยังไม่ได้เบาบางลง ประกอบกับการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ตรงและไม่ตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งทำให้ปัญหาไม่ลดน้อยลงเลย


นายณัฐชา กล่าวต่อว่า วันนี้คณะอนุฯ จึงได้เชิญอธิบดีกรมประมงมาให้ข้อมูล แต่อธิบดีฯ ไม่ได้มาเข้าร่วม ส่งเพียงเอกสารที่มีการเผยแพร่ตามสื่ออยู่แล้ว คือ 7 มาตรการ ซึ่งมติคณะรัฐมนตรี ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งการลงไป คือมาตรการต่างๆ ที่ใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณที่รับซื้อเพียงส่วนเดียว แต่จำนวนอีก 400 ล้านบาท เป็นงบประมาณของการฟื้นฟู การทำความเข้าใจ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ที่ไม่ตอบโจทย์ และไม่ตรงความต้องการ

นายณัฐชา ยกตัวอย่าง มาตรการการรับซื้อซึ่งอยู่ในมาตรการที่หนึ่ง มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทนั้น มีการรับซื้อ 5,000,000 กิโลกรัมเท่านั้น ขณะที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มีมาตรการรับซื้อจำนวน 2,000,000 กิโลกรัม รวมกันแล้วเกือบ 7,000,000 กิโลกรัม แต่สถานการณ์ในพื้นที่ทั้ง 19 จังหวัด ยังคงไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร และ 7,000,000 กิโลกรัมนี้ อาจจะมีคนที่ขายได้เพียงบางกลุ่มบางพวกเท่านั้น


นายณัฐชา ระบุว่า ขณะนี้มีประกาศของกรมประมงที่เพิ่มเติมมา ใน 19 จังหวัดมีเกษตรกรเดือดร้อนกว่า 50,000 รายที่ลงทะเบียนแล้ว แต่มาตรการที่หน่วยงานภาครัฐทำทั้งหมดล้วนสวนทางกับความต้องการ และผิดที่ผิดทางเป็นอย่างมาก

นายณัฐชา ยังยกตัวอย่าง การประกาศรับซื้อ ที่มีงบประมาณ 50 ล้านบาท แต่เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ก็กลับประกาศว่า งบประมาณถูกใช้เกือบหมดแล้ว แต่ความจริงการซื้อขายของชาวบ้านแทบจะยังไม่ได้จับออกพื้นที่เลย ส่วนมาตรการจับปลาหมอข้างดำออกจากแหล่งน้ำ ธรรมชาติ และซื้อปลาผู้ล่าไปปล่อยอย่างต่อเนื่อง ก็คือการซื้อปลาอื่นไปปล่อยอีก 50 ล้านบาท และการนำไปใช้ประโยชน์อื่น เช่น ปุ๋ยหรือปลาป่น ก็มีเอกชนดำเนินการอยู่แล้ว จึงอยากจะถามว่า ได้มีการนับรวมส่วนนี้เข้าไปด้วยหรือไม่

สำหรับการวิจัย ก็มีการของบประมาณไปกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกรมประมง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะทำไปเพื่ออะไร หรือจะวิจัยไปเพื่ออะไร จะเป็นเรื่องปลาหมัน ก็ไม่น่าใช่


ส่วนงบประมาณการฟื้นฟู 100 กว่าล้านบาทนั้น คือการให้นำปลาท้องถิ่นจำนวน 5,000,000 ตัวไปปล่อยตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นในเดือน ม.ค. ปี 68 ตนคิดว่าทั้งไทม์ไลน์ที่ไม่ชัดเจน และงบประมาณที่ไม่ชอบมาพากล สวนทางกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบในปัจจุบัน จึงอาจสงสัยได้ว่าจะมีกระบวนการหาประโยชน์จากการแพร่ระบาดของของปลาหมอคางดำ ซึ่งทำให้เรื่องนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แล้วในอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้า ก็จะเห็น สส.มาตามเรื่องนี้กันอีกรอบหนึ่ง

นายณัฐชา ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ทำนี้ไม่สอดคล้องกับปัญหา โดยยกตัวอย่าง โครงการที่กรมประมงทำงานร่วมกับ CPF ในการปล่อยปลาเวลา 09.00 น. แต่มีการจับปลาในเวลา 09.45 น. ซึ่งระยะห่างระหว่างสองจุดนั้นไม่ได้ไกลกัน และมีการทำอย่างนี้ทุกวัน ปล่อยแล้วจับ ไม่มีใครกล้าประกาศว่า ปลาที่จับได้เป็นปลาที่ปล่อยไปหรือไม่ เพราะเป็นความรับผิดชอบขององค์กรท่านเอง ซึ่งตนก็คิดว่า เขาอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือไม่ชำนาญการเฉพาะกิจ จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

นายณัฐชา ย้ำว่า ระยะเวลาผ่านไปขนาดนี้ และการที่คณะอนุฯ ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาไปแล้ว แต่รัฐบาลกลับปล่อยมาได้ขนาดนี้ ทำให้ต้องคิดว่า นี่คือความตั้งใจให้สถานการณ์ซับซ้อน งบประมาณเป็นหมัน เพื่อให้ต่อเนื่องไปในปี 68 ใช้ความทุกข์ความเดือดร้อนของประชาชน และปัญหาสิ่งแวดล้อมนี้ เป็นที่มาของการใช้งบประมาณ และได้รับผลประโยชน์จากการใช้งบประมาณเองหรือไม่

ส่วนการที่บอกว่า จะประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ก็ยังไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร วันนี้ก็ยังเงียบสงบ วันนี้มีแต่การประกาศว่า ได้งบแล้ว แต่มติ ครม.บรรทัดสุดท้าย ระบุว่า เป็นการใช้งบประมาณของกรมประมง ซึ่งหมายความว่า 450 ล้านบาทนี้ไม่ใช่งบกลาง ตนขอถามว่าจะแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ เพราะงบกรมประมงเองมีน้อย แต่กลับไปใช้งบนี้ ไม่ใช้งบกลาง

“อย่ามัวแต่วุ่นวายกับการกรอกประวัติรัฐมนตรี ช่วยมากรอกข้อมูลให้ชาวบ้านที่ต้องได้รับการช่วยเหลือด้วย” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา เปิดเผยความคืบหน้าในการฟ้องร้องว่า ขณะนี้มีการดำเนินการเตรียมคำฟ้องทั้งเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ทั้งสองหน่วยงาน ซึ่งทางสภาทนายความเอง ก็ได้มีบอกต่อที่ประชุมว่า มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วทั้งหมด 300 คน และยังจะมีเพิ่มเติมอีก ซึ่งจะมีการฟ้องในวันที่ 5 ก.ย.นี้ แต่ในรายละเอียด ขอให้ดำเนินการเรียบร้อยก่อน แล้วจึงแจ้งอีกครั้ง

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จะส่งผลกระทบกับการแพร่ระบาดหรือไม่นั้น นายณัฐชา มองว่า สถานการณ์ขณะนี้ เรียกว่าวิกฤติขั้นรุนแรงกว่าหลายเท่าที่ผ่านมา ดังนั้น น้ำท่วมอาจทำให้การเดินทางของปลาหมอคางดำชุดนี้ไปได้ไกลมากขึ้น ตนคิดว่าหลังสถานการณ์น้ำท่วมจะเห็น พื้นที่ที่ไม่ติดแนวชายฝั่งได้รับผลกระทบด้วย.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย