“สามารถ” บอก “ลุงป้อม” อารมณ์ดี หลังเพื่อไทยเขี่ยพ้นพรรคร่วมฯ

รัฐสภา 28 ส.ค.-“สามารถ” บอก “ลุงป้อม” อารมณ์ดี ดูดไปป์ ไม่เครียด หลังเพื่อไทย เขี่ยพ้นพรรคร่วมรัฐบาล ย้อนถามสัญญาลูกผู้ชาย พปชร. โหวต “อุ๊งอิ๊งค์” นั่งนายกฯ แต่อีกพรรคงดออกเสียง ดันให้ร่วมรัฐบาล ท้าลาออกโหวตใหม่ ดูจะได้เสียงเท่าไหร่ เหน็บ ชาวบ้านจะไว้ใจนายกฯ ที่ตระบัดสัตย์ได้อย่างไร

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย มีมติไม่ขอร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า เรื่องนี้เป็นมติของ สส. แต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแสดงความชัดเจน ให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอีกไม่นานพรรคคงมีมติออกมาอย่างแน่นอน หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องนี้


นายสามารถ ยังกล่าวด้วย ว่า ส่วนตัวเข้าใจว่า คำว่าสัญญาลูกผู้ชาย ไม่ต้องมีการเซ็นเอกสาร แต่เป็นการให้คำมั่นต่อกัน ว่าถ้าจะร่วมรัฐบาลแล้วโหวตให้ก่อนแล้ว ค่อยมาดูว่า ใครจะดำรงตำแหน่งไหน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ทำอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐก็ไปร่วมหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งในวันนั้น ได้มีการ ระบุว่าจะให้นายชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมา สส. เพื่อไทยมีมติอยากให้ นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคงเห็นว่าสถานการณ์พรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร และในวันที่ 15 สิงหาคม ทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลก็มาแถลงข่าว ว่าจะเลือกคนของพรรคเพื่อไทย แบบไม่มีเงื่อนไขไม่ว่าจะเป็นใคร และในวันเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีพรรคไหนส่งแคนดิเดตนายกฯ แข่ง และพรรคพลังประชารัฐก็โหวตให้นางสาวแพทองธาร ครบทั้ง 39 คน ขาดเพียงคนเดียว คือหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะติดภารกิจในการจัดเลี้ยงนักกีฬาโอลิมปิก และพรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีชุดเดิม 4 คน ซึ่งถ้านายกรัฐมนตรีเห็นว่าคนใดไม่มีความเหมาะสม ก็สามารถส่งรายชื่อกลับมาเพื่อเปลี่ยนตัวได้ ซึ่งหัวหน้าพรรคก็ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการไปต่อรองเก้าอี้ และยึดมั่นในคำพูดลูกผู้ชายที่ได้มีการสัญญาไว้เท่านั้น แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็มีมติออกมาว่า ไม่สบายใจในการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตนเคยได้ยินคำสัมภาษณ์ของนางสาวแพทองธารว่ายังมีพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล แต่การกระทำของพรรคเพื่อไทยไปเทียบเชิญพรรคโน้นพรรคนี้ ได้มีการปรึกษานางสาวแพทองธารแล้วหรือยัง

ส่วนพรรคเพื่อไทยไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ เพราะพลเอกประวิตร เป็นปฏิบัติกับพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งไม่มาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และอยู่เบื้องหลัง 40 สว. ในการสอยนายเศรษฐานั้น นายสามารถ กล่าวว่า อาจจะเข้าใจได้ว่าพลเอกประวิตรเป็นปฏิปักษ์ แต่ตนคิดว่าพรรคการเมืองอื่นน่าจะเป็นปฏิปักษ์มากกว่า เพราะไม่เคยโหวตให้เลย ในรอบของนางสาวแพทองธาร งดออกเสียงทั้งพรรค แต่ของพรรคพลังประชารัฐโหวตให้ 39 คน ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม


ส่วนเรื่อง 40 สว. จะเห็นว่าในรายชื่อ 21 คน ก็โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แปลว่า สว.รับไม่ได้ที่มีการเสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำผิด คงไม่มีใครไปยื่นถอดถอด

ส่วนที่บอกว่า สว. เป็นคนของพลเอกประวิตรนั้น ก็รู้อยู่แล้วว่า สว. ของพลเอกประวิตรมีอยู่เท่าไหร่ ถ้าจะเอาจริงก็คงมากันหมด แต่ 40 สว. ที่ยื่นคำร้อง มีคนไหนเป็นเพื่อนพลเอกประวิตรบ้าง การที่นายเศรษฐาต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมาโทษพลเอกประวิตรนั้นไม่ถูก ทำไมไม่ไปโทษ คนที่เอาชื่อนายพิชิต มายัดใส่มือนายเศรษฐา ต้องโทษคนนั้นมากกว่า

“ผมว่า ไม่เอาคืนหรอกครับ แต่ใช้กระบวนการของกฎหมาย ซึ่งมั่นใจว่า เรื่องของชาวบ้านที่ต้องไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจะตระบัดสัตย์หรือไม่ ต่อไปนี้พูดไป จะเชื่อถือได้หรือไม่ ส่วนเรื่องของพรรค สส. หลายคนคงต้องมีมติและดำเนินการกันต่อไป ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ติดตามการเมือง ไม่เคยเห็นตั้งแต่เล็กจนโต ที่ให้โหวตไปก่อนแล้วมาบิดทีหลัง ให้โหวตไปก่อนแล้วมาหักหลังทีหลัง ไม่เคยเห็น” นายสามารถ กล่าว


ส่วนความรู้สึกของพลเอกประวิตรในขณะนี้นั้น นายสามารถ กล่าวว่า อารมณ์ดี ดูดไปป์ เมื่อวานก็ดูข่าวแล้วไม่ได้เครียดอะไร พลเอกประวิตรเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตรองนายกฯ อดีตรักษาการนายกฯ ผ่านอะไรมาเยอะ แต่ถ้านางสาวแพทองธาร คิดว่ามติ สส.ของพรรคสำคัญ เพื่อความสง่างาม ก็ขอให้ลั่นวาจาว่า ลาออก แล้วโหวตใหม่ และดูว่าจะมีคนแข่งหรือไม่ และจะ เหลือคะแนนเท่าไหร่ อย่างนี้พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นต้องระวังด้วยหรือไม่

ส่วนกระแสที่กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ไปร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อล้มฝั่งพลเอกประวิตรนั้น ตนไม่ทราบ แต่มองว่า บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง พรรคการเมืองก็มีกฎ ตนคิดว่าก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคที่ต้องดำเนินการต่อ

ส่วนถ้ากลุ่มของร้อยเอกธรรมนัสไปร่วมรัฐบาลเพียงกลุ่มเดียว จะส่งผลอย่างไรกับพรรคพลังประชารัฐ นายสามารถ ถามกลับว่า เคยทำได้หรือ เพราะจากที่นายทักษิณ ชินวัตร พูดว่า ถ้ามาก็มาทั้งตัว ก็หมายถึง มาก็มาทั้งพรรคใช่หรือไม่ ต้องไปตีความกันเอาเอง เพราะพรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ดังนั้นไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องมีมติพรรค พร้อมยืนยันพรรคพลังประชารัฐไม่แตก แต่ทุกคนที่เป็น สส. มีความคิดเห็นต่างกันได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมีมติพรรค ส่วนใครจะปฏิบัติตามหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องเคารพซึ่งกันและกัน

นายสามารถ กล่าวว่า ส่วนหากวันหน้ามาเป็นฝ่ายค้าน และมีการโหวตสวนมติฝ่ายค้าน ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ แต่สุดท้ายก็มีกฎของพรรค ส่วนจะมีโอกาสขับกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส ออกจากพรรคหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค และเชื่อว่าไม่ใช่แผนปิดสวิตช์ 3 ป. เพราะปิดไม่ได้อยู่แล้ว พลเอกประวิตรก็ยังเป็น สส. และแคนดิเดตนายกฯอยู่ และที่บอกว่าปิดสวิตช์ก็คงไม่จริง และปิดไม่ได้ด้วย เพราะมั่นใจว่า 3 ป. ยังรักกัน ที่บอกว่าจะปิดสวิตช์ 3 ป. ปิดอะไร ตนไม่เชื่อว่าปิดได้ และเชื่อว่า สายสัมพันธ์ของ 3 ป. ยาวนานกว่า 50 ปี ไม่มีใครมาแยกสลายได้

ส่วนถ้าต้องไปร่วมงานกับฝ่ายค้านจริงนั้น ตนมองว่าฝ่ายค้านไม่ได้ต้องการความสามัคคีเหมือนกับฝั่งรัฐบาล ที่จะต้องรวมเสียงหากโหวตแพ้ รัฐบาลก็ล่ม พรรคฝ่ายค้านก็ทำงานตรวจสอบรัฐบาล

ทั้งนี้ ยืนยันว่าพลเอกประวิตร ยังไม่ได้ลาออกจาก สส. แม้จะมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้สองครั้งแล้ว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย