“ชัยชนะ” ย้ำต้องเป็นมติพรรค เข้าร่วมรัฐบาล​ “แพทองธาร”

ประชาธิปัตย์​ 27 ส.ค. – “ชัยชนะ” ย้ำเข้าร่วมรัฐบาล​ “แพทองธาร” ต้องเป็นมติพรรค ฟาดแม่ยก-คนออกจากพรรคหยุดเสี้ยมสร้างความแตกแยก ยันไม่มีใครขับ “ชวน” พ้นพรรค ด่ากลับตอนหาเสียงอยู่ตรงไหนอย่าพูดสนุกปาก พร้อมแจงไหว้ “ทักษิณ” เป็นมารยาทเพราะอายุมากกว่า ไม่แฟร์ถูกวิจารณ์


นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของพรรคในการเข้าร่วมรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตรว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประชุม สส. ต้องรอผลการประชุมก่อน และยังไม่มีการเทียบเชิญ ซึ่งทุกอย่างรับทราบมาจากสื่อ และไม่รู้ว่าสื่อนำข่าวมาจากไหน

เมื่อถามว่า มีบุคคลใกล้ชิด นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏตัวที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล จนมีการเข้าใจว่าไปส่งเอกสารผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายชัยชนะระบุว่า ต้องไปถามเลขาธิการพรรคฯ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าบุคคลที่อ้างเป็นคนของเลขาธิการพรรคจริงหรือไม่ เพราะไม่มีภาพมายืนยัน


เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกันหรือไม่หลังมีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล นายชัยชนะระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีหลักชัดเจน 1. หากร่วมรัฐบาล จะต้องมีการเทียบเชิญ จากนั้นจะต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค และสส.ของพรรค เพราะฉะนั้นคิดว่าสิ่งที่เป็นข่าวในขณะนี้ ออกมาจากสื่อ ไม่มีบุคคลใดในพรรคออกมายืนยัน

เมื่อถามว่า จากที่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ามติพรรคมอบ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคไปเจรจา และมีข่าวว่าหัวหน้าพรรคเจรจาแล้ว จนหัวหน้าพรรคออกมายอมรับว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะการประชุมพรรคครั้งก่อนมีการขอถอนมติในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายชัยชนะระบุว่า ตามที่หัวหน้าพรรคชี้แจงถูกต้องแล้ว ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้เสนอ แต่ก็มีการถอนมติออกไป

เมื่อถามว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล ทำให้มีกระแสข่าวว่า คนที่ไม่เห็นด้วยอย่างนายชวน หลีกภัย จะถูกขับออกจากพรรค นายชัยชนะกล่าวว่า นายชวนเป็นผู้ใหญ่ในพรรคที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือ ไม่มีใครขับท่าน ซึ่งท่านให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่าความเห็นส่วนตัวเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายหากมติพรรคเป็นอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคยังไม่เคยมีการประชุมกัน เพราะยังไม่มีการเทียบเชิญเป็นทางการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นออกมาจากสื่อมวลชนเท่านั้น ต้องถามสื่อว่าได้ข่าวมาจากไหน ซึ่งคนที่มีรายชื่อก็ไม่มีใครออกมายืนยัน ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมี 25 เสียง ก็มีหลักและอุดมการณ์ของพรรคอย่างชัดเจน ทำตามระเบียบวิธีการขั้นตอนในการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นไม่มีใครคนใดคนหนึ่งที่ตัดสินใจได้ การที่ มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล แล้วต้องขับนายชวนออกจากพรรค ขอยืนยันว่าไม่มีทาง และย้ำว่า ประชาธิปัตย์ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว


“ต้องยอมรับว่าคนในพรรคไม่ได้พูด คนนอกพรรคพูด แล้วคือใคร เวลาหาเสียงเลือกตั้งเคยมาช่วยหรือไม่ ที่บอกเป็นแม่ยก ตอนหาเสียงอยู่ตรงไหน และไม่ทราบว่าแม่ยกเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ และทราบหรือเปล่าว่ากระบวนการกว่าจะได้ 25 ที่นั่ง สส. ทุกคนต้องลงพื้นที่หาเสียงเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน มันมีอยู่ 2 อย่าง คือพูดสนุกปากพูดให้แตกแยก กับให้คนรักกัน ก็แค่นั้น ผมคิดว่าทุกคนที่ยืนอยู่ในพรรคทั้งหมด ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ตัวผมเองและสส. ให้ความเคารพ ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านจุรินทร์ ให้ความเคารพทั้งหมด และเป็นหนึ่งเดียวกันแน่นอน เพราะฉะนั้นหยุดเสี้ยม หยุดทำร้ายพรรค คนที่ออกจากพรรค ด่าพรรค โจมตีพรรคขอหยุดเถอะครับ” นายชัยชนะกล่าว

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า วันนี้คำว่า รักพรรค ยืนยันอยู่เสมอว่า รักวันที่พรรคตกต่ำ มาช่วยกันฟื้นฟู รักไม่ใช่บอกว่ารักพรรคต้องเป็นนู้นเป็นนี่ ขอถามกลับว่าในวันที่คุณยืนอยู่ในพรรค ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับพรรคบ้าง ซึ่งหมายถึงทุกคนที่วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมถามกลับว่าพรรคทำอะไรผิด ไม่มีใครทำอะไรผิด เข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือ มีการประชุมพรรคไปแล้วหรือ คิดกันไปเอง หากบอกว่ามีใครแอบไปคุยท้าให้ไปเอาหลักฐานมา ว่าคุยที่ไหนเมื่อไหร่ อย่าพูดอะไรลอยๆ

นายชัยชันะยังชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร ว่า ในฐานะที่ตนเองอายุน้อยกว่า และนายทักษิณก็อายุเยอะกว่า เป็นตามมารยาทไทยในการไหว้ เพราะเด็กเราก็ยังไหว้ แล้วการไหว้ผู้ที่มีอายุมากกว่าผิดตรงไหน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่แฟร์ หลังจากที่มีผู้มาวิพากษ์วิจารณ์ตนเองว่านอบน้อม และเหตุใดต้องไปไหว้ ส่วนตัวมองว่าผู้ที่วิจารณ์ไม่ได้หวังดีต่อประเทศชาติ

เมื่อถามว่า ต้องก้าวข้ามความขัดแย้งใช่หรือไม่ นายชัยชนะระบุว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่ เราต้องไม่ยึดติดกับอดีต เห็นด้วยกับการก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้งในสิ่งที่ถูกต้อง

ชัยชนะระบุว่า ตามที่หัวหน้าพรรคชี้แจงถูกต้องแล้ว ว่า พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ได้เสนอ แต่ก็มีการถอนมติออกไป.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

น้ำโขงใกล้แตะ 9 เมตร สทนช.เตือนเฝ้าระวัง

บึงกาฬ 6 ก.ค.- “แม่น้ำโขง” ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้แตะ 9 เมตร สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดฝนตกติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป ลาว ตอนบน ประกอบกับ สปป ลาว มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง และมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ วัดได้ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 30 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่ประตูระบายน้ำ ข้างสำนักงาน ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าทีเทศบาลได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่นเดียวกับบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร เรือโดยสารขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารไทย-ลาว ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงไหลแรงและมีเศษวัชพืช เศษขยะไหลมากับสายน้ำ พร้อมขยับปรับระดับโป๊ะเทียบท่าให้อยู่ในระดับพอดี และผูกเชือกมัดโยงให้แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม […]