“ภูมิธรรม” ย้ำจัดตั้ง ครม.เป็นอำนาจนายกฯ

ทำเนียบ 27 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ชี้นายกฯ ไม่ต้องตอบ พปชร. ปมทำหนังสือตามถามเก้าอี้ “พัชรวาท” บอกแค่ยกมือหนุนเสียง ไม่ต้องเป็น รมต.ก็ได้ โยน ปชป. เคลียร์ตัวเองให้ชัด


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีความชัดเจนมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์เลย ส่วนที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าได้รับการทาบทามแล้ว ซึ่งสวนทางกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคที่ปฏิเสธเรื่องนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องไปทำให้ชัดเจนก่อนว่าจะคุยหรือไม่คุย 

เมื่อถามว่า ความชัดเจนต้องมาจากพรรคแกนนำรัฐบาลโดยตรงหรือไม่ หรือให้พรรคประชาธิปัตย์ดีลเอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอนนี้เราดำเนินการไปตามที่ตกลงกันทั้งกระบวนการ ซึ่งตนได้พูดผ่านสื่อไปแล้วว่า พรรคที่สนับสนุนเราให้ตัวแทนไปยื่นรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นคณะรัฐมนตรี ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้มายื่นรายชื่อที่ตน ขณะนี้เป็นไปตามสภาพของแต่ละคน เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาที่ต้องใส่ใจรายละเอียด เนื่องจากกรณีของนายพิชิต ชื่นบาน ก็เป็นประเด็น ซึ่งตนก็บอกไปว่าอยากให้เผื่อรายชื่อไว้ เผื่อไม่รู้ใครเป็นอะไรก็เติมเข้าไป 


นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า สมมติว่าขณะนี้หากเราเสนอรายชื่อพอดี แล้วพอตรวจไปตรวจมาหายไป 5 คน เราก็ต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ ซึ่งกระบวนการตอนนี้ใช้เวลามาก เมื่อก่อนใช้เวลาแค่ 3 วันก็จบแล้ว ตอนนี้ขอตรวจให้ละเอียดมากขึ้น ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 1 สัปดาห์ หรืออาจจะสัปดาห์กว่า ก็จะพยายามทำให้จบ เพราะฉะนั้นเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลได้รวดเร็ว ทางพรรคเพื่อไทยส่งรายชื่อไปมากกว่าเดิม และเมื่อส่งรายชื่อไปแล้วเป็นคนไหนก็เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี 

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้พูดไม่ได้  ต้องถาม สลค. และกฤษฎีกา เพราะถ้ายังไม่ส่งชื่อมาเราก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไม่ได้ 

เมื่อถามย้ำว่าการเสนอรายชื่อมีพรรคใดเสร็จแล้วบ้างและพรรคใดยังไม่แล้วเสร็จ นายภูมิธรรมกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทยอยส่งชื่อ ซึ่งกระบวนการยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเพิ่มหรือลดรายชื่อ มันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น


เมื่อถามอีกว่าทางพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ส่งหนังสือถึงนายกฯ เพื่อทวงตำแหน่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เห็นในข่าว ตนยังไม่ได้รับหนังสือฉบับนั้น แต่ตนไม่ทราบอาจจะมีการส่งไปทางไหนก็ได้ ถือเป็นเรื่องของพรรค พปชร. ซึ่งมติกรรมการบริหารพรรคก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ที่จะมีมติอย่างไรและส่งอย่างไรก็ได้  ถ้าชัดเจนเมื่อไหร่ก็ส่งมาให้เกิดความชัดเจน แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็เป็นประเด็นที่ค้างคา 

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การจัดตั้งครม. เป็นอำนาจของนายกฯ เพียงผู้เดียว ฉะนั้นนายกฯ จะต้องเลือกทีม ครม. เข้ามาร่วมงาน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และนายกฯ ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นนายกฯ จึงมีสิทธิ์ที่จะเสนอหรือเลือกใครก็ได้ ที่คิดว่าเหมาะสม 

“การเจรจาพูดคุยกันหากหลายเรื่องยังไม่ตกลงก็เปลี่ยนแปลงได้ การที่พรรคใดยกมือสนับสนุน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีตัวแทนเป็น ครม. เช่น พรรคไทยสร้างไทยที่โหวตสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ 6 เสียง หรือ ครั้งที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน 19 เสียง ก็ไม่เห็นมีตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็น ซึ่งไม่ใช่ประเด็น นายกฯ มีสิทธิ์เลือกหากรัฐมนตรีพอแล้ว ในระดับพรรคการเมืองที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ก็เลือกบุคคลที่สำคัญๆ ซึ่งในอดีต มีทั้งนักกฎหมายและผู้ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน นายกฯก็สามารถเลือกคนเหล่านี้เข้ามาได้” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าพรรคพปชร.เสนอมา 4 รายชื่อ นายกฯ อาจจะเลือกมาแค่ 2 คน ได้หรือไม่ ที่เหลือเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ มันไม่มีโควตา โควตาเราไปเรียกกันเอง จากความเคยชิน ซึ่งในทางปฏิบัติไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันแล้วแต่ความเหมาะสม

ส่วนนายกฯ จำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงพรรคพปชร.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคพปชร. จะพิจารณาและนำเสนอใคร ไม่มีอะไรที่บอกว่านายกฯ ต้องตอบ เพราะมันไม่ใช่ประเด็น ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้ก็ต้องให้กระบวนการดำเนินไป ตนอยู่ตรงนี้ก็พยายามทำให้กระบวนการมันจบครบถ้วน มีบุคคลก็เสนอนายกฯ พิจารณา จะเป็นใครก็อยู่ในดุลพินิจของนายกฯ 

ส่วนหากนายกฯ ไม่ส่งเป็นหนังสือตอบกลับ จะยกหูโทรศัพท์พูดคุยได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ทำได้ทุกอย่าง อยู่ในความเหมาะสมที่ควรจะทำอย่างไรและอยู่ที่ในกระบวนการตอนนั้นว่าจะทำอย่างไรจะแจ้งหรือไม่แจ้ง ทั้งนี้ ในส่วนของตนไม่ได้มีอำนาจ ในการที่จะมาจัดครม. แค่ได้รับมอบหมายให้ประสานงาน เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วก็ยกให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเป็นผู้ที่รู้เรื่องการจัดตั้งครม. ให้ช่วยไปประสานต่อ ซึ่งตอนนี้ท่านก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร

เมื่อถามถึงตำแหน่งของนายภูมิธรรม มีความชัดเจนอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเลย เพิ่งจะให้เขียนประวัติก็เขียนไป เมื่อเขียนแล้วจะเอาเข้าไปหรือไม่ ก็แล้วแต่ อยู่ที่พรรคเพื่อไทย

เมื่อถามย้ำว่าผู้ที่ถูกเสนอรายชื่อเป็น ครม.เมื่อกรอกประวัติ แต่ก็ยังไม่ทราบใช่หรือไม่ว่าจะได้ตำแหน่งอะไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าได้ตำแหน่งอะไร ได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะเป็นดุลยพินิจของนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้มีรัฐมนตรี ลาประชุม ครม.รวม 3 คน คือ  1.น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล  รมว.อุตสาหกรรม 2. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช. สาธารณสุข.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]