“หัวหน้าเท้ง” ปราศรัยช่วยผู้สมัคร อบจ.ราชบุรี ไม่หวั่นเสียแต้ม ขอทุกคนกลับมาใช้สิทธิ

ราชบุรี 25 ส.ค. – “เท้ง ณัฐพงษ์” หัวหน้าพรรคประชาชน ลงพื้นที่ปราศรัยช่วย “ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์” ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ชาวบ้านสะท้อนมีซื้อสิทธิขายเสียงแล้ว ยันไม่หวั่นเสียแต้ม เชื่อเข้าวินแน่ ขอชาวราชบุรีกลับมาใช้สิทธิ ด้าน “ธนาธร” อัดอั้นบอกมีคนดูแคลนแพ้สนามท้องถิ่น ขอพลังชาวราชบุรีเลือกให้ชนะให้ได้ บอก อบจ.เป็นจิ๊กซอว์สำคัญของ “อนาคตใหม่-ก้าวไกล-ประชาชน” ลั่นงวดนี้เอาจริง ไม่ได้มาเล่นๆ


ที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอจอมบึง จ.ราชบุรี พรรคประชาชน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ปราศรัยช่วยนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี พรรคประชาชน

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า “วันนี้ไม่ใช่เวลาตัดสินใจเลือก แต่ต้องเป็นเวลาตัดสินใจแล้ว รวมใจกันเลือก การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ยอมรับตามข้อเท็จจริงว่าการเมืองท้องถิ่นยังมีอะไรอีกหลายอย่างให้พวกเราเข้าไปทำ การเมืองท้องถิ่นเคยมีหน้าข่าวเสาไฟกินรี เสาไฟโซลาร์เซลล์ มีปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมด อันนี้เป็นข้อเท็จจริงและกล่าวหาใคร มันทำให้พ่อแม่พี่น้องรู้สึกว่าเลือกนายกฯ ท้องถิ่นไป บางครั้งก็ไม่รู้สึกว่าสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ไปเลือกนายกฯ ทีเดียวดีกว่าเลือกมาท้องถิ่น เพราะไม่มีงบประมาณ ไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงอะไร อันนี้คือสิ่งที่ทำให้เราเติบโตมาแล้วไม่เห็นคุณค่าหรือเห็นความสำคัญของการเมืองท้องถิ่น”


นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น สถิติที่ผ่านมา 40-50 % ถือว่าเก่งแล้ว แต่ครั้งที่ผ่านมา อดีตพรรคก้าวไกลคะแนนสูงมาก เขารู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่รวมกัน เอาชนะพรรคประชาชนไม่ได้ ใช่หรือไม่ ตั้งแต่อดีตอนาคตใหม่ ก้าวไกล มาถึงพรรคประชาชน เราเติบโตขึ้นทุกวัน

นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ศูนย์รวมจิตใจของพวกเราไม่ใช่ตัวบุคคล ไม่ใช่ตัวผม ไม่ใช่พิธา และธนาธร สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องการการเมืองแห่งอนาคต การเมืองที่จะทิ้งทวนการเมืองในอดีต ปล่อยให้เขาไปรวมตัวกัน เราสนใจแต่การเมืองแห่งอนาคต ทำของเราให้ดี เพื่อให้ประชาชนได้มีอำนาจจริงๆ ในประเทศนี้

“เหตุการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือที่ผ่านมา ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราลงไปฟังเสียงสะท้อน มองเข้าไปในดวงตาของพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบ วันนี้เราอยู่ภายใต้กฎหมายเลือกตั้ง อยู่ในช่วง 180 วันก่อนการเลือกตั้ง อบจ. ในต้นปีหน้า ดังนั้น การแจกสิ่งของแบบนี้กฎกติกาเลือกตั้งแบบนี้ที่เป็นอุปสรรคให้ตัวแทนของประชาชนลงไปทำอะไร พวกเราก็ต้องระมัดระวัง เพราะเขาจ้องเล่นงานอยู่ กฎหมายที่ทำให้เราเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไม่เต็มที่ แต่ไม่เป็นไร อุปสรรคเยอะแค่ไหนเราใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็น เราไม่ต้องแจกของก็ได้ ไปช่วยเก็บกวาดบ้านเมือง ไปช่วยแพ็กถุงกับข้าว ผมคิดว่ายังมีอีกหลายอย่างหลายกิจกรรมที่ สส.พรรคประชาชนทำได้ ในโซเชียลก็ถามว่า พวกเราทำอะไรอยู่ ไม่ลงพื้นที่ แต่มันเป็นเพราะกติกาแบบนี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว


นายณัฐพงษ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ของพรรคประชาชน ว่า กระแสตอบรับดีมาก 2 ข้างทางที่ลงไป ชาวบ้านโบกไม้โบกมือมาให้ ลงพื้นที่ไปที่ไร่สวน ชาวบ้านอยู่ข้างในลึกๆ ได้ยินเสียงรถแห่ ก็ส่งเสียง ส่งกำลังใจมาให้ ตนคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ อยากสื่อสารให้ชาวราชบุรีที่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด อยากให้กลับมาใช้สิทธิใช้เสียงกันในวันที่ 1 ก.ย.นี้ สำคัญที่สุดคือจำนวนสัดส่วนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะพื้นที่นี้มีบ้านใหญ่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ข้อกังวลของตน ประกอบไปด้วย 2 ข้อ ข้อแรก ในพื้นที่เราเริ่มได้ยินว่ามีการซื้อสิทธิขายเสียงกันบ้าง ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนที่ไม่ได้มีหลักฐานชัด แต่ชาวบ้านก็สะท้อนให้ฟังทุกที่ ส่วนข้อที่สอง อยากให้ชาวราชบุรีให้ความสำคัญกับสนามเลือกตั้ง อบจ.นี้ ช่วยกันบอกต่อให้ทุกคนกลับมาใช้สิทธิใช้เสียงกัน

เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ เพราะพรรคประชาชนส่งผู้สมัครลงเป็นสนามแรกอย่างเป็นทางการ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ตนคิดว่าพวกเราก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เรามีความเชื่อมั่นว่าเราชนะในสนามนี้ได้ถ้าอ้างอิงจากผลการเลือกตั้งปี 2566 จะเห็นว่าคะแนน สส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกลสูงมาเป็นอันดับ 1 จำนวน 230,000 กว่าคะแนน เท่ากับอันดับ 2-5 รวมกัน เพราะฉะนั้น ถ้าเราดูจากคะแนนบัญชีรายชื่อ ซึ่งน่าจะส่งผลโดยตรงกับการเลือกนายก อบจ. ในครั้งนี้ ตนก็คิดว่าเรามีความหวังเป็นไปได้สูงมาก

“แต่แน่นอนที่สุด สำคัญที่สุด ถ้าเราเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งปี 2566 สัดส่วนผู้ออกมาใช้สิทธิของจังหวัดราชบุรีอยู่ที่ 80% ซึ่งปกติการเมืองท้องถิ่นจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิจะน้อย เพราะฉะนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่สุดตอนนี้ของพวกเรา คือการรณรงค์อย่างหนักและช่วยกันสื่อสารออกไปทั้งประเทศ ให้ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรีที่กระจายตัวกันอยู่กลับมาเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ขณะที่นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เน้นย้ำว่า ที่ผ่านมาเราไม่เคยสนับสนุนผู้สมัคร แม้แต่ต่อหน้าและลับหลัง ผู้สมัคร นายก อบจ.ราชบุรี คือจังหวัดแรกของอดีตพรรคก้าวไกลจนมาถึงพรรคประชาชน

ด้าน “ธนาธร” อัดอั้นบอกมีคนดูแคลนแพ้สนามท้องถิ่น ขอพลังชาวราชบุรีเลือกให้ชนะให้ได้ บอก อบจ.เป็นจิ๊กซอว์สำคัญของ “อนาคตใหม่-ก้าวไกล-ประชาชน” ลั่นงวดนี้เอาจริง ไม่ได้มาเล่นๆ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ซึ่งลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงช่วยนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี พรรคประชาชน พร้อมกล่าวว่า นับตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล มาจนถึงประชาชน เราทำงานมา 6 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์การเมืองในสภา การเมืองระดับชาติ คณะก้าวหน้าทำงานการเมืองท้องถิ่นกับ อบต. อบจ. เทศบาล ระดับเดียวที่เรายังไม่เคยมีประสบการณ์ก็คือระดับ อบจ. ถ้าการเลือกตั้งรอบนี้พรรคประชาชนชนะ และเราสามารถเข้าไปบริหารจังหวัดได้ จะทำให้จิ๊กซอว์ความรู้ของอนาคตใหม่ ก้าวไกล ประชาชน ครบสมบูรณ์

“งวดนี้พวกเราเอาจริง เราไม่ได้มาเล่นๆ เราต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพ่อแม่พี่น้องคนราชบุรี พรรคประชาชนเป็นพรรคเดียวที่ทำการเมืองท้องถิ่นอย่างเป็นทางการในนามพรรคการเมือง เราเชื่อว่าด้วยความรู้ความสามารถของพวกเรา ด้วยพลังของพวกเรา ด้วยความมุ่งมั่นของพวกเรา เราจะทำให้ประชาชนเห็นได้ว่าการเมืองที่ดีมันส่งผลถึงคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของพวกเราทุกคน ขอพลังในช่วงโค้งสุดท้ายให้กับผู้สมัครพรรคประชาชน สิ่งที่เป็นความคิดความฝันของพวกเราจะได้ถูกเอามาใช้จริงในระดับจังหวัดก่อน” นายธนาธร กล่าว

“หากที่นี่ชนะ จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการเดินทางสนามท้องถิ่นของพรรคประชาชน อย่าให้สนามแรกของพวกเราต้องเสียชื่อ มันสำคัญว่ามีคนดูแคลนรอบที่แล้ว เป็นครั้งแรกของพวกเรา เราเรียนรู้ถูกผิด เราไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกระดับ อบจ. แต่รอบนี้พร้อมกว่าเดิมเยอะ ทั้งองค์ความรู้ ทั้งทรัพยากร ทั้งคุณภาพของผู้สมัคร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะประกาศชัยชนะครั้งแรกของก้าวไกล ประชาชน อนาคตใหม่ในระดับ อบจ.ต่อที่นี่ ที่ราชบุรี” นายธนาธร กล่าว . -312 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย