“ภูมิธรรม” สั่งเตรียมรับมวลน้ำในพื้นที่อุตรดิตถ์ สุโขทัย

กทม. 25 ส.ค.-“ภูมิธรรม” สั่งเตรียมรับมวลน้ำในพื้นที่อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำชับเสริมแนวป้องกันคันดินและเขื่อน​ เผยบางพื้นที่คลี่คลาย​ บางพื้นที่ยังน่าห่วง ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ เน้นย้ำกรมอุตุฯ พยากรณ์เจาะจงในพื้นที่ เพื่อเตรียมการป้องกัน​ พร้อมเร่งบิ๊กคลีนนิ่งพื้นที่น้ำลด

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฯ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ ที่จังหวัดน่าน และเชียงรายในวันนี้ (25 ส.ค.) ว่า ตนเองพร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้ประจำอยู่ที่จังหวัดเชียงรายแล้ว รวมถึงสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ดังกล่าว โดยขณะนี้ จะเป็นการแก้ปัญหาน้ำเฉพาะจุดในพื้นที่ภาคเหนือก่อน และป้องกันน้ำที่กำลังจะไหลลงมา ซึ่งต่อไปจะมีการพิจารณาถึงปริมาณกำหนดน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ด้วย เพราะช่วงนี้จนถึงเดือนตุลาคม จะยังคงมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ปริมาณน้ำในเขื่อน ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิตติ์ และเขื่อนเจ้าพระยา มีความสัมพันธ์กัน และเพื่อช่วยลดมวลน้ำหลากที่ไหลลงมาอย่างแรง และเร็ว รวมถึงกำชับส่วนราชการทุกจังหวัด ให้ติดตามปริมาณน้ำที่ผิดแปลกไปจากเดิม และรองรับทางระบายน้ำ ทั้งการเจาะรูระบายน้ำ ทั้งถนน หรือสะพานและใช้สะพานแบริเออร์ทดแทน หรือประสานท้องถิ่นจังหวัดอื่นเพื่อสนับสนุนเครื่องจักร อาทิ รถดูดโคลน เป็นต้น พร้อมย้ำว่า รัฐบาล และส่วนราชการ จะไม่ประเมินสถานการณ์ที่ต่ำเกินไปจนประมาท และจะไม่รายงานใด ๆ จนทำให้เกิดความตื่นตระหนกได้ รวมถึงจะมีการรายงานสถานการณ์ให้หน่วยงาน และประชาชน สามารถติดตาม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้


ส่วนสถานการณ์น้ำ ณ ตอนนี้ ทั้งที่เชียงราย แพร่ และน่านนั้น นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า น้ำลดลงบ้างแล้ว ยกเว้นบางพื้นที่ที่เป็นเขื่อนกั้นดิน ก็ยังมีทะลักเข้ามาอยู่ ซึ่งแม้จะมีรายงานว่า สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ตนเองก็ยังคงเป็นห่วงอยู่ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ส.ค.) ก็ยังมีฝนตกลงมาอยู่ จึงต้องยังมีการเฝ้าระวัง และไม่นิ่งนอนใจ ส่วนมวลน้ำจากแม่น้ำยม ขณะนี้ ได้ไหลสู่อุตรดิตถ์ และสุโขทัยแล้ว ซึ่งน่าเป็นห่วงเช่นกัน จึงได้สั่งการให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปติตตามสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงได้ระดมหน่วยงานรัฐทั้งหมดมาร่วมดูแล

นายภูมิธรรม ยังชี้แจงสาเหตุของสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นจากสภาพอากาศที่เปลี่นแปลงไปจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งแม้แต่น้ำในแม่น้ำโขง ก็ยังปรับระดับสูงขึ้น และปริมาณน้ำฝน มีเป็นจุด ไม่แพร่กระจาย จึงทำให้ฝนตกบางพื้นที่อย่างรุนแรง และเร็ว ซึ่งบางพื้นที่จะมีการวางแนวป้องกันไว้ แต่ก็ยังต้องเผชิญสถานการณ์ แต่ก็เชื่อว่า สถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว เพราะเป็นน้ำหลาก


ส่วนแผนการแจ้งเตือนประชาชนนั้น นายภูมิธรรม ย้ำว่า มีแผนตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งขณะนี้ สทนช.ได้ไปติดตามพื้นที่เฝ้าระวังแล้ว และให้กรมทรัพยากรธรรมชาติ ไปติดตามความแข็งแรงของคันดินกั้นน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ให้แข็งแรง รวมถึงกำชับให้กรม อุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ระบุบ่งชี้ถึงพื้นที่ที่มีปัญหาให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถเตรียมการในพื้นที่ได้ แต่ปัญหาจากสภาวะโลกร้อน ก็ทำให้สภาพปัญหาเปลี่ยนแปลงไปด้วย รวมถึงรัฐบาล ยังมีการตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าไว้ที่จังหวัดสุโขทัย และสั่งการให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISDA และกรมชลประทาน จัดเก็บข้อมูลหลังจากนี้ว่า จะต้องดูแลปัญหา และเตรียมการอย่างไรล่วงหน้าได้บ้าง

นายภูมิธรรม ยังย้ำถึงสถานการณ์ดินโคลนถล่ม ที่จังหวัดภูเก็ต และอุทกภัยที่แพร่ น่าน และพะเยาว่า รัฐบาลได้สั่งการดูแลเรื่องการเยียวยาประชาชนแล้ว รวมถึงการฟื้นฟูสภาพหลังน้ำลด เพื่อไม่ให้กระทบการมาหากินของประชาชน และแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ติดตามราคาสินค้า และสินค้าจำเป็นต่าง ๆ ไม่ให้ขาดตลาด หรือเกิดการขึ้นราคา ซึ่งหลายจุดที่ประสบภัยอย่างเช่นในจังหวัดน่าน ประชาชนต้องการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และข้าวสารจำนวนมาก รวมถึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งน้ำปะปา และไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตต่อได้.-319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]

นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับ ปธน.อินโดนีเซีย

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 20 ปี พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถ่ายภาพร่วมกัน ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสอง หารือข้อราชการเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก […]

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]