รัฐสภา 23 ส.ค.-“สว.นันทนา” ชี้สาธารณชนรับรู้แล้วใครคือนายกฯ ตัวจริง มอง “ทักษิณ” ตั้งใจดี ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ต้องดูบทบาทถูกต้องเหมาะสมเพียงใด และยังรอ “อิ๊งค์” ฟอร์มทีม ครม. แถลงนโยบายก่อนว่าจะเดินหน้าตรวจสอบอย่างไร โยนถามประชาชน มีปัจจัยอะไร “เพื่อไทย” แพ้เลือกตั้ง
นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะนักวิชาการด้านการสื่อสารกล่าวถึงกรณี ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดในงานดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อ Vision for Thailand 2024 ช่วงหนึ่งถึงพรคเพื่อไทยที่แพ้เลือกตั้งเพราะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลาคลอดว่า ตรงนี้ต้องไป สอบถามประชาชนที่ลงคะแนนเสียงว่าในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง มันเกิดอะไรขึ้น และมีการรณรงค์ในเรื่องของการที่จะ เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดบ้าง และที่ได้มีการประกาศการออกมานั้น ประชาชนมีความต้องการ และอยากจะให้ทิศทางของคนที่มาเป็นผู้แทนรวมถึงคนที่มาเป็นรัฐบาลไปในทิศทางใด ซึ่งตรงนั้นต้องกลับไปถามประชาชนที่เลือกมาว่า ปัจจัยที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ใช้ปัจจัยในการตัดสินใจอย่างไร
เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณจะส่งผลกระทบอะไรต่อการเมืองให้เปลี่ยนไปในมิติอะไรบ้าง นางสาวนันทนากล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าบทบาทของนายทักษิณออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะแบบนี้ จะส่งผลกระทบกับพรรคการเมืองที่นายทักษิณกำลังขับเคลื่อนอยู่หรือไม่ และเป็นประเด็นถัดไปที่จะต้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูว่า บทบาทตรงนี้มีความถูกต้องเหมาะสมเพียงใด แต่ความตั้งใจที่นายทักษิณพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าเป็นสิ่งที่ดี ถ้าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาล ตอบรับสิ่งนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่ มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อนายทักษิณออกมาขับเคลื่อนเช่นนี้ใครคือนายกฯตัวจริงกันแน่ นางสาวนันทนา หัวเราะก่อนระบุว่า เข้าใจว่าสาธารณะชนคงรับรู้ไปแล้วว่าใครคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง
ส่วนที่นายทักษิณ กล่าวว่าไม่ได้ครอบงำแต่ครอบครองเพราะเป็นพ่อของ นายกฯ สว. ต้องไปตรวจสอบหรือไม่ นางสาวนันทนากล่าวว่าเราคงจะไปตรวจสอบในกระบวนการการบริหารจัดการประเทศของรัฐบาล ที่ตอนนี้ยังจัดตั้งกันไม่เสร็จ คงต้องรอให้ทางรัฐบาลชุดใหม่ จัดตั้งให้เรียบร้อย และแถลงนโยบาย ซึ่งทางสว. จะรับฟังการแถลงนโยบาย หลังจากนั้นการขับเคลื่อนที่มันดำเนินไป มีใครเป็นผู้แสดงหลัก ใครผลักดันอยู่เบื้องหลังอย่างไร เราจะพิจารณาหลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ได้บริหารประเทศแล้ว
ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการที่ได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งถ้านางสาวแพทองธาร แต่งตั้งคนที่ถือกรรมสิทธิ์และครอบครองที่ดินเขากระโดงที่ศาลตัดสินเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ตนจะดำเนินการร้องนางสาวแพทองธารต่อไปและผู้ถูกแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย