รัฐสภา 23 ส.ค.-“สรรเพชญ” ค้าน ปชป.ร่วมรัฐบาล ชี้เป็นฝ่ายค้านทำประโยชน์ให้ประเทศและประชาชนได้เหมือนกัน ยึดมั่นใช้กลไกรัฐสภาตรวจสอบฝ่ายบริหารเข้ม แต่ระบุสุดท้ายจบที่มติพรรคทุกคนพร้อมเคารพ
นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุประชาชนจังหวัดสงขลาเกือบทั้งหมดต้องการให้ไปร่วมรัฐบาล ว่า ไม่สามารถตอบแทนพี่น้องชาวสงขลาได้หมด จะไปตอบแทนหรือเหมารวมพี่น้องชาวสงขลาไม่ได้ แน่นอนเขาเลือกตัวแทนเขามาก็ต้องอยากให้เป็นรัฐบาล แต่ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์มี 25 เสียง เราจึงตั้งใจทำงานเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าเราทำงานตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง และมีวุฒิภาวะ ตรงไปตรงมา เชื่อว่าการเลือกตั้งสมัยหน้าคงจะมีทิศทางที่ดีขึ้น
“เป็นระยะเวลา 1 ปีแล้วที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ไม่มีเหตุผลใดๆที่เราจะเข้าร่วมรัฐบาลนี้ เพราะตัวเลขของรัฐบาลมีเสถียรภาพพอสมควรแล้ว สิ่งที่พี่น้องตั้งตารอคือการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาล ให้รัฐบาลใช้อำนาจของประชาชนอย่างโปร่งใสที่สุด เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเรียกความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนคืนมา นั่นคือแนวทางในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและศรัทธา” นายสรรเพชญ กล่าว
เมื่อถามถึงท่าที สส.ส่วนใหญ่ของพรรคแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย นายสรรเพชญ กล่าวว่า ถ้าจะไปคงมีการเทียบเชิญและพูดคุยกันภายในพรรค ซึ่งเป็นประเพณีของพรรคประชาธิปัตย์ การที่มีสมาชิกหลายคนแสดงความคิดเห็นก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่สามารถทำได้ แต่สุดท้ายก็ไปจบที่มติพรรคจะว่าอย่างไร ทุกคนพร้อมที่จะเคารพมติพรรค
เมื่อถามว่าข้อวิเคราะห์ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลอาจสูญพันธุ์ได้ นายสรรเพชญ กล่าวว่า เราทำงานในแนวทางของเรา วันนี้เมื่อเป็นเสียงข้างน้อยในสภาก็ต้องตรวจสอบ การทำประโยชน์เพื่อประเทศไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาลเพียงอย่างเดียว หน้าที่สส.สามารถใช้กลไกรัฐสภาในการทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนทั้งในระดับประเทศและในระดับพื้นที่ได้ ไม่ว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต่างคนต่างมีหน้าที่ เป็นรัฐบาลก็ทำหน้าที่บริหาร เป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าทุกคนบอกว่าต้องเป็นรัฐบาลอย่างเดียวแล้วจะทำประโยชน์ให้ประชาชนได้ ก็ไม่ต้องมีฝ่ายค้านแล้ว ประชาธิปไตยทั่วโลกก็ไม่ต้องมีฝ่ายค้าน ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญกฎระเบียบเดียวกัน.-312.-สำนักข่าวไทย