ทบ. ระดมช่วยน้ำท่วมหลายจังหวัดภาคเหนือ

กองทัพบก 22 ส.ค. – ทบ. ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์อย่างเต็มขีดความสามารถ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ


พ.ท.หญิง ญดา โชติชูตระกูล ผช.โฆษก ทบ. กล่าวถึงกรณีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ว่า พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จึงได้มอบหมายให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 พร้อมกับส่วนราชการในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งระดมกำลังพลและเครื่องมืออย่างเต็มขีดความสามารถ เข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นการเร่งด่วน ตั้งแต่วานนี้ (21 ส.ค.) ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันในพื้นที่หลายจังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน พะเยา และเพชรบูรณ์

โดยพื้นที่ จ.เชียงราย ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 3 ได้ติดตามสถานการณ์น้ำ ป่าไหลหลากในพื้นที่ อ.เวียงแก่น และ อ.เทิง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 ได้เข้าให้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของผู้ประสบภัย บริเวณโรงเรียนปางหัดสหศาสตร์ อ.เวียงแก่น ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 ได้จัดกำลังพลจิตอาสาร่วมกับส่วนราชการดำเนินการขุดดินออกจากบ้านเรือนประชาชนที่ประสบเหตุดินสไลด์ในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ในส่วนของพื้นที่ จ.พะเยา ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 34 ได้ทำการบรรจุกระสอบทราย ขนย้ายสิ่งของ และช่วยเหลือผู้สูงอายุจากบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ ต.คือเวียง อ.ดอกคำใต้


ทางด้านพื้นที่ จ.น่าน อ.ทุ่งช้าง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 ร่วมกับส่วนราชการและผู้นำชุมชน ได้ช่วยขนย้ายสิ่งของและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมทั้งจัดชุดแพทย์ทหารมณฑลทหารบกที่ 38 ออกตรวจสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่

นอกจากนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 38 ได้ช่วยเคลื่อนย้ายสิ่งของให้กับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองน่าน อ.เมืองน่าน เนื่องจากระดับน้ำขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง และที่ จ.เพชรบูรณ์ มวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมในพื้นที่ อ.วังโป่ง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนได้รับความเสียหายจำนวนมาก กองพันทหารสื่อสารที่ 11 กองพลทหารม้าที่ 1 จัดกำลังพลในการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รวมทั้งช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ ประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 เบอร์โทรศัพท์ 055 – 242859 ตลอด 24 ชั่วโมง – 313 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”