”ภูมิธรรม” โยน พปชร.เคลียร์ชื่อ รมต.ให้ชัดเจน

ทำเนียบ 20 ส.ค.-”ภูมิธรรม” โยน พปชร.ไปเคลียร์ชื่อ รมต.ให้ชัดเจน หลัง 3 บิ๊ก โทรดีลไม่ตรงกัน ย้ำเพื่อไทยไม่รังเกียจใคร แต่ต้องชัดเจน หวั่นเกิดปัญหา ยืนยันต้องสแกนคุณสมบัติเข้ม ปกป้องเก้าอี้ “แพทองธาร”

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ถึงการสรุปโควตารัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่า ไม่มีการพูดคุยถึงการเสนอชื่อรัฐมนตรีของพรรคฯ ในที่ประชุม เนื่องจาก เป็นการประชุมทั่วไป โดยเป็นการหารือร่างกฎหมายที่จะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร และยังไม่ได้มีการตัดสินใจใด ๆ เนื่องจาก ไม่ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ที่มีหน้าที่คัดเลือกบุคคลเข้ามา


ส่วนจะได้ข้อสรุปของพรรคเพื่อไทยเมื่อใด เนื่องจาก จะต้องส่งชื่อภายในวันนี้ (20 ส.ค.) นี้นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า อยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารฯ จะพิจารณา และจากที่ตนเป็นผู้ประสานงาน ก็ได้แจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบแล้ว เพื่อส่งต่อรายชื่อให้นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประสานต่อ เนื่องจาก จะต้องมีขั้นตอนการตรวจสบคุณสมบัติ ซึ่งคาดว่า ภายในวันนี้ (20 ส.ค.) น่าจะครบ

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้ถูกต้อง และอย่างน้อยที่สุดฝ่ายบริหารจะต้องปกป้องหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้ระบุว่า หากใครมีชะนักติดหลังแล้วจะไม่รับพิจารณา แต่ขอให้พรรคนั้น ๆ ไปตรวจสอบมาตามกฎหมาย เพราะไม่สามารถแต่งตั้ง หรือจัดการใด ๆ นอกกฎหมายได้


ส่วนความชัดเจนของพรรคพลังประชารัฐ หลังชื่อของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่อาจมีปัญหาคุณสมบัตินั้น นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ตนเองยังไม่เห็นรายชื่อ แต่ให้พรรคพลังประชารัฐ ไปพูดคุยกันให้เสร็จสิ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีคนของพรรคพลังประชารัฐ โทรมาประสานตนถึง 3 คน จึงขอให้พรรคพลังประชารัฐไปจัดการให้ชัดเจน แต่เบื้องต้น ตนเองยังไม่เห็นรายชื่อว่า มีใครบ้าง ทราบแต่เพียงจากข่าวเท่านั้น จึงไม่ขอก้าวล่วง เนื่องจาก เป็นเรื่องภายในของพรรคพลังประชารัฐ แต่ที่สำคัญ รัฐบาล จะต้องเป็นเอกภาพ ร่วมมือกันทำงาน และทำนโยบายไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะแบบเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทย ยังเป็นห่วงคุณสมบัติของร้อยเอกธรรมนัสหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า วันนี้ จะต้องทำให้ดีที่สุด และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปตรวจสอบคุณสมบัติให้เข้มข้น จึงขึ้นอยู่กับกระบวนการตรวจสอบนี้ให้เกิดความชัดเจน เพื่อตัดสินใจดำเนินการอย่างไรต่อไป และเป็นการคัดกรองในชั้นแรก จากนั้นนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและปลอดภัยที่สุด พร้อมชี้แจงว่า การตรวจคุณสมบัติ จะแล้วเสร็จเมื่อใดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตนเอง แต่ขึ้นอยู่กับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า จะตรวจสอบเสร็จเมื่อใด เนื่องจาก มีความยากลำบาก แต่จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นด้วยความรอบคอบ โดยเร็วที่สุด

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการร้อยเอกธรรมนัสให้เข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายภูมิธรรม ไม่ได้ให้ความเห็น พร้อมชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ระบุว่า ต้องการใคร หรือไม่ต้องการใคร แต่ให้ทุกคนส่งชื่อมา เพื่อไปตรวจสอบประวัติ โดยไม่ได้ระบุไปที่ตัวบุคคล เพราะจะเกิดความสับสน และเท่าที่เห็นขณะนี้ หลายพรรคการเมือง ได้ส่งชื่อมาชัดเจนแล้ว เว้นเพียงพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังมีหลายความเห็น เพราะมีผู้โทรประสานตนมาถึง 3 คน จึงขอให้ไปพูดคุยกันในพรรคฯ ให้เสร็จสิ้น


นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีข้อสังสัยเรื่องคุณสมบัติเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบ เพราะทุกพรรค สามารถส่งชื่อมาได้ แต่เมื่อจะตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว จะต้องมีการเห็นชอบร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งชื่อมาหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ย้ำว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้ติดตามว่า พรรคอื่นมีการส่งรายชื่อมาหรือไม่ เพราะได้มอบหมายให้นายแพทย์พรหมินทร์ เป็นผู้รวบรวม และย้ำอีกว่า ขณะนี้ ยังเป็นเพียงการพูดคุยภายในพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น

นายภูมิธรรม ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประรัฐ ต่อสายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนจะมีการพูดคุยกับคนในพรรคเพื่อไทยระดับใด ก็ขึ้นอยู่กับพูดคุยถูกช่องทางหรือไม่ หากไปพูดคุยกับผู้ที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ก็จะไม่มีความชัดเจน และขึ้นอยู่กับว่า นายกรัฐมนตรี ตั้งใครเป็นผู้ประสานงาน ก็จะต้องประสานกับผู้นั้น

นายภูมิธรรม ยังยืนยันว่า จากการที่ตนเองให้สัมภาษณ์ ถึงการไปสอบถามพลเอกประวิตร ที่จะต้องให้ความเจนถึงการร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ใช่เป็นการบีบให้พลเอกประวิตรมามอบตัวว่า ตนจะไปกล้าพูดเช่นนั้นหรือ แต่การจะร่วมรัฐบาลต้องมีความชัดเจน และยังมีสื่อมวลชนมาถามอีกว่า คณะรัฐมนตรีจะไม่มีวงษ์สุวรรณ ซึ่งตนเองไม่ได้กล่าวถึงขนาดนั้น และให้ไปสอบถามพลเอกประวิตรเองว่า คิดอย่างไร รวมถึงไม่ได้เป็นการแสดงความรังเกียจใด ๆ เพียงแค่อยากให้มีความชัดเจนเท่านั้น.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืน พาญาติช่วยเจรจามอบตัว

สุรินทร์ 15 ส.ค.- เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืนกลางดึก หลบอยู่ในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ประสานญาติช่วยเจรจามอบตัว เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครองและตำรวจ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามตัวพลทหารก่อเหตุรัวยิงปืนกลางดึก ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ผกก.สภ.กาบเชิง ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจและทหาร ก่อนเดินทางไปติดตามอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล เบื้องต้นคนเจ็บให้การว่า นั่งดื่มสุรา 5-6 คน ก่อนจะแยกย้ายกันเหลือนั่งอยู่ 2 คน จากนั้นไม่นานพลทหารนายดังกล่าวก็ออกมายืนกราดยิงห่างประมาณ 50 เมตร วัยรุ่น 2 คนจึงรีบหมอบหลบได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ด้านนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ขณะนี้พบตัวทหารผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างประสานไปยังครอบครัวให้เดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเจรจามอบตัว -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]