วุฒิสภา รับทราบรายงานสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

รัฐสภา 19 ส.ค. –วุฒิสภา รับทราบรายงานสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สว.เสนอแนะให้บูรณาการทำงานของหน่วยงานทุกเหล่าทัพ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและประหยัดงบประมาณ


การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (19 ส.ค.67) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้รับทราบรายงานประจำปี 2565 ของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โดย พลเอก ชรัติ อุ่มสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ชี้แจงรายงานว่า สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) เป็นองค์การมหาชนแห่งแรกของกระทรวงกลาโหม ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดตั้งองค์กรในรูปแบบองค์การมหาชน มีหน้าที่หลักในการศึกษาค้นคว้า วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ประสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งเสริมการฝึกอบรม วิจัย และเป็นศูนย์กลางการให้บริการข้อมูลสารสนเทศด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 2 ด้าน คือ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ การวิจัยและพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศสู่สากล ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2565 ได้ประยุกต์ใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีป้องกันประเทศสู่ประชาสังคม เช่น การส่งมอบหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด 2 รุ่น ให้กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อนำไปทดลองใช้งาน และการซ่อมคืนสภาพยานสำรวจใต้น้ำให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
     
ขณะที่ สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายเสนอแนะให้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศหาแนวทางบูรณาการการทำงานของทุกเหล่าทัพเข้าด้วยกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนการทำงาน และประหยัดงบประมาณของประเทศ พร้อมสนับสนุนภารกิจการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำฝนหลวงบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากภัยแล้ง

จากนั้นที่ประชุมได้รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยนายสุทธิพงษ์ โกศลวิริยะกิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ชี้แจงว่า รายงานฉบับนี้ ว่า ผ่านการตรวจรับรองจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีภารกิจเกี่ยวกับเรื่องการส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงานและศักยภาพของกำลังแรงงาน ตลอดจนผู้ประกอบกิจการ เพื่อให้กำลังแรงงานฝีมือได้มาตรฐานในระดับสากลสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน แบ่งเป็น 4 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานให้กับกำลังแรงงาน ด้านการกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ด้านการรับรองความรู้ความสามารถ และกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยกองทุนฯ มาจากทรัพย์สินและหนี้สินที่โอนมาจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่จัดตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีจากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ เงินสมทบที่ผู้ประกอบกิจการส่งเข้ากองทุนฯ ค่าธรรมเนียมและค่าทดสอบที่จัดเก็บได้ตามพระราชบัญญัติเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้กองทุน ดอกผลหรือผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนฯ และเงินหรือทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุนฯ สำหรับค่าใช้จ่ายของกองทุนฯ ให้ผู้รับการฝึกอบรมฝีมือแรงงานสามารถกู้ยืมเพื่อนำไปใช้จ่ายในการเข้ารับการฝึกอบรมฯ หรือผู้ดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงงาน ตลอดจนผู้ประกอบกิจการกู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่ายในการฝึกอบรมหรือทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ช่วยเหลือหรืออุดหนุนกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน และใช้จ่ายในการบริหารกองทุนฯ สำหรับสินทรัพย์กองทุนฯ มีทั้งหมดกว่า 1,240 ล้านบาท รายได้เข้ากองทุนฯ กว่า 75 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ ทั้งนี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไม่พบข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงหรือการทุจริต
      
ขณะที่ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายเสนอแนะให้ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดปรับปรุงช่องทางฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นแบบออนไลน์ เพราะจะทำให้แรงงานสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ไร้ข้อจำกัด พร้อมเห็นว่า ควรจัดหลักสูตรต่อเนื่องให้ผู้ผ่านหลักสูตรเบื้องต้นแล้วได้ฝึกอบรมต่อ เพื่อให้แรงงานมีทักษะก้าวทันการพัฒนาของเทคโนโลยี.-319 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ชน รปภ.ดับ

กทม. 2 มิ.ย. – ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังกรมศุลกากร ก่อนขับรถชน รปภ.ดับ ด้านพนักงานสอบสวนหิ้วนายเจ ทำหน้าที่รับของโจร ไปฝากขังศาล เจ้าตัวฝากถึงเพื่อนรัก “เจอที่ไหน ตายแน่” ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.ท่าเรือ มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจสามารถคุมตัวนายดิศรณ์ หรือ นายเจ อายุ 41 ปี ซึ่งมีหน้าที่รับฝากของจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คนมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหารับของโจร โดยจากการสอบปากคำนายเจ ทำให้สามารถขยายผลไปถึงผู้ก่อเหตุอีก 6 คนได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่มกันบุกรุก และมีข้อหาอื่นๆ อีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 อยู่ หากหมายจับออกก็จะสามารถจับกุมบางรายได้ทันที ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดนั้นสามารถได้ภาพแค่ตอนที่ชนผู้ตาย แต่ไม่สามารถจับภาพขณะปล้นได้ ส่วนกรณีที่จะมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น มีรายงานว่าไม่มี […]

ปศุสัตว์สระแก้วร่วมสอบสวนโรค “แอนแทรกซ์” หลังพบผู้ป่วยยืนยันรายแรกของจังหวัด

สระแก้ว 2 มิ.ย.​ – สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ หลังได้รับแจ้งพบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด​ เบื้องต้นยังไม่พบสัตว์ป่วยตายผิดปกติในพื้นที่ แต่วางมาตรการควบคุมเข้มงวดป้องกันและควบคุม​โรคในสัตว์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วว่า วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและสำนักงานปศุสัตว์เขต 2 ลงพื้นที่สอบสวนโรค หลังพบชายอายุ 53 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ด้วยอาการตุ่มแผลตามร่างกาย และได้รับการวินิจฉัยยืนยันว่าติดเชื้อ Bacillus anthracis สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ป่วยมีพฤติกรรมชอบบริโภคเนื้อดิบเป็นประจำ เช่น ลาบ ก้อย ซอยจุ๊ ซึ่งเป็นเนื้อที่ซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่เพื่อแบ่งกันรับประทานร่วมกับเพื่อนบ้าน และมีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำ โดยไม่มีประวัติเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ และไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แม้ในพื้นที่จะยังไม่พบรายงานสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วได้วางมาตรการควบคุมเข้มงวด โดยร่วมสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง เก็บตัวอย่างสัตว์และสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องอันตรายของการบริโภคเนื้อดิบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานด่านกักกันสัตว์จังหวัดสระแก้วเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อและรถพ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค […]

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]