จี้ กกต. แจงปมไฟเขียวพรรคประชาชนใช้บัญชีกลางรับบริจาคเงิน

กกต. 19 ส.ค.- “ราเชน” ยื่น กกต.แจงไฟเขียวพรรคประชาชนใช้บัญชีกลางรับบริจาคเงินได้หรือไม่ หวั่นบุคคลต้องห้ามต่างด้าว – อายุ 16 ปะปนบริจาค ขอ กกต. ใช้อำนาจเรียกเอกสารสอบเร่งด่วน


นายราเชน ตระกูลเวียง หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต.ให้ตรวจสอบข้อสงสัยเนื่องจากพรรคประชาชนออกมาแถลงว่า มีการบริจาคเงินผ่านบัญชีคนกลาง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วพรรคการเมืองจะมีบัญชี 3 บัญชีคือ บัญชีพรรคการเมือง บัญชีที่รับบริจาค บัญชีขอเงินอุดหนุน โดยนายราเชนทร์ กล่าวว่า ตามปกติหากประชาชนประสงค์ที่จะบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองสามารถบริจาคเข้าโดยตรงกับบัญชีของพรรคการเมืองที่เปิดกับธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไป เมื่อเปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์แล้วภายใน 7 วันพรรคการเมืองจะต้องส่งบัญชีให้กับกกต.เป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติโดยทั่วไปของพรรคการเมืองอย่างถูกต้อง

แต่ล่าสุดกรรมการบริหารพรรคประชาชนออกมาแถลงว่า การบริจาคเงินของพรรคประชาชนต้องผ่านบริษัทกลางก่อน หรือบัญชีกลางก่อน แล้วถึงจะบริจาคเงินให้กับบัญชีของพรรค ตนจึงตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยว่าทำไมจึงต้องบริจาคผ่านบัญชีกลางก่อน มีบริษัทกลาง แล้วค่อยนำส่งเงินให้กับบัญชีของพรรคประชาชน ดังนั้นบัญชีที่เป็นบัญชีกลางจะตรวจสอบการโอนเงินได้อย่างไร และตรวจสอบได้หรือไม่ จึงขอให้ กกต.ดำเนินการ อีกทั้งในการตรวจสอบบัญชีสามารถตรวจสอบลงลึกว่ามีบุคคลต้องห้ามในการบริจาคให้กับพรรคการเมืองหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 24 ที่ระบุว่า บุคคลต่างด้าวที่ไม่ใช่สัญชาติไทยถือว่าเป็นข้อห้ามในการที่จะบริจาคให้กับพรรคการเมือง เพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการของพรรคการเมือง


นายราเชน กล่าวว่า พรรคประชาชนได้ทำหนังสือสอบถามถึง กกต. และกกต.อนุญาต ตนจึงตั้งประเด็นนี้เพื่อสอบถาม กกต. ว่า ถ้าบัญชีแบบนี้สามารถทำได้หรือไม่ และกกต. อนุญาตได้อย่างไร แล้ววิธีการตรวจสอบ กกต.จะตรวจสอบกับธนาคารพาณิชย์ที่เปิดบัญชีได้อย่างไร หากมีบุคคลต้องห้ามในการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมือง แต่เป็นบัญชีที่ถูกกลั่นกรองมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงอยากให้ กกต.ทำความกระจ่างให้กับสาธารณชน โดยการตรวจสอบว่ามีบุคคลต้องห้ามได้บริจาคให้กับพรรคการเมืองหรือไม่ ถ้ามีการบริจาคก็ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายดังนั้น กกต.ต้องเร่งดำเนินการให้กระจ่าง

“ตามที่เขาแถลงบอกว่า ได้ทำเรื่องขออนุญาต กกต.แล้ว แต่วิธีปฏิบัติทั่วๆไป ผมเชื่อได้ว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนเขาถาม เพราะปกติแล้วจะโอนให้กับพรรคการเมืองโดยตรงเลย เพราะบัญชีที่เปิดมาทุกบัญชี ไม่ว่าจะเป็นบัญชีอุดหนุน บัญชีเงินบริจาค บัญชีสมาชิก เขาจะต้องระบุชัดเจนเลยว่าเปิดบัญชีเพื่ออะไร แล้วทุกเดือนจะต้องไปอัเดท และทุกปีต้องทำงบดุล แล้วต้องส่งให้ กกต. ตรวจสอบทุกเดือน และการที่มีบัญชีกลางแบบนี้ผมก็เพิ่งทราบว่ามีบัญชีกลางในการรับบริจาคก่อนกรรมการบริหารพรรคประชาชนได้แถลง จึงตั้งข้อสังเกตเพื่อให้ กกต.ดำเนินการอย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา เพราะเกรงว่าจะมีบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติในการบริจาคให้กับพรรคการเมืองปะปนอยู่ด้วย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีบุคคลที่มีอายุแค่ 16 ปี เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ทั้งที่ตามกฎหมายกำหนดจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ดังนั้นก็อาจมีประเด็นเหล่านี้หลุดเข้าไปได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ จึงจำเป็นต้องยื่น กกต.ตรวจสอบโดยด่วน” นายราเชน กล่าว

นายราเชน กล่าวอีกว่า ตนอยากให้กกต.ชี้แจงว่าพรรคการเมืองมีอำนาจทำได้หรือไม่ ตามที่ได้กล่าวอ้าง ถ้าทำได้จริงประเด็นต่อมาคือการจะตรวจสอบบัญชีเหล่านั้นสามารถทำได้หรือไม่ เพราะตอนนี้มีข้อกำหนดว่าจะต้องส่งบัญชีให้กกต.ตรวจสอบ และ กกต.มีอำนาจทางกฎหมายที่จะเรียกตรวจสอบบัญชีบุคคลภายนอกหรือไม่ และบัญชีกลางสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่ามีบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะสนับสนุนบริจาคให้กับพรรคการเมือง ซึ่งมองว่าทั้ง 2 ประเด็นเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นที่มีบุคคลต้องห้ามบริจาคเข้ามาหรือไม่ จึงต้องเร่งตรวจสอบโดยด่วน


เมื่อถามว่าบุคคลที่มีอายุ 16 ปีสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายราเชน กล่าวว่า จะต้องไปตรวจสอบและจะต้องไปดูข้อกฎหมาย ว่าอายุ 16 ปีสามารถบริจาคเงินได้หรือไม่ โดยบริจาคในลักษณะไหนอย่างไร โดยกฎหมายวางกรอบไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าทุกอย่างต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด กกต.มีกฎหมายว่าจะลงโทษสั่งปรับ โดยมีมาตรการจากเบาไปหาหนักอยู่แล้ว ปรับตั้งแต่ 50,000 บาท หรือวันละ 1,000 บาท จนกว่าจะปรับปรุงให้แล้วเสร็จ แล้วแต่ประเด็น ส่วนจะยุบพรรคหรือไม่อยู่ที่กฎหมายของ กกต. เรื่องนี้ กกต.จะต้องดำเนินการทันที แล้วต้องตอบคำถามให้กับสังคมภายใน 3 วันถึง 7 วันด้วยซ้ำ เพราะเป็นเรื่องไม่ยาก ก็ขอให้ กกต.ใช้อำนาจเรียกเอกสารแล้วตรวจสอบว่ามีบุคคลต้องห้ามหรือไม่ ถ้ามีบุคคลต้องห้ามต้องดำเนินการทันที .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย