กทม. 18 ส.ค.- “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี ประกาศพร้อมเดินหน้าเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ขณะที่การแถลงนโยบายของรัฐบาลจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนนี้
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยมาในชุดโทนสีขาว ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล และประชาชน ที่มีความไว้วางใจให้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่31 พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำเพื่อประเทศชาติตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ตนเองจะไม่ได้แพลนในการเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน แต่ขอให้มั่นใจว่าพร้อมและเต็มใจ ที่จะรับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ
นางสาวแพทองธาร ยังระบุอีกว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ต้องพาประเทศชาติผ่านอุปสรรค ผ่านปัญหาต่างๆ และยังมีเรื่องปัญหาปากท้องที่ต้องแก้ไข ตั้งใจที่จะผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ปัญหายาเสพติด ระบบสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกที่ นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ โดยจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ขอให้ติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงเดือนกันยายนนี้ ขอบคุณพลังของประชาชนที่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ทั้งที่เลือกและไม่ได้เลือกตนเอง
ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ยังเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ รวมถึงมีกระแสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสั่งให้ล้มโครงการนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่านายทักษิณไม่เคยสั่งให้ล้มโครงการนี้ และนโยบายทุกอย่างจะต้องปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาล โดยขอให้แยกบทบาท และเข้าใจดีคงไม่สามารถลบภาพนายทักษิณ ออกจากการเมืองได้ ซึ่งนายทักษิณก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาตามประสบการณ์ที่มี ย้ำว่าการตั้งใจทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ แต่ตอนนี้เวลาผ่านมาหนึ่งปี สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็น และทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกรอบพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง ยืนยันอีกว่าไม่ใช่การครอบงำ เพราะทุกคนในครอบครัวมีความคิดเป็นของตัวเอง
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่าไม่มีใครอยากโดนคดีแบบที่นายทักษิณ ผู้เป็นพ่อ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ผู้เป็นอา ซึ่งตนเองมีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้โดนคดี
ส่วนกระแสข่าวระบุว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะไม่มีคนนามสกุลวงษ์สุวรรณ ร่วมอยู่ด้วย นายกรัฐมนตรีระบุว่ายังเร็วเกินไปและยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่ทราบว่าจะมีนามสกุลใดหรือไม่มีนามสกุลใด และด้วยความสัตย์จริงไม่เคยได้ยินประโยคนี้จากนายทักษิณ .-สำนักข่าวไทย
