ไทยสร้างไทย ตั้งสอบ 6 สส. โหวตสวนฝ่ายค้าน

กทม.16 ส.ค.-“ไทยสร้างไทย” ตั้ง คกก.จริยธรรม สอบ 6 สส. โหวตสวนทางฝ่ายค้าน ให้ “อุ๊งอิ๊งค์” นั่งนายกฯ คุณหญิงสุดารัตน์ ยกมือไหว้ขอโทษประชาชน-เพื่อนฝ่ายค้าน โอดคนพวกนี้เป็น สส.สอบตกไม่เคยได้เข้าสภา ต้องทุ่มเทหมดหน้าตักกาย-ใจจนล้มป่วย ลั่น “พี่ไม่สะท้านหรอกค่ะ ใครจะเอาคืน” ย้ำเอาไปทั้งพรรค ก็ยังเปลี่ยนอุดมการณ์ไม่ได้ ยินดี “อุ๊งอิ๊ง” นายกฯหญิงคนใหม่ ฝากต้องคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ใช่คิดใหญ่ทำเป็น

16 ส.ค.2567 ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย ลาดปลาเค้า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวมติของที่ประชุมกรรมการบริหาร ต่อกรณี สส. พรรคไทยสร้างไทย 6 คน ลงคะแนนเสียงเห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี


คุณหญิงสุดารัตน์ แถลงว่า พรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่าเรามีจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเหนียวแน่น และเรายืนยันว่าเราคือพรรคร่วมฝ่ายค้าน การกระทำของ สส. ทั้ง 6 คน กรรมการบริหารพรรคและผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทยไม่ได้รับทราบ เป็นการกระทำโดยปัจเจก โดยพละการของทั้ง 6 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นมติของที่ประชุม สส.

“เราเข้าใจดีว่าเรื่องความคิดความพยายามที่จะมีการดึงเสียงสนับสนุนต่างๆ นั้น ทางสื่อมวลชนก็ทราบดีอยู่แล้ว พรรคไทยสร้างไทยอาจจะไม่ได้มีเสียงมาก แต่อาจจะมีเป้าหมายอย่างอื่นในการดึง แต่ก็ไม่ทำให้เราหวั่นไหว”


คุณหญิงสุดารัตน์ ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวต่อไปว่า ตนในนามหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยขอยืนยันต่อประชาชนว่า เรายืนหยัดเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน และขอโทษประชาชนและพรรคฝ่ายค้านที่มี สส. ของเราจำนวน 6 คนไปกระทำการที่ผิดจากสิ่งที่ถูกต้อง ที่ควรจะกระทำ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคเองก็เห็นว่าเราพยายามที่จะสร้างนักการเมืองที่ดี แต่เราอาจจะบังคับใจทุกคนไม่ได้ แต่นักการเมืองที่ดีต้องมีความสุจริตเป็นที่ตั้ง มีความซื่อสัตย์ต่อประชาชนและหน้าที่ที่มีต่อประชาชนอย่างชัดเจน และจำเป็นจะต้องรักษาสัจจะ รักษาสิ่งที่ประชาชนฝากความหวังไว้

“เราเองรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดหวัง โดยเฉพาะตัวดิฉันเองเพราะถือว่าเป็นบุคคลที่ทุ่มเทให้กับบุคคลเหล่านี้มากที่สุดบุคคลเหล่านี้เคยมาจากพรรคการเมืองอื่น เคยลงสมัครจากพรรคการเมืองอื่นแล้ว ไม่เคยสอบได้ จนกระทั่งมาลงในนามพรรคไทยสร้างไทย เราก็ทุ่มเทด้วยความจริงใจ หวังจะสร้างพรรคการเมืองที่มีคุณภาพให้กับประชาชน ดิฉันทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ จนล้มป่วย จนพวกเขาเหล่านี้ที่ไม่เคยเป็น สส. ได้เป็น สส.ครั้งแรกในสภา”

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า ตนและกรรมการบริหารพรรคก็หวังที่จะเห็นคนเหล่านี้ได้ทำหน้าที่การเป็นนักการเมืองที่ดีให้กับประชาชน เราจึงรู้สึกเสียใจและผิดหวัง และขอกราบขอโทษพี่น้องประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้าน


ทั้งนี้ กรรมการบริหารพรรคไดัมีมติที่จะให้คณะกรรมการจริยธรรมมีการสอบสวนการทำงานว่า เหตุใดจึงมีมติเช่นนั้น และกรรมการบริหารพรรคก็มีมติเบื้องต้นระหว่างรอการสอบสวนว่า จะไม่สนับสนุนให้ สส. ทั้ง 6 คนดำรงตำแหน่งใดๆ ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทยในสภา จนกว่าผลสอบจะแล้วเสร็จ เราเข้าใจดีว่าบางตำแหน่งอาจจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งไปแล้ว แต่เรายืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

จากนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ผู้สื่อข่าวถามว่า 6 สส. ให้เหตุผลว่าเป็นการโหวตเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ มองอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว แต่กรรมการบริหารพรรคทุกคนก็ประชุมก็ถึงเรื่องนี้ ซึ่งเห็นว่าเสียงของฝ่ายค้านและรัฐบาลห่างกันเยอะ ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ไม่ต้องมี 6 เสียงนี้ เขาก็เดินหน้าได้อยู่แล้ว

แต่มีเหตุผลอื่นใดนั้น ตนคงไม่สามารถตอบได้ เป็นกติกา เป็นข้อบังคับของพรรคที่ให้กรรมการจริยธรรมสอบสวน ต้องรอนายโภคินกลับมาสัปดาห์หน้า

ส่วนวางกรอบเวลาในการสอบสวนเท่าไหร่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หลังจากนายโภคินกลับมา กรรมการบริหารพรรคจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่

เมื่อถามว่าถ้าอิงตามข้อบังคับของพรรค นายฐากร ระบุว่า ไม่ได้ฝืนมติพรรค เพราะพรรคไม่ได้มีมติว่าจะต้องโหวตอย่างไร สุดท้ายจะเข้าข่ายแบบไหน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคใช้คำว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อการดำเนินงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในฐานะเป็นพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งควรจะทราบว่าควรจะลงมติอย่างไร ถึงแม้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่ได้มีมติ ก็ควรจะรู้ เป็นมารยาท ควรรู้ว่าเราอยู่ตรงไหน ควรจะลงมติอย่างไร

เมื่อถามว่าการดึง 6 เสียงไปร่วมโหวต สื่อได้ว่าเป็นการแก้แค้นหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “พี่ว่า 6 เสียง ไม่ได้มีส่วนอะไรที่ ทำให้เขามีความแข็งแรงขึ้นมามาก เพราะมันห่างกันเยอะอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นประเด็นเอาคืนหรือไม่ พี่ไม่สนใจหรอกค่ะ พี่ยืนยันว่าพี่ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและคุณธรรม และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย”

“เราไม่ใช้ความรู้สึก ไม่ใช้อารมณ์มาทำร้ายกัน ประเทศนี้ประชาชนยากลำบากพอแล้ว จากความเลอะเทอะของการเมืองที่ผ่านมา ประชาชนยากลำบากมากโดยเฉพาะเรื่องค่าของชีพ … พี่ยืนยันอย่างนี้ค่ะ ใครจะคิดเอาคืนอย่างไร พี่ไม่สะทกสะท้านค่ะ พี่ไม่มีอารมณ์กับตรงนี้ เอาไปได้จนหมดพรรค พรรคไทยสร้างไทยก็ยังยืนอยู่โดยไม่เสียจุดยืนค่ะ … จะดำรงไว้ซึ่งสัจจะวาจา สัญญาประชาคม ทุกสิ่งที่ให้ไว้กับประชาชนและจะทำงานด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม จะไม่มีการหักหลังพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจมา เราจะไม่เหลือใครเลย ก็ยังเหลือคนตรงนี้ ที่ยังรักษาจุดยืนของพรรคไว้ ตำแหน่งแห่งหนไม่ใช่เรื่องสำคัญ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่า เรายืนยันว่าเราสบายใจที่ทำหน้าที่ตรงนี้ จะเอาไปหมดพรรคก็ไม่แคร์

เมื่อถามว่าหากการกระทำนี้ เป็นเพราะมีคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยากไปร่วมรัฐบาล จนถึงขั้นหวังตำแหน่งรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เราก็ไม่ทราบ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จะไปพูดก่อนก็ไม่ได้ ต้องรอกรรมการเชิญมาคุยกัน

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า พอเห็นผลการโหวต ตนได้โทรไปหาพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทำความเข้าใจกัน ซึ่งเขาก็เข้าใจ พร้อมยกมือไหว้และพูดว่า

“ดิฉันต้องขอกราบขอโทษประชาชนอีกครั้ง และขอโทษนักการเมืองพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ทำงานร่วมกัน เราจะรีบแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด”

เมื่อถามว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นการละครเพื่อให้พรรคขับออกหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไทยสร้างไทยไม่มีการละคร ส่วนใครจะเล่นละครไปให้พรรคขับ ขึ้นอยู่กับมติของกรรมการบริหารหลังจากผลสอบออกมา อย่างไรก็ดี ก็หวังว่าเขาจะมีเหตุผลที่ดียังไม่มองว่าเขาเป็นคนร้าย อย่ามองด้วยจิตเมตตา ยอมรับว่าอยากให้พูดคุยกันตรงๆ ว่าทำไปเพื่ออะไร

“เราอยากเห็นนักการเมืองที่ดี เราไม่อยากมองใครเป็นศัตรู โดยเฉพาะพรรคเดียวกัน เราจะฟังเหตุผลเขา” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังฝากไปถึงรัฐบาลว่า 4 นโยบายหลักในขณะนี้ ได้แก่ ดิจิทัลวอลเล็ต , มาตรการเช่าที่ดิน , การซื้อคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ และแลนด์บริดจ์ เรามองว่าทั้งหมดเอื้อทุนใหญ่ทั้งนั้น ไม่ได้มีนโยบายช่วยคนตัวเล็ก

คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้กล่าวว่า ในระบบรัฐสภา เราต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพทองธารที่ได้รับความไว้วางใจจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี ฝากประเทศ ฝากคนตัวเล็ก คนยากจน ที่เขากำลังลำบากให้คุณแพทองธาร ช่วยแก้ปัญหาให้เขาอย่างเร่งด่วนด้วย โดยเฉพาะ 4 นโยบายหลักของรัฐบาลที่ได้กล่าวไป ที่เราเห็นว่าจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ขอให้พิจารณาใหม่

“คิดใหม่ทำใหม่ ไม่ใช่คิดใหญ่ทำเป็น แต่ขอให้คิดใหม่ทำใหม่ แล้วไม่ต้องกลัวว่าเราจะไปค้านในสิ่งที่ทำแล้วเป็นประโยชน์กับประชาชน เราจะสนับสนุนเต็มที่ ยกมือให้เลย แต่อะไรที่จะเกิดความเสียหายต่อประเทศ ก็จะขออนุญาตค้านอย่างมีเหตุมีผล” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]