ไทยสร้างไทย ตั้งสอบ 6 สส. โหวตสวนฝ่ายค้าน

กทม.16 ส.ค.-“ไทยสร้างไทย” ตั้ง คกก.จริยธรรม สอบ 6 สส. โหวตสวนทางฝ่ายค้าน ให้ “อุ๊งอิ๊งค์” นั่งนายกฯ คุณหญิงสุดารัตน์ ยกมือไหว้ขอโทษประชาชน-เพื่อนฝ่ายค้าน โอดคนพวกนี้เป็น สส.สอบตกไม่เคยได้เข้าสภา ต้องทุ่มเทหมดหน้าตักกาย-ใจจนล้มป่วย ลั่น “พี่ไม่สะท้านหรอกค่ะ ใครจะเอาคืน” ย้ำเอาไปทั้งพรรค ก็ยังเปลี่ยนอุดมการณ์ไม่ได้ ยินดี “อุ๊งอิ๊ง” นายกฯหญิงคนใหม่ ฝากต้องคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ใช่คิดใหญ่ทำเป็น

16 ส.ค.2567 ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย ลาดปลาเค้า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวมติของที่ประชุมกรรมการบริหาร ต่อกรณี สส. พรรคไทยสร้างไทย 6 คน ลงคะแนนเสียงเห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี


คุณหญิงสุดารัตน์ แถลงว่า พรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่าเรามีจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเหนียวแน่น และเรายืนยันว่าเราคือพรรคร่วมฝ่ายค้าน การกระทำของ สส. ทั้ง 6 คน กรรมการบริหารพรรคและผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทยไม่ได้รับทราบ เป็นการกระทำโดยปัจเจก โดยพละการของทั้ง 6 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นมติของที่ประชุม สส.

“เราเข้าใจดีว่าเรื่องความคิดความพยายามที่จะมีการดึงเสียงสนับสนุนต่างๆ นั้น ทางสื่อมวลชนก็ทราบดีอยู่แล้ว พรรคไทยสร้างไทยอาจจะไม่ได้มีเสียงมาก แต่อาจจะมีเป้าหมายอย่างอื่นในการดึง แต่ก็ไม่ทำให้เราหวั่นไหว”


คุณหญิงสุดารัตน์ ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวต่อไปว่า ตนในนามหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยขอยืนยันต่อประชาชนว่า เรายืนหยัดเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน และขอโทษประชาชนและพรรคฝ่ายค้านที่มี สส. ของเราจำนวน 6 คนไปกระทำการที่ผิดจากสิ่งที่ถูกต้อง ที่ควรจะกระทำ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคเองก็เห็นว่าเราพยายามที่จะสร้างนักการเมืองที่ดี แต่เราอาจจะบังคับใจทุกคนไม่ได้ แต่นักการเมืองที่ดีต้องมีความสุจริตเป็นที่ตั้ง มีความซื่อสัตย์ต่อประชาชนและหน้าที่ที่มีต่อประชาชนอย่างชัดเจน และจำเป็นจะต้องรักษาสัจจะ รักษาสิ่งที่ประชาชนฝากความหวังไว้

“เราเองรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดหวัง โดยเฉพาะตัวดิฉันเองเพราะถือว่าเป็นบุคคลที่ทุ่มเทให้กับบุคคลเหล่านี้มากที่สุดบุคคลเหล่านี้เคยมาจากพรรคการเมืองอื่น เคยลงสมัครจากพรรคการเมืองอื่นแล้ว ไม่เคยสอบได้ จนกระทั่งมาลงในนามพรรคไทยสร้างไทย เราก็ทุ่มเทด้วยความจริงใจ หวังจะสร้างพรรคการเมืองที่มีคุณภาพให้กับประชาชน ดิฉันทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ จนล้มป่วย จนพวกเขาเหล่านี้ที่ไม่เคยเป็น สส. ได้เป็น สส.ครั้งแรกในสภา”

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า ตนและกรรมการบริหารพรรคก็หวังที่จะเห็นคนเหล่านี้ได้ทำหน้าที่การเป็นนักการเมืองที่ดีให้กับประชาชน เราจึงรู้สึกเสียใจและผิดหวัง และขอกราบขอโทษพี่น้องประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้าน


ทั้งนี้ กรรมการบริหารพรรคไดัมีมติที่จะให้คณะกรรมการจริยธรรมมีการสอบสวนการทำงานว่า เหตุใดจึงมีมติเช่นนั้น และกรรมการบริหารพรรคก็มีมติเบื้องต้นระหว่างรอการสอบสวนว่า จะไม่สนับสนุนให้ สส. ทั้ง 6 คนดำรงตำแหน่งใดๆ ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทยในสภา จนกว่าผลสอบจะแล้วเสร็จ เราเข้าใจดีว่าบางตำแหน่งอาจจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งไปแล้ว แต่เรายืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

จากนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ผู้สื่อข่าวถามว่า 6 สส. ให้เหตุผลว่าเป็นการโหวตเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ มองอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว แต่กรรมการบริหารพรรคทุกคนก็ประชุมก็ถึงเรื่องนี้ ซึ่งเห็นว่าเสียงของฝ่ายค้านและรัฐบาลห่างกันเยอะ ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ไม่ต้องมี 6 เสียงนี้ เขาก็เดินหน้าได้อยู่แล้ว

แต่มีเหตุผลอื่นใดนั้น ตนคงไม่สามารถตอบได้ เป็นกติกา เป็นข้อบังคับของพรรคที่ให้กรรมการจริยธรรมสอบสวน ต้องรอนายโภคินกลับมาสัปดาห์หน้า

ส่วนวางกรอบเวลาในการสอบสวนเท่าไหร่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หลังจากนายโภคินกลับมา กรรมการบริหารพรรคจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่

เมื่อถามว่าถ้าอิงตามข้อบังคับของพรรค นายฐากร ระบุว่า ไม่ได้ฝืนมติพรรค เพราะพรรคไม่ได้มีมติว่าจะต้องโหวตอย่างไร สุดท้ายจะเข้าข่ายแบบไหน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคใช้คำว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อการดำเนินงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในฐานะเป็นพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งควรจะทราบว่าควรจะลงมติอย่างไร ถึงแม้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่ได้มีมติ ก็ควรจะรู้ เป็นมารยาท ควรรู้ว่าเราอยู่ตรงไหน ควรจะลงมติอย่างไร

เมื่อถามว่าการดึง 6 เสียงไปร่วมโหวต สื่อได้ว่าเป็นการแก้แค้นหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “พี่ว่า 6 เสียง ไม่ได้มีส่วนอะไรที่ ทำให้เขามีความแข็งแรงขึ้นมามาก เพราะมันห่างกันเยอะอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นประเด็นเอาคืนหรือไม่ พี่ไม่สนใจหรอกค่ะ พี่ยืนยันว่าพี่ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและคุณธรรม และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย”

“เราไม่ใช้ความรู้สึก ไม่ใช้อารมณ์มาทำร้ายกัน ประเทศนี้ประชาชนยากลำบากพอแล้ว จากความเลอะเทอะของการเมืองที่ผ่านมา ประชาชนยากลำบากมากโดยเฉพาะเรื่องค่าของชีพ … พี่ยืนยันอย่างนี้ค่ะ ใครจะคิดเอาคืนอย่างไร พี่ไม่สะทกสะท้านค่ะ พี่ไม่มีอารมณ์กับตรงนี้ เอาไปได้จนหมดพรรค พรรคไทยสร้างไทยก็ยังยืนอยู่โดยไม่เสียจุดยืนค่ะ … จะดำรงไว้ซึ่งสัจจะวาจา สัญญาประชาคม ทุกสิ่งที่ให้ไว้กับประชาชนและจะทำงานด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม จะไม่มีการหักหลังพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจมา เราจะไม่เหลือใครเลย ก็ยังเหลือคนตรงนี้ ที่ยังรักษาจุดยืนของพรรคไว้ ตำแหน่งแห่งหนไม่ใช่เรื่องสำคัญ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่า เรายืนยันว่าเราสบายใจที่ทำหน้าที่ตรงนี้ จะเอาไปหมดพรรคก็ไม่แคร์

เมื่อถามว่าหากการกระทำนี้ เป็นเพราะมีคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยากไปร่วมรัฐบาล จนถึงขั้นหวังตำแหน่งรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เราก็ไม่ทราบ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จะไปพูดก่อนก็ไม่ได้ ต้องรอกรรมการเชิญมาคุยกัน

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า พอเห็นผลการโหวต ตนได้โทรไปหาพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทำความเข้าใจกัน ซึ่งเขาก็เข้าใจ พร้อมยกมือไหว้และพูดว่า

“ดิฉันต้องขอกราบขอโทษประชาชนอีกครั้ง และขอโทษนักการเมืองพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ทำงานร่วมกัน เราจะรีบแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด”

เมื่อถามว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นการละครเพื่อให้พรรคขับออกหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไทยสร้างไทยไม่มีการละคร ส่วนใครจะเล่นละครไปให้พรรคขับ ขึ้นอยู่กับมติของกรรมการบริหารหลังจากผลสอบออกมา อย่างไรก็ดี ก็หวังว่าเขาจะมีเหตุผลที่ดียังไม่มองว่าเขาเป็นคนร้าย อย่ามองด้วยจิตเมตตา ยอมรับว่าอยากให้พูดคุยกันตรงๆ ว่าทำไปเพื่ออะไร

“เราอยากเห็นนักการเมืองที่ดี เราไม่อยากมองใครเป็นศัตรู โดยเฉพาะพรรคเดียวกัน เราจะฟังเหตุผลเขา” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังฝากไปถึงรัฐบาลว่า 4 นโยบายหลักในขณะนี้ ได้แก่ ดิจิทัลวอลเล็ต , มาตรการเช่าที่ดิน , การซื้อคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ และแลนด์บริดจ์ เรามองว่าทั้งหมดเอื้อทุนใหญ่ทั้งนั้น ไม่ได้มีนโยบายช่วยคนตัวเล็ก

คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้กล่าวว่า ในระบบรัฐสภา เราต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพทองธารที่ได้รับความไว้วางใจจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี ฝากประเทศ ฝากคนตัวเล็ก คนยากจน ที่เขากำลังลำบากให้คุณแพทองธาร ช่วยแก้ปัญหาให้เขาอย่างเร่งด่วนด้วย โดยเฉพาะ 4 นโยบายหลักของรัฐบาลที่ได้กล่าวไป ที่เราเห็นว่าจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ขอให้พิจารณาใหม่

“คิดใหม่ทำใหม่ ไม่ใช่คิดใหญ่ทำเป็น แต่ขอให้คิดใหม่ทำใหม่ แล้วไม่ต้องกลัวว่าเราจะไปค้านในสิ่งที่ทำแล้วเป็นประโยชน์กับประชาชน เราจะสนับสนุนเต็มที่ ยกมือให้เลย แต่อะไรที่จะเกิดความเสียหายต่อประเทศ ก็จะขออนุญาตค้านอย่างมีเหตุมีผล” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]