สภาฯ ฉลุย! ดัน ‘อุ๊งอิ๊งค์’ เป็นนายกฯ คนที่ 31

รัฐสภา 16 ส.ค.-สภาฯ ฉลุย 319 เสียง แถมไทยสร้างไทยอีก 6 เสียง ดัน ‘อุ๊งอิ๊งค์’ เป็นนายกฯ คนที่ 31 ของประเทศไทย ที่อายุน้อยสุด ด้าน สส.เพื่อไทย ปรบมือแสดงความยินดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่1) เป็นพิเศษ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 โดยนายวันมูหะมัด ได้ชี้แจงขั้นตอนต่างๆ รวมถึงการโหวตเลือกนายกฯ โดยใช้วิธีการขานชื่อเป็นรายบุคคลตามลำดับรายชื่อ สส. เพื่อลงคะแนน


จากนั้นในเวลา 10.11 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 โดยมีผู้รับรองถูกต้อง ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ได้รับการเสนอชื่อเพียงรายเดียว ไม่มีบุคคลอื่นเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯจากพรรคอื่น

แต่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ลุกขึ้นเสนอให้มีการเปิดอภิปรายผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ แต่ทางฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วย ควรให้มีการโหวตลงคะแนนเลย เนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบวาระ อาทิ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เห็นว่า ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมฯ ดังนั้นควรให้ขั้นตอนกระบวนการการเลือกนายกฯแล้วเสร็จ จนมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แล้วค่อยใช้โอกาสนั้นอภิปรายถึงคุณสมบัติ


ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิป 2 ฝ่ายตกลงกันก่อนหน้านี้ว่าจะอภิปรายในเชิงเสนอแนะ หรือแนะนำเท่านั้น โดยขอให้ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ดังนั้นหากจะมีการอภิปราย ต้องอยู่ในประเด็น หากก้าวก่ายไปเรื่องอื่น อาจมีการประท้วง จึงอยากให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประณีประนอม

ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ในฐานะฝ่ายค้าน ยืนยันว่า จะไม่อภิปรายถึงคุณสมบัติต่างๆของนายกฯ แต่จะขออภิปรายเพียงเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องมีนายกฯมาบริหารประเทศเท่านั้น

เมื่อมีความเห็นแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ต้องการให้มีการอภิปราย และไม่ต้องการให้เปิดอภิปราย ควรดำเนินการตามระเบียบวาระ เข้าสู่การโหวตลงคะแนน ทางประธานสภาฯ ชี้แจงว่า จะไม่ใช่สิทธิ์ชี้ขาดว่าจะเลือกแบบใด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชุมของสภาฯ


นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ มีผู้รับรองถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย ถือว่าเป็นญัตติแล้ว จึงสามารถอภิปรายได้ ถือเป็นหลักทั่วไปที่ทำมาตลอดในสภาฯ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า ไม่ใช่ญัตติ เนื่องจากการความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการเสนอตามรัฐธรมนูญ ไม่ใช่เป็นการเสนอตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ จึงไม่จำเป็นต้องอภิปราย ดังนั้นการวินิจฉัยของประธานที่ประชุมครั้งนี้ จะเป็นบรรทัดฐานต่อไป

ทั้งนี้เมื่อมีการเปิดให้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางแล้ว นายวันมูหะมัดนอร์ ในฐานะประธานที่ประชุม เห็นควรให้เป็นไปตามที่วิป2ฝ่ายตกลงกันก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกิดการประณีประนอม คือเปิดให้มีการอภิปรายชี้แนะ เป็นเวลาไม่เกิน20นาที โดยไม่มีการอภิปรายแตะไปถึงคุณสมบัติ เนื่องจากสภาฯไม่มีหน้าที่ตัดสินเรื่องนี้ได้ เพราะมีองค์กรดำเนินการอยู่

จากนั้นได้เปิดให้สมาชิกอภิปราย โดยนายฐากร ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมา เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เรากำลังขาดนายกฯ ที่ต้องหลุดจากตำแหน่งไป กราบเรียนว่าวันนี้การเมืองของเราเข้าอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าทางตันของประเทศ จึงเสนอวาระเร่งด่วนคัดเลือกนายกฯ เพื่อเข้ามาบริหารประเทศต่อไป สภาฯวันนี้เป็นครั้งแรกในรอบ10ปีที่สภาฯจะมีสิทธิ์ใช้อำนาจเลือกนายกฯด้วยตนเอง โดยไม่ผ่านวุฒิสภา เดินทางมาถึงจุดขาลงด้านเศรษฐกิจ วันนี้ภูเขาอีกลูกหนึ่ง คือภูเขาทางการเมืองเข้ามาทับซ้อน จนประชาชนจะทนอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างไร สิ่งนี้คือสิ่งที่เรียกร้องจากนายกฯ จะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนที่อยู่ในภาวะอ่อนแอ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยขบวนการนิติสงครามที่ดำเนินการโดยกลุ่มคนชั้นนำ แม้ว่า สส.จะลงมติอย่างไร แต่ภารกิจของสภาฯและนายกฯคนต่อไปคือ การแก้ปัญหาประเทศที่ต้นตอ ถ้านับเฉพาะคดียุบพรรคก็มีหลายครั้ง หลายคนล้วนเป็นเหยื่อการตัดสินทางการเมืองที่ให้อำนาจล้นเกินแก่ศาลรัฐธรรมนูญ จึงต้องวางอำนาจหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้รุกล้ำฝ่ายนิติบัญญัติจนล้นเกิน เชื่อว่าทุกคนเห็นปัญหาเช่นเดียวกันว่า หลายคนไม่สมควรถูกประหารชีวิตทางการเมือง มาตรฐานทางจริยธรรมควรเป็นเงื่อนไข กติกาที่พวกเราตรวจสอบกันเอง ไม่ใช่กติกาที่ให้องค์กรตุลาการมาวินิจฉัยโดยใช้มาตรวัดทางกฎหมาย โดยมาตรวัดมาตรฐานจริยธรรมเป็นเรื่องที่แต่ละคนเห็นไม่เหมือนกัน ต้องใช้เสียงประชาชนมาตัดสิน 7 ปีที่ผ่านมาที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซ้ำร้ายยังถูกไปใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งจากกล่มคนชั้นนำทุบทำลายสส.ที่ได้รับอำนาจสูงสุดจากประชชน โจทย์ใหญ่คือสร้างเสถียรภาพให้ประเทศ ไม่ให้เกิดสุญญากาศการเมือง ภารกิจสำคัญสส.คือ เชิญชวนสานต่อภารกิจ ปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ประกอบรัฐญธรรมนูญ เพื่อแก้อำนาจศาล รธน. องค์กรอิสระ เป็นไปตามหลักสากล ปรับกติกาพรรคการเมืองให้เกิดขึ้นง่าย ตายยาก สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ระบอบประชาธิปไตย การลงมติของพรรคประชาชนจะไม่เห็นชอบการเลือกนายกฯ เพราะต้องสงวนจุดต่าง แสวงจุดร่วม

จากนั้นที่ประชุมลงมติรายบุคคล และมีมติให้ความเห็นชอบ ด้วยคะแนน 319 ต่อ 145 คะแนนงดออกเสียง 27 เสียง
ถือว่าเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง เห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่31 ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 โดยมี สส.จากพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นปรบมือแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร จากนั้นประธานที่ประชุม ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 12.35 น. ใช้เวลาในกระบวนการลงคะแนนทั้งสิ้นกว่า 2 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการนับคะแนนปรากฏว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ ไม่ขานชื่อ เมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามคนใกล้ชิดแจ้งว่าป่วยและลาการประชุมแล้ว ขณะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชารัฐ ไม่ได้ลงมติ เนื่อจากติดงานต้อนรับนักกีฬาโอลิมปิก

ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย สส. ทั้ง 6 คน นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด นางรำพูน ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี และนายฐากร ตันฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี ลงคะแนนเห็นชอบสวนทางกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ลงมติไม่เห็นชอบและงดออกเสียงทั้งพรรค ซึ่งพรรคประชาชนลงมติไม่เห็นชอบ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์งดออกเสียง.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

เด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย เซ่นปม ฮ.ตก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ปมอากาศยานของกองบินตำรวจตก 2 ครั้ง ห้วงใกล้เคียงกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 308/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย กรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมา ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด และจเรตำรวจได้มีคำสั่ง ที่ 89/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ […]

“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ […]

มอบตัวแล้วหลานคลั่งยิงญาติดับ 3 เจ็บสาหัส 1

สุพรรณบุรี 30 พ.ค. – มอบตัวแล้ว หลานคลั่งยิงญาติเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คาดปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดกที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว เหตุสลดหลานชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงนายภาสกร อายุ 67 ปี ลุง, นายลำเพย อายุ 71 ปี ป้า, นางชตารัตน์ อายุ 50 ปี ญาติ เสียชีวิตรวม 3 คน และยังมีนางชุติมน อายุ 67 ปี ญาติ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ บริเวณหลังบ้าน ม.2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ หรือ บาส อายุ 32 ปี อาชีพเป็นช่างสัก หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย […]

จเรตำรวจฯ เผยผลสอบ ฮ.ตก ประจวบฯ นอตยึดใบพัดหลุดทำเครื่องเสียการทรงตัว

30 พ.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติ เผยผลสอบเหตุเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกที่ประจวบฯ เบื้องต้นพบนอต 2 ตัวยึดใบพัดหางหลุด เสียการทรงตัวจนตัดส่วนหางขาด เตรียมรายงาน ผบ.ตร. ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ประสบเหตุตกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ, นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตนเองเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยภายหลังจากที่ได้มีการประชุมแล้ว จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้เข้าร่วมประชุมได้เข้าตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ที่ตกและได้มีการลำเลียงมาไว้ที่กองเป็นตำรวจเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เฮลิคอปเตอร์ตก และร่วมประชุมกับผู้บังคับการกองบิน, นักบินและช่างเครื่องทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง […]