“ภูมิธรรม” เชื่อ​ “แพทองธาร” นำพารัฐบาลรอด มีวัยวุฒิ-คุณวุฒิ

รัฐสภา​ 16 ส.ค. – “ภูมิธรรม” ยัน​ “แพทองธาร” มีวัยวุฒิ-คุณวุฒิ ประสบการณ์การเมือง ซึมซับตั้งแต่ 8 ขวบ ตามพ่อไปปราศรัยทุกที่​ เชื่อนำพารัฐบาลรอด​ ลั่นโควตารัฐมนตรีพรรคร่วม-ดิจิทัลวอลเล็ต​ ต้องล้างไพ่ใหม่เพราะเป็นรัฐบาลชุดใหม่


นายภูมิธรรม​ เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า พรรคร่วมรัฐบาล เห็นตรงกันและแสดงท่าทีทางการเมืองของแต่ละพรรคเมื่อวานนี้ ถือเป็นโอกาสและบทบาทของพรรคเพื่อไทย เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะเลือกบุคคลที่มีความพร้อมที่สุด เป็นบุคคลที่มีศักยภาพ มีความสามารถที่จะมาสานต่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ที่กำลังประสบอยู่ค่อนข้างหนัก​

ส่วนเมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้งหมดยังยืนยันโควตารัฐมนตรีเดิมหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องรอนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ ถ้าได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นสิทธิ์ของท่านที่จะพิจารณา​


เมื่อถามว่าตามมารยาททางการเมืองต้องเป็นโควตาเดิมหรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ไม่มี โควตาเดิมหรอกครับ” เมื่อรัฐบาลเก่าสิ้นสุดลง รัฐบาลใหม่ก็ต้องอยู่ที่ผู้นำคือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ตั้งมา ซึ่งจะต้องหารือกับหัวหน้าพรรค ที่สนับสนุน ส่วนจะเป็นการล้างไพ่ใหม่หรือไม่ขออย่าพูดแบบนั้น​ เพราะยังไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะคิดอย่างไร ต้องรอให้พิจารณา

ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมสนับสนุนได้มีเงื่อนไขหรือไม่ ว่าจะต้องเป็นโควตาเดิม เพราะมีกระแสข่าวว่าพรรคร่วมเดิมจะใช้โควตาเดิมนายภูมิธรรม ระบุ ไม่ทราบว่าเป็นความเห็นผู้ใด แต่โดยมารยาท ก็คุยกันตามปกติ ในการเลือกผู้นำคนใหม่ ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ว่ามีศักยภาพที่จะทำงาน รายละเอียดต่อไปต้องไปทีละขั้น เราเสนอชื่อยังไม่แน่ใจเลยว่าสภาจะตัดสินใจอย่างไร การจะพูดอะไรไปก่อนสภาตัดสินใจ ก็จะดูไม่มีมารยาททางการเมือง วันนี้ถ้าสภาตัดสินใจเลือกนางสาวแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี​ ขั้นตอนต่อไปต้องให้เวลานางสาวแพทองธารพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล​ ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และให้ทุกฝ่ายคิดร่วมกัน

ส่วนที่นางสาวแพรทองธารเป็นคนในตระกูลชินวัตร หลายคนสงสัยว่า จะมีการเปลี่ยนผ่าน ประเทศไปได้อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า คนใหม่จะเป็น ตระกูลชินวัตรหรือไม่ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่เป็นด้านลบ ตระกูลชินวัตรได้ทำงานกับประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง ใช้บุคลากรของตระกูลมาสนับสนุนเป็นเรื่องรายบุคคล นายกรัฐมนตรีแต่ละคนล้วนมีลักษณะพิเศษ วันนี้นางสาวแพทองธารเสนอตัวต้องอยู่ที่สาธารณชนเป็นผู้ตัดสิน​ ว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญ คือนางสาวแพทองธารไม่ได้เพิ่งเข้ามาทางการเมือง​ แต่ได้ซึมซับสถานการณ์ประเด็นและภาวะทางการเมือง มายาวนานตั้งแต่ 8 ขวบ​ ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปว่านางสาวแพทองธารเคยมีประสบการณ์ทางการเมืองตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคไทยรักไทย หลังจากนั้นติดตามคุณพ่อไปปราศรัยทุกที่ สามารถรับฟังอะไรต่างๆ ได้มาก หลังตัดสินใจเข้าสู่การเมืองได้เปิดตัว เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่จังหวัดขอนแก่น เดิมยังเป็นห่วงว่าเพิ่งเข้ามาการเมือง​ ขณะที่สื่อมวลชนก็สัมภาษณ์ แต่นางสาวแพทองธารก็ตอบได้ดีและมีวุฒิภาวะทางการเมือง ที่จะตอบประเด็นต่างๆ และได้แสดงบทบาทจนเป็นที่ยอมรับของพรรค จนมาเป็นหัวหน้าพรรคในปัจจุบัน และสามารถปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคได้ดีไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นการที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเลือก นางสาวแพทองธาร จึงเห็นว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน สนับสนุนและผลักดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะรับใช้ประเทศชาติต่อไป


ส่วนยืนยันจะเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่านางสาวแพทองธาร จะต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนที่จะต้องแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาเพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นรัฐบาลใหม่

เมื่อถามว่าถ้ามีการยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต พรรคเพื่อไทยจะเสียความน่าเชื่อถือนายภูมิธรรมกล่าวว่ายังไม่ไปถึงตรงนั้น ว่าจะทำหรือไม่ทำ จึงขอให้รอดูนโยบาย ของรัฐบาลชุดใหม่ก่อน​ ที่ต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลและเห็นพ้องต้องกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำมีกระแสข่าวว่านายทักษิณ​ ชินวัตร ท้วงติงและอยากให้ยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต​ นายภูมิธรรมกล่าวว่าได้ยินครั้งแรกจากสื่อ​ ไม่ได้ยินจากปากนายทักษิณหรือฟังจากหู​ เพราะช่วงที่พิจารณาเลือกนางสาวแพทองธาร ตนติดภารกิจที่ต่างประเทศ

ส่วนวัยวุฒิของนางสาวแพทองธาร จะเป็นปัญหาในการนำพารัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าไม่มี​ นักการเมืองทุกวันนี้ มีวุฒิภาวะทางการเมือง ทุกอย่างที่นางสาวแพทองธารมา​ มาตามกระบวนการทางการเมือง อายุหรือวัยไม่ใช่ปัญหา ขอให้ไปดูผู้นำโลก พร้อมยกตัวอย่างนายกรัฐมนตรีของประเทศคาซัคสถานก็มีอายุน้อย แค่ 40 กว่าปี วันนี้เทรนด์ของโลกและเทรนด์ประเทศไทย ไม่ได้ดูที่อายุหรือ​วัย​ แต่อยู่ที่ศักยภาพความสามารถ การเข้าถึงประชาชน และการยอมรับจากประชาชนเป็นหลัก.. -​319 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

เด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย เซ่นปม ฮ.ตก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ปมอากาศยานของกองบินตำรวจตก 2 ครั้ง ห้วงใกล้เคียงกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 308/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย กรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมา ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด และจเรตำรวจได้มีคำสั่ง ที่ 89/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ […]

“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ […]

มอบตัวแล้วหลานคลั่งยิงญาติดับ 3 เจ็บสาหัส 1

สุพรรณบุรี 30 พ.ค. – มอบตัวแล้ว หลานคลั่งยิงญาติเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คาดปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดกที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว เหตุสลดหลานชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงนายภาสกร อายุ 67 ปี ลุง, นายลำเพย อายุ 71 ปี ป้า, นางชตารัตน์ อายุ 50 ปี ญาติ เสียชีวิตรวม 3 คน และยังมีนางชุติมน อายุ 67 ปี ญาติ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ บริเวณหลังบ้าน ม.2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ หรือ บาส อายุ 32 ปี อาชีพเป็นช่างสัก หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย […]

จเรตำรวจฯ เผยผลสอบ ฮ.ตก ประจวบฯ นอตยึดใบพัดหลุดทำเครื่องเสียการทรงตัว

30 พ.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติ เผยผลสอบเหตุเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกที่ประจวบฯ เบื้องต้นพบนอต 2 ตัวยึดใบพัดหางหลุด เสียการทรงตัวจนตัดส่วนหางขาด เตรียมรายงาน ผบ.ตร. ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ประสบเหตุตกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ, นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตนเองเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยภายหลังจากที่ได้มีการประชุมแล้ว จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้เข้าร่วมประชุมได้เข้าตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ที่ตกและได้มีการลำเลียงมาไว้ที่กองเป็นตำรวจเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เฮลิคอปเตอร์ตก และร่วมประชุมกับผู้บังคับการกองบิน, นักบินและช่างเครื่องทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง […]