“แพทองธาร” รับเสนอตัวนั่งนายกฯ ไม่ได้คิดปมซ้ำรอย “พ่อ-อา”

อาคารชินวัตร3 15 ส.ค.-“แพทองธาร” รับเสนอตัวนั่งนายกฯ รับไม้ต่อ “เศรษฐา” ยังไม่ได้คิดปมซ้ำรอย “พ่อ-อา” ยันปรึกษาครอบครัวทุกเรื่อง รับ “คุณหญิงอ้อ” เป็นห่วง ตอบไม่ชัดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปต่อหรือไม่

นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน หลังการแถลงข่าว ถึงกรณีเกรงว่าจะซ้ำรอย นายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะเป็นตระกูลชินวัตรเหมือนกัน นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เพราะไม่ได้มีเวลาคิดทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากและเมื่อวาน (14 ส.ค.) ตนเพิ่งกลับมาจากเซี่ยงไฮ้ซึ่งตนทราบข่าวหลังคนอื่น ประมาณ 18.00 น. จึงได้มีการเตรียมการในพรรคเพื่อไทย และพรรครวมรัฐบาล ซึ่งเป็นเจตนาและโฟกัสในเรื่องดังกล่าวนี้


การตัดสินใจครั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับครอบครัว นางสาวแพทองธาร หรือไม่ แน่นอนตนปรึกษาครอบครัวทุกเรื่องทุกคนคิดว่าเรามาถึงจุดที่จะต้องทำให้ประเทศชาติไปต่อฉะนั้นเรายินดี และตั้งใจ

ส่วนที่กระแสข่าวว่าคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นคุณแม่ จะไม่ยอมให้เป็นนายกรัฐมนตรีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คุณหญิงอ้อ เป็นคุณแม่ ซึ่งมีความห่วงลูกเป็นธรรมดา เช่นเดียวกับที่ตนก็เป็นคุณแม่ก็เข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน และไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคตจะอดห่วงลูกเมื่อไหร่ เรื่องนี้จะว่าทุกคนคงเข้าใจได้แต่เราได้พูดคุยกันและเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน


เมื่อถามว่า นายทักษิณให้คำแนะนำในการมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ท่านให้คำแนะนำอยู่แล้วในหลายเรื่องที่ทำ แต่อย่างที่บอก วิธีการสื่อสารกันในครอบครัวเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกันมากกว่า และถ้าต้องการการคำปรึกษาท่านก็พร้อมให้เสมอ

ส่วนหลังจากนี้นายทักษิณจะมีการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นหรือไม่ หรือจะเข้ามามีตำแหน่งหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ในฐานะของคุณพ่อ และเป็นผู้มีประสบการณ์เป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อนแน่นอนต้องให้ให้คำปรึกษาอยู่แล้ว และตามที่ตนให้เคยให้สัมภาษณ์เราให้คำปรึกษากันทุกเรื่องอยู่แล้ว ถามว่าใกล้ชิดกว่านี้หรือไม่ก็คงไม่ และคงเท่าเดิม เพราะเราใกล้ชิดมากอยู่แล้ว

สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะมีการเดินหน้าต่อหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นกันต่อไปวันนี้ยังไม่ได้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีขอให้ทุกอย่างเป็นทางการก่อนแล้วจะลงลึกในการบริหารงาน


ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะล้มโครงการนี้ ไปพร้อมกับนายเศรษฐา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยลงดีเทลกันอีกครั้ง

เรื่องนี้จะจริงตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่เพราะประชาชนรอคำตอบอยู่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ที่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลยังจะรับฟังความคิดเห็นอยู่ ส่วนพรรคเพื่อไทย นโยบายนี้เป็นเรือธงอยู่หรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “วันนี้เราเอาเรื่องตรงนี้ก่อนดีไหมคะ”

เมื่อถามว่ามองคนชั้นนำอย่างไรที่จะไม่ซ้ำรอยกับในอดีต นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนเป็นประชาชนเพราะฉะนั้นประเด็นนี้ไม่น่าจะเป็นประเด็นและและคิดว่าการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลที่เราจะตั้งร่วมกันมาทุกคนมีวิธีการสื่อสารและวิธีการทำงานที่เป็นที่ยอมรับขอให้รอเวลาอีกนิดนึงเพื่อให้ผลงานแต่ที่นายเศรษฐาได้ทำไว้ออกดอกออกผล ซึ่งใกล้จะถึงเวลานั้นเพราะผ่านมาแล้ว 1 ปี

ส่วนวันนี้มีการโพสต์ร่วมรับประทานอาหารกับนายสุดท้ายได้มีการพูดคุยหรือได้บอกไหมว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า นายเศรษฐาเป็นคนสนับสนุน ให้ตนได้รับการเสนอชื่อ ตนเคารพนายเศรษฐามาอยู่แล้ว และวันนี้ได้มีการพูดคุยกัน และความจริงไดเคุยกันตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งท่านให้การสนับสนุนเรื่องนี้มาก และท่านเป็นคนที่มีแพรชชันเยอะมาก และอยากผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จ เชื่อว่าสื่อมวลชนที่ได้ใกล้ชิดกับนายเศรษฐาคงจะทราบอยู่แล้วว่าท่านมี energy เต็ม 100 และมุ่งมั่นในการทำงานมากๆ ซึ่งตนหวังว่าจะผลักดันนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลให้สำเร็จเพื่อพี่น้องประชาชน

ส่วนที่มีกระแสข่าว ว่านอกจากมติของ กก.บห. นางสาวแพทองธาร เป็นคนเสนอตัวที่จะรับไม้ต่อจากนายเศรษฐาใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ใช่ค่ะ” และในพรุ่งนี้ ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะไม่เข้าไปแสดงวิสัยทัศน์.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย