fbpx

ศาล รธน.วินิจฉัย “เศรษฐา” พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

14 ส.ค. – มติศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ 4 ชี้ความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ เหตุไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ กรณีแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี


ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) จากกรณีถูกกล่าวหากระทำการเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องจากนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ในคดีสินบนถุงขนม 2 ล้าน เมื่อปี 2551 ให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลฯ ให้เหตุผลว่า พิจารณาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญตามคำปรารภที่ว่า รัฐธรรมนูญนี้วางกลไกป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เข้มงวด เด็ดขาด เพื่อมิให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล เข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง หรือใช้อำนาจตามอำเภอใจ จึงบัญญัติคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไว้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเพิ่มเติมจากลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98

นายเศรษฐา ผู้ถูกร้องที่ 1 กล่าวอ้างว่าตนมีภูมิหลังจากการประกอบธุรกิจ มีประสบการณ์ทางการเมืองที่จำกัด ไม่มีความรู้ทางด้านนิติศาสตร์หรือรัฐศาสตร์ จึงไม่อาจวินิจฉัยว่า นายพิชิต ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นข้ออ้างที่รับฟังไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในฝ่ายบริหาร ทุกการตัดสินใจมีผลกระทบต่อบ้านเมือง จึงต้องมีความรับผิดชอบในทุกการกระทำ ประกอบกับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตและความน่าเชื่อถือหรือไว้วางใจต่อสาธารณชนนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ชัดในลักษณะภาวะวิสัย


ข้อเท็จจริงปรากฏในคำสั่งศาลฎีกาที่ 4599/2551 ที่วินิจฉัยว่า เสมียนทนายความที่ทำงาน ประสานงานให้นายพิชิต นำถุงกระดาษใส่เงินสดมอบให้เจ้าหน้าที่ของศาลฎีกา โดยที่รู้หรือควรรู้ว่าภายในถุงกระดาษดังกล่าวมีเงินสดอยู่ และนายพิชิต มีพฤติการณ์ที่เชื่อได้ว่ามีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าวด้วยในลักษณะเป็นตัวการร่วม โดยมีเจตนาจูงใจให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ที่อาจเชื่อมโยงไปเป็นประโยชน์แก่จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2550 ซึ่งเป็นลูกความของนายพิชิต การกระทำดังกล่าวเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 33 (1) และมาตรา 133 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และน่าจะมีมูลความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา144 หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงาน สั่งลงโทษนายพิชิต ฐานละเมิดอำนาจศาล ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่สาธารณชนต่างรู้กันโดยทั่วไป และสภาทนายความ เห็นว่า การที่นายพิชิต ถูกลงโทษในคดีละเมิดอำนาจศาลตามคำสั่งศาลฎีกาข้างต้น เป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงอำนาจศาล ทำให้เสื่อมเสียอำนาจศาล หรือผู้พิพากษา และกระทบต่อความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมไทย เป็นการกระทำผิดตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 6 และข้อ 18 ให้ลบชื่อนายพิชิต กับผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง ออกจากทะเบียนทนายความ

นายเศรษฐา รู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยตลอดแล้ว แต่ยังคงเสนอให้แต่งตั้งนายพิชิต เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ 27 เมษายน 2567 นายเศรษฐาจึงไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4)

“การที่นายเศรษฐา รู้หรือควรรู้ถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับพฤติการณ์ต่าง ๆ ของนายพิชิต ดังกล่าวโดยตลอดแล้ว แต่ยังเสนอแต่งตั้งให้นายพิชิตเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่า นายเศรษฐา ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) ย่อมเป็นการกระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 หมวด 1 ข้อ 8 ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งข้อ 27 วรรคหนึ่ง กำหนดให้การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในหมวด 1 ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) ด้วย”


ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) แล้ว รัฐมนตรีต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่ง (1) โดยให้นำมาตรา 168 วรรคหนึ่ง (1) มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งต่อไป

สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 5 คน คือ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ เห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 4 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องที่ 1 นายกรัฐมนตรี ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5).-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

หมอวินิจฉัยโรคผิด ฉีดยาแก้แพ้ให้ จนตาบอด

พนักงานไอทีสาว วอนเยียวยา หลังหมอวินิจฉัยโรคผิด ฉีดยาแก้แพ้จนมองไม่เห็น สุดท้ายย้ายโรงพยาบาล ฟันธงเป็นโรค “สตีเวนส์จอห์นสัน ระดับ10” พบเพียง 6 ใน 1 ล้านคนเท่านั้น

ข่าวแนะนำ

นาทีเขาถล่ม วิ่งไม่คิดชีวิต รอดปาฏิหาริย์

นาทีเฉียดตาย ภูเขาถล่มขณะชาวบ้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กำลังช่วยกันตักดินโคลน ทำร่องระบายน้ำออกจากบนถนนในช่วงน้ำท่วม วิ่งหนีไม่คิดชีวิต รอดปาฏิหาริย์

นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมน้ำท่วมเชียงราย-ภาคเหนือ

นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมน้ำท่วมเชียงราย-ภาคเหนือ ยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอกระทรวงต่างๆ ช่วยประชาชนออกจากปัญหาโดยเร็วที่สุด เร่งทำระบบเตือนภัยและเยียวยา

น้ำท่วมเชียงราย

แม่น้ำกกเพิ่มสูงต่อเนื่อง-ประชาชนยังรอการช่วยเหลือ

แม่น้ำกกยังคงเพิ่มสูงต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วม จ.เชียงราย ขยายวงกว้าง เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด บางจุดที่ไม่เคยเกิดน้ำท่วมครั้งนี้ก็ไม่รอด ทำให้ชาวบ้านติดเกาะ ขณะที่หน้าสนามบินเชียงราย น้ำท่วมแล้ว

แถลงนโยบาลรัฐบาล

นายกฯ แถลงย้ำ 10 นโยบายเร่งด่วน “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”

นายกฯ แถลงนโยบายรัฐบาล 58 นาที ย้ำ 10 นโยบายเร่งด่วน “ดิจิทัลวอลเล็ต-เกษตรทันสมัย-รถไฟฟ้าราคาเดียวตลอดสาย-กำจัดอาชญากรรมออนไลน์-กำจัดยาเสพติดทั้งระบบ-ทำรัฐธรรมนูญใหม่-ปรับปรุงระบบภาษีครั้งใหญ่” ยันเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน เร่งสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”