กรุงเทพฯ 14 ส.ค.-นายกฯ ตรวจเยี่ยมตลาดใต้สะพานเพลินจิต เตรียมใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนเป็นสวนสาธารณะ – สนามกีฬา เผยต้องดูความเหมาะสม ขอการทางพิเศษแห่งประเทศไทย – ก.คมนาคม – กทม. ร่วมมือกัน ทำประโยชน์ให้ประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดใต้สะพานเพลินจิต ณ บริเวณสะพานเพลินจิต ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ตรวจเยี่ยมดูพื้นที่บริเวณตลาด และรับฟังการบรรยายแผนการพัฒนาตลาด ซึ่งได้รับรายงานจากผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ว่า ยังพื้นที่ในการพัฒนาอีกหลายจุด แล้วจะเชิญกรุงเทพมหานคร เอกชนมาร่วมลงทุนกัน รวมไปถึงจะทำพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนมาใช้บริการ โดยพื้นที่ ใต้สะพานเพลินจิตแต่เดิมเป็นพื้นที่ที่สกปรกมากจึงมีการทำความสะอาด และนำยางมะตอยมาเท โดยลงทุนเอง
ส่วนนายชัชชาติ รายงานว่า การเปิดตลาด จะช่วยลดการขายหากเร่บริเวณริมทางข้างถนน ทั้งบริเวณทางรถไฟก็เข้ามาขายในบริเวณนี้ แต่ต้องมีการปรับตัว เพราะก่อนหน้านี้ไม่ต้องเสีย แต่การเข้ามาขายในตลาดจะต้องเสียค่าเช่าเล็กน้อย
ด้านนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจทำเป็นพื้นที่ตลาด พื้นที่เล่นกีฬา โดยการเก็บค่าเช่าอาจไม่ต้องเหมือนกันในแต่ละพื้นที่ ตามศักยภาพของผู้ซื้อ ซึ่งการทำเป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนเข้ามาใช้เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ทุกตลาดจะต้องควบคุมทั้งการควบความสะอาด คุณภาพ รสชาติ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อเห็นผัง และแผนการรายงานแล้ว ก็ดี ถือเป็นความตั้งใจจริง แต่เป็นแค่โครงการเริ่มต้น ยังมีอีก 2 – 3 ส่วนที่ทำได้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งค้าขาย สวนสาธารณะ สนามกีฬา ก็ช่วยประชาชนได้หลายมิติ ตนเองก็ดีใจ แต่ไม่อยากให้ทางการทางพิเศษแห่งประเทศไทยดูแลอย่างเดียว อยากให้เอกชนเข้ามาดูแลด้วย จะได้ทำได้เยอะขึ้น ตนเองก็สนับสนุนแล้ว อาจจะมีการพูดคุยกับเอกชนบางราย อย่าง ปตท. เป็นต้น เชื่อว่า จะสามารถขยายผลได้เยอะ เพราะพื้นที่ใต้ทางด่วนมีเยอะเหลือเกิน แต่ไม่ใช่ทุกพื้นที่ที่จะสามารถค้าขายได้ ก็เก็บค่าเช่าให้เป็นธรรม ให้เขาอยู่ได้
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชมตลาด ทักทายพ่อค้า แม่ค้า และถ่ายรูปกับประชาชนที่มาเดินตลาดอย่างเป็นกันเอง ซึ่งผู้ที่มาตลาดแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศและเป็นช่วงพักเที่ยงพอดี
นายกรัฐมนตรี ได้แวะซื้อข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาวใส่กล่องกลับไปรับประทานที่ทำเนียบรัฐบาล โกยนายกรัฐมนตรีตั้งใจที่จะจ่ายเงินเองแต่หากระเป๋าสตางค์ไม่เจอ นายชัชชาติ จึง อาสาขอเป็นเจ้ามือมื้อนี้และเหมาข้าวกล่องทั้งหมด และก่อนขึ้นรถกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า วันนี้มาสำรวจตลาดได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ทุกคนก็พอใจที่ย้ายมาอยู่ใต้ทางด่วน เพราะสามารถหลบแดด หลบฝนได้ หลังจากที่ขายอยู่ริมถนน ต้องตากแดด ตากฝน ส่วนค่าเช่านั้น ก็จะจัดเก็บแบบไม่เอากำไรในราคา 300 บาท ต้องให้ผู้ค้าอยู่ได้ จากนั้นก็ค่อยขยายไปยังพื้นที่อื่น และส่วนตัวมองว่าการย้ายมาได้หลายมิติ เช่น ถ้ามาอยู่ใต้ทางด่วน ก็จะป้องกันอากาศที่ร้อนได้ ซึ่งถือเป็นที่ที่มั่นคง หลังคาที่ไม่รั่วเมื่อฝนตก
ขณะที่หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 12:06 น. เพื่อปฏิบัติภารกิจในช่วงบ่ายบนตึกไทยคู่ฟ้า.-316.-สำนักข่าวไทย
