รัฐสภา 13 ส.ค.- “ชัยชนะ” ไม่ประเมินสถานการณ์ทางการเมือง กรณีปมศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายกฯ พรุ่งนี้ ย้ำจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน แต่ยังไม่ปิดประตูร่วมรัฐบาล หากถูกเทียบเชิญ
นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่างถึงกรณี ในวันพรุ่งนี้( 14 ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยถอดถอนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทั้งๆที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติว่า ต้องให้เป็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ควรที่จะให้ความเห็นหลังมีคำวินิจฉัยจะดีกว่า ส่วนการประเมินหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเห็นว่าคงไม่ต้องประเมินเพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ แต่หากมีการเทียบเชิญให้ร่วมรัฐบาลก็ต้องกลับไปถามมติของพรรคประชาธิปัตย์ โดยกรรมการบริหารพรรคต้องประชุมร่วมกันกับ สส. จะแสดงความคิดเห็นคนใดคนหนึ่งไม่ได้ และย้ำว่าอย่าใช้คำว่าพรรประชาธิปัตย์พร้อมจะร่วมรัฐบาล เพราะการเมืองไทยต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงตอบไม่ได้ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมหากมีการเทียบเชิญเพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์
นายชัยชนะ กล่าวถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร ว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงจุดยืนตั้งแต่เริ่มต้นของกฎหมายนี้แล้ว ว่าต้องกลับไปทบทวนให้ดีก่อนที่จะนำไปสู่การเปิดคาสิโนว่าจะสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้เท่ากับมาเก๊า หรือไม่หรือเปรียบเทียบกับประเทศเวียดนาม / สิงคโปร์ที่เปิดไปแล้วมีรายได้ดีหรือไม่เพราะการที่ประเทศไทยจะรีบเร่งแก้กฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรควรจะต้องกลับมา ทบทวนฟื้นกีฬาประเภทพื้นบ้าน เช่นไฮโลงานศพ หรือหวยใต้ดินกลับมาบนดิน เพื่อจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ดังนั้นขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเห็นชอบกับร่างกฎหมายนี้
ส่วนกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่อง ต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินคดีทางอาญากับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตสส.พรรคก้าวไกล นายชัยชนะกล่าวว่าเรื่องนี้ต้องถามกับนายมงคลกิตติ์เองเพราะมองว่าเรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 มุมคือความเห็นส่วนตัวกับความเห็นของพรรคหากเป็นความเห็นของพรรคต้องมาจากเสียงส่วนใหญ่ แต่หากเป็นการยื่นเรื่องส่วนตัวก็เป็นสิทธิ์ที่พึงกระทำได้ ส่วนจะทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหายหรือไม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิทธิที่ทุกคนจะร้องเรียนในฐานะประชาชน ซึ่งพรรคคงไม่ห้ามให้ใครไปยื่นในนามส่วนตัว และยืนยันว่าส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรคประชาชนและขอแสดงความยินดีกับหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อมเป็นกำลังใจให้เดินหน้าในการทำงานกอบกู้ระบอบประชาธิปไตย เพียงแต่ว่าจุดยืนที่ต่างกันคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 เพราะพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าปกป้องสถาบัน .-312 -สำนักข่าวไทย