“วิสุทธิ์” ยังไม่ฟันธง “ภราดร” นั่งรองประธานสภา

รัฐสภา 8 ส.ค.-“วิสุทธิ์” ประธานวิปรัฐบาล ให้กำลังใจ “ก้าวไกล” ยังไม่ฟันธง “ภราดร” นั่งรองประธานสภา แต่มองเหมาะสม ขอเจรจาในพรรคร่วมก่อน มั่นใจพุธหน้าได้คนใหม่แน่ ชี้คุณสมบัติต้องเป็นกลาง คุมประชุมได้ เผยให้ กก.บห.เพื่อไทย พิจารณาส่งเลือกตั้งใหม่พิษณุโลก

นายวิสุทธิ์ ​ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึง กรณีที่พรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ว่าให้กำลังใจพรรคก้าวไกล ที่ต้องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายตามกติกา คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเราก็ต้องยอมรับ เป็นเรื่องปกติ ธรรมดาการเมือง เราผ่านเรื่องนี้มามากแล้ว ตอนนี้ก็ให้กำลังใจให้เข้มแข็งทางการเมือง ก็มีเข้า มีออก รุ่นก่อนๆ ไทยรักไทยก็เพิ่งได้กลับมา แต่ถึงไม่เห็นด้วย เราก็ต้องยอมรับ ส่วนการทำงานคงไม่มีอะไรมาก เพราะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่หลุดออกไปประมาณ 2-3 คน และในสภาสัดส่วนก็ไม่ได้มีแตกต่างกันมาก ยังพอทำงานเป็นปกติได้ไม่มีอะไรน่ากังวล หรือน่าเป็นห่วง


ส่วนตำแหน่งต่างๆ ที่จะได้รับผลกระทบทั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และกรรมาธิการนั้นก็ต้องดูสัดส่วนของแต่ละพรรค แนวทางการปฏิบัติของสภาก็มีอยู่แล้ว ว่าต้องปฏิบัติอย่างไรให้ครบถ้วน ให้พอเหมาะพอดีตามที่ตกลงกันไว้

“ตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 เหตุเกิดขึ้นเมื่อวานวันนี้ก็ยังไม่กล้าตอบหรอกว่าพรรคไหน จะได้มาเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 แต่ชัดที่สุดคือวันพุธหน้าได้เลือกแน่นอน มีรองประธานสภาคนที่ 1 ขึ้นมาทำหน้าที่แน่นอน เพราะจะมีการเลือกอาทิตย์หน้า จึงอยากให้อดใจรอ การเจรจาก็เป็นการพูดคุยของผู้นำของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ซึ่งโดยมารยาทต้องปรึกษาหารือกันทุกพรรค” นายวิสุทธิ์ กล่าว


นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวต่อว่า วันนี้คงไม่ใช่โควต้าอย่างเดียว ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างทางการเมือง รวมถึงสัดส่วนของ สส. ที่อยู่ในสภา และยืนยันว่าต้องเป็นคนของฝ่ายรัฐบาล 100% เพราะครั้งก่อนที่เลือกไปแบบนั้น ด้วยสถานการณ์ที่เหมือนก้าวไกลจะมาร่วมรัฐบาล แต่เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็เป็นสัดส่วนของรัฐบาล ที่จะต้องเจรจากันในหลายพรรค

ทั้งนี้จะเป็นสัดส่วนของพรรค ภูมิใจไทยหรือไม่ เพราะในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทยนั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ขอให้ได้พูดคุยกันก่อน เป็นไปได้ทั้งหมด และเชื่อว่าไม่มีปัญหาที่พรรคร่วมรัฐบาล จะเลือกบุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึง คุณสมบัติของบุคคลที่เหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ว่าต้องเป็นกลาง ทางการเมืองและแม่นข้อบังคับ ทำหน้าที่ควบคุมการประชุมสภา ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่ง สส.หลายคนจากหลายพรรค ที่มีคุณสมบัติพร้อม หลายคนก็อยู่สภามานาน คนที่ขึ้นมาทำหน้าที่ก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาเท่านั้น


ส่วนที่มีรายชื่อของนายภราดร ปริศนานันทกุลเข้ามาชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็เหมาะสม เพราะประชุมสภามาหลายสมัย คุณพ่อของนายภราดรก็เคยนั่งตำแหน่งนี้ แต่ตอนนี้ตนยังไม่กล้าฟันธงว่าเป็นใคร

ส่วนข้อครหาที่ตำแหน่งประธานและรองประธานทั้ง 2 คนมาจากฝั่งรัฐบาลทั้งหมดจะไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้นั้น นายวิสุทธ์ กล่าวว่า ตำแหน่งประธานและรองประธานมีหน้าที่ควบคุมการประชุมสภา ให้เป็นไปตามข้อบังคับและความเรียบร้อยเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ไปวินิจฉัยเรื่องอื่น นอกจากเรื่องข้อบังคับ ตำแหน่งนี้ไม่ใช่เรื่องตรวจสอบถ่วงดุลอะไร เพราะฉะนั้นการตรวจสอบก็เป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคน

ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ตำแหน่ง ประธานและรองประธานทั้ง 2 คนจะเป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด เนื่องจาก ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เคยเกิดขึ้นแล้ว นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์สัดส่วนไม่เหมือนตอนนี้ เพราะตอนนั้นพรรคเพื่อไทยมี สส.มาก

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการเสนอผู้สมัครลงเลือกตั้งเขต 1 จังหวัดพิษณุโลก ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่าง ว่าเรื่องนี้ให้กรรมการบริหารพรรคไปพิจารณา เพราะครั้งที่แล้วเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 3 และที่ 2 เป็นพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งปกติโดยมารยาท ในพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราก็จะให้พรรคที่มีคะแนนสูงสุดก่อน ซึ่งก็ต้องให้พรรคพลังประชารัฐก่อน แต่ก็ต้องอยู่ที่ผู้บริหารพรรคทั้งสองพรรคต้องเจรจากัน.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย