วุฒิสภาไฟเขียวงบฯ ดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้านบาท

รัฐสภา 6 ส.ค.- ฉลุย! 139:38 เสียง วุฒิสภาไฟเขียวงบฯ ดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้านบาท สว.รุมจี้ให้แจกเป็นเงินสด ฉะ! นโยบายหวังผลเลือกตั้ง ทำประเทศเจ๊ง ด้าน “จุลพันธ์” ปัดรัฐบาลใช้ดิจิทัลวอลเล็ตหวังผลเลือกตั้ง ย้ำเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ยอมรับรัฐบาลจำเป็นต้องกู้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมเปิดลงทะเบียนคนไร้สมาร์ทโฟน 16 ก.ย.นี้ ส่วนร้านค้าเริ่มเข้าชื่อ 1 ต.ค.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสียงข้างมาก 139 เสียง ต่อ 38 เสียง ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำเสนอต่อวุฒิสภา โดยเป็นการพิจารณาแบบไม่ตั้งกรรมาธิการ ซึ่งมีผู้งดออกเสียง 18 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ภายหลังได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วในวาระที่ 3

นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า รัฐบาลมีความจำเป็นเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภค และการลงทุนในประเทศโดยเร่งด่วน ไม่สามารถรองบประมาณปี 2568 ได้ โดยยืนยันว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายวินัยการเงินการคลัง ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ และเม็ดเงินจำนวนมาก จะไหลจากภาครัฐ ไปยังภาคเอกชน เกิดการสั่งซื้อสินค้า และบริการ และย้ำว่า รัฐบาลจะใช้จ่ายเงินภาษีของประชนชนให้มีประสิทธิภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินไหลสู่ประชาชน และภาคธุรกิจ สร้างความเจริญเติบโตให้ดับประเทศ พัฒนาศักยภาพอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามกฎหมาย


ขณะที่ การอภิปรายของ สว.นั้น มีสมาชิกวุฒิสภาหญิง 2 คน ที่เป็นเคยเป็นแม่ค้ามาก่อน ได้อภิปรายเกือบทั้งน้ำตา ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาล จึงไม่แจกเป็นเงินสด เพื่อให้ประชาชน นำไปใช้จ่ายได้สะดวก และยังตัดพ้อที่อาชีพพ่อค้า แม่ค้า แทบจะไม่เคยได้รับการดูแลจากรัฐบาล เหมือนเกษตรกร หรือชาวนา ต้องอดทนอดกลั้นทำอาชีพดูแลครอบครัว รวมถึงยังตั้งข้อสังเกตเหตุใด จึงไม่แจกเงินอย่างเท่าเทียมถ้วนหน้า

“เพื่อน ๆ แม่ค้าฝากความหวัง และกำลังใจในการมาเป็น สว.ให้แม่ค้าขายของดีขึ้น แต่การเป็น สว.ในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะมาบอกความในใจแม่ค้าทุกคน ที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลจากรัฐบาล ชาวนาได้ไร่ละ 1,000 หรือไร่ละ 10,000 บาท แต่แม่ค้าต้องช่วยตัวเอง ขายของกลางคนน ใช้ความอดทนทำมาหากิน ทำอาชีพเพื่อดูแลครอบครัว ซึ่งประชาชนส่วนหนึ่งเห็นชอบ อยากได้เงิน 10,000 บาท แต่อยากได้เป็นเงินสด ซึ่งตอนแรกรัฐบาลก็บอกว่า ทุกคนต้องได้ 10,000 บาท แต่ก็มีเงื่อนไขมากมาย ซึ่งบางคนก็ทำมาหากิน มีเงินเก็บ 500,000 บาทก็ขาดคุณสมบัติแล้ว แล้วเขาผิดอะไรที่มีเงินเก็บ และทำไมทุกคนไม่ได้เงิน คนที่ขยันทำมาหากิน แต่ถูกตัดสิทธิ ทำไมถึงไม่ทำให้เสมอภาคเท่ากัน ทำไมต้องคัดเกรด” นางเบ็ญจมาศ อภัยทอง สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย

“การที่รัฐบาลจะแจกเงินประชาชนคนไทย 10,000 บาท ตนเองมีความยินดีและดีใจมาก แต่มีความกังวลว่าจะนำไปใช้จ่ายอย่างไรหลังได้รับเงินส่วนนี้ เนื่องจากเป็นเงินดิจิทัล จึงรู้สึกคิดหนักที่บางครอบครัวมีสมาชิก 4-5 คน หากรวมเป็นเงิน 40,000-50,000 บาท อยากเอาไป ซ่อมแซมบ้าน ซื้อควายซื้อวัวเลี้ยง ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ ทำไมรัฐบาลไม่แจกเป็นเงินสด จะได้ใช้ง่าย ๆ” นางแดง กองมา สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย


ทั้งนี้ การอภิปรายของนางแดงนั้น ทำให้นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ได้นำโทรศัพท์ มาบันทึกภาพ ก่อนที่จะหยิบกระดาษมาซับน้ำตาอยู่นานแล้ว จนนางแดงอภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว ก็ยังคงเช็ดอยู่

นอกจากนั้น สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ ยังกังวลว่า โครงการดังกล่าวของรัฐบาล จะเป็นการเอื้อนายทุน ทำประชาชนเสียนิสัยจากการแจกเงิน และยังเป็นการหาเสียงล่วงหน้าของรัฐบาล สร้างภาระจนจะทำประเทศเสียหาย

“โครงการนี้เป็นการเพิ่มหนี้ให้กับประชาชนหรือไม่ และจากการลงพื้นที่ ประชาชนก็ยังสงสัยต่อการใช้เงินดิจิทัล และจะไปใช้จ่ายต่ออย่างไร ทำไมไม่จ่ายเป็นเงินสด จึงตั้งข้อสงสัยว่า จะเป็นการเอื้อประโยชน์จริงหรือไม่ และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง หรือเป็นเพียงการหาเสียงล่วงหน้า พร้อมยังเห็นว่า การเปิดลงทะเบียนประชาชนนั้น อาจจำให้ประชาชนดีใจเล่น ๆ และยังระบุอีกว่า การลงทะเบียนนั้น ชาวบ้านต้องไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ 4,000 บาท จนเงินหายไปแล้ว 4,000 บาทจาก 10,000 บาท พร้อมยังแสดงความกังวลว่า การแจกเงินหมื่นจากรัฐบาล จะทำให้ประชาชนเสียนิสัย” พลตำรวจโทบุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย

“โครงการนี้ไม่ใช่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นโครงการเศรษฐกิจการเมือง ที่ยิงทะลุมิติ หวังผลเลือกตั้งคราวหน้า เพราะหากนโยบายนี้ไม่สำเร็จ การเลือกตั้งคราวหน้า พรรคเพื่อไทยไปไม่รอดแน่นอน ฉะนั้น จึงไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะทำให้เจ๊งทั้งประเทศ พร้อมยังอภิปรายว่า ในอดีตมีนโยบายแจกเงินของรัฐบาลหลายโครงการ แต่ความยากจนก็ยังคงเป็นมิตรแท้ของประชาชนเช่นเดิม จนมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ประชาชนแห่มาลงทะเบียน เพราะกลัวเสียสิทธิ และยังคงมีความซับซ้อน ไม่แจกเป็นเงินสด พร้อมเชื่อว่า เม็ดเงินต่าง ๆ ก็จะยังคงไหลกลับไปที่นายทุนใหญ่ และจะยิ่งเกิดความเหลื่อมล้ำ แม้ GDP ของประเทศจะโตขึ้น ความยากจนของประชาชนก็คงไม่ได้ลดลง หรือแม้จะมีการทักท้วงจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมาเตือนแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังไม่ฟัง และยังคงเดินหน้าต่อ แต่วุฒิสภา จะต้องยับยั้งรัฐบาล พร้อมยังตั้งข้อสังเกตว่า ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ ที่การเลื่อนลงทะเบียนของร้านค้าน เป็นเพราะไม่มีร้านค้าใดเข้าร่วมใช่หรือไม่ ดังนั้น ตนจึงไม่ให้ความเห็นชอบงบประมาณเพิ่มเติมฉบับนี้ และรัฐบาลควรจะหันไปสนับสนุนการออมให้กับประชาชน หรือผู้สูงอายุ หรือแม้แต่นโยบายของรัฐบาลที่แล้วที่ดี เช่น กฎหมายการส่งเสริมการออม ก็ควรจะสนับสนุนต่อ” นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย

ทั้งนี้ ก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฯ ฉบับนี้นั้น นายนิรุตติ สุทธินนท์ สมาชิกวุฒิสภา ได้เสนอต่อที่ประชุมให้งดใช้ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ในข้อที่ 138 โดยไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ เพิ่มเติม แต่นางสาวรัชนีกร ทองทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา ไม่เห็นด้วยหากจะงดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เนื่องจาก งบประมาณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และเป็นเงินกู้ทั้งหมด จึงขอให้ที่ประชุมฯ ได้ทบทวน

ด้าน นายกมล รอดคล้าย สมาชิกวุฒิสภา สนับสนุนข้อเสนอของนายนิรุตติ เพราะเห็นว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ต้องใช้เวลา แต่เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องเร่งด่วนตามที่รัฐบาลเสนอ ดังนั้น การงดใช้ข้อบังคับการประชุมดังกล่าว ก็จะทำให้สามารถใช้กรรมาธิการเต็มสภาได้ และสามารถเสร็จสิ้นตามกำหนดเวลาได้ แต่ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทำให้ต้องมีการลงมติ ซึ่งที่สุดแล้ว ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 161 เสียง ต่อ 17 เสียง เห็นชอบตามข้อเสนอของนายนิรุตติ ที่ประชุมให้งดใช้ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ไม่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ เพิ่มเติม

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงข้อสังเกต และข้อสงสัยของสมาชิกวุฒิสภา โดยย้ำว่า รัฐบาล ได้ยืนยันว่า งบประมาณดังกล่าว เป็นไปตามกรอบกฎหมาย และวินัยการเงินการคลัง พร้อมยอมรับว่า รัฐบาล จำเป็นจะต้องมีการกู้หนี้เพิ่มเติม เพื่อเติมเงินใส่ในระบบเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจในการเดินหน้าโครงการ

ส่วนข้อสังเกตเหตุใดรัฐบาลไม่จ่ายเป็นเงินสดนั้น นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า กลไกที่รัฐบาลกำหนด เป็นกลไกลใหม่ ต่างจากอดีต ที่แจกเป็นเงินสด เพราะอาจทำให้ประชาชน ออมไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ยอมใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่ และรัฐบาล ต้องการให้เม็ดเงินกระจายตัวอยู่ในความเหมาะสม ไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในตัวเมือง และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนอยู่ในระบบได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ตามที่รัฐบาลต้องการ เช่นในจังหวัดเชียงใหม่ หากรัฐบาลกำหนดให้ใช้เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ในอำเภอแม่ริม ซึ่งมีประชากรจำนวนประมาณ 80,000 คน ก็จะมีเงินหมุนอยู่ในอำเภอ 800 ล้านบาท แต่หากแจกเป็นเงินสด ประชาชนก็จะไปใช้เงินในอำเภอเมืองเชียงใหม่มากกว่า และหากร้านค้า ต้องการจะขึ้นเป็นเงินสด ก็สามารถทำได้ในการหมุนรอบที่ 2 และเงินสดก็จะยังคงหมุนเวียนในระบบ มีผลระยะยาว และกลไกนี้ ไม่ใช่เพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการวางรากฐานดิจิทัลระยะยาว ให้คนไทยพร้อมรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงข้อมูลประชาชนต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการกำหนดนโยบายได้อย่างตรงจุด พร้อมย้ำว่า แอพลิเคชันทางรัฐ มีความปลอดภัยแน่นอน

นายจุลพันธ์ ยังย้ำว่า ในการใช้จ่ายนั้น รัฐบาลได้วางกลไกไม่ให้เกิดการกระจุกตัวกับรายใหญ่ และกระจายตัว ง่ายต่อการใช้งาน ดังนั้น จึงสามารถซื้อของจากร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก วิสาหกิจชุมชนของประชาชนในท้องถิ่น ได้ รวมไปถึงร้านหาบเร่แผงลอย ที่แม้ไม่เสียภาษี ก็สามารถลงทะเบียนได้ แต่ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาล จะเปิดลงทะเบียนร้านค้า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ส่วนประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือในการลงทะเบียนรับสิทธิ์นั้น นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือในการลงทะเบียน รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนในวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรัฐ และใช้บัตรประชาชนในการซื้อสินค้า ซึ่งอาจจะไม่สะดวก และมีความซับซ้อนกว่า

นายจุลพันธ์ ชี้แจงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาตั้งข้อสังเกตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลหวังผลการเมือง โดยยืนยันว่า โครงการนี้ฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมาแล้ว และเป็นสัญญาประชาคม ที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา จึงจะต้องเดินหน้า ไม่มีความเป็นพรรคการเมือง เพราะทุกพรรคอยู่ร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่ใช่นโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง และยังมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดนโยบายตามข้อห่วงใยของสังคม ที่รัฐบาลพร้อมรับฟัง

โดยภายหลังที่วุฒิสภา ให้ความเห็นชอบเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาทแล้ว ประธานวุฒิสภา จะส่งร่างงบประมาณ กลับคืนไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอน และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป .312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ชน รปภ.ดับ

กทม. 2 มิ.ย. – ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังกรมศุลกากร ก่อนขับรถชน รปภ.ดับ ด้านพนักงานสอบสวนหิ้วนายเจ ทำหน้าที่รับของโจร ไปฝากขังศาล เจ้าตัวฝากถึงเพื่อนรัก “เจอที่ไหน ตายแน่” ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.ท่าเรือ มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจสามารถคุมตัวนายดิศรณ์ หรือ นายเจ อายุ 41 ปี ซึ่งมีหน้าที่รับฝากของจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คนมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหารับของโจร โดยจากการสอบปากคำนายเจ ทำให้สามารถขยายผลไปถึงผู้ก่อเหตุอีก 6 คนได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่มกันบุกรุก และมีข้อหาอื่นๆ อีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 อยู่ หากหมายจับออกก็จะสามารถจับกุมบางรายได้ทันที ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดนั้นสามารถได้ภาพแค่ตอนที่ชนผู้ตาย แต่ไม่สามารถจับภาพขณะปล้นได้ ส่วนกรณีที่จะมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น มีรายงานว่าไม่มี […]

ปศุสัตว์สระแก้วร่วมสอบสวนโรค “แอนแทรกซ์” หลังพบผู้ป่วยยืนยันรายแรกของจังหวัด

สระแก้ว 2 มิ.ย.​ – สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ หลังได้รับแจ้งพบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด​ เบื้องต้นยังไม่พบสัตว์ป่วยตายผิดปกติในพื้นที่ แต่วางมาตรการควบคุมเข้มงวดป้องกันและควบคุม​โรคในสัตว์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วว่า วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและสำนักงานปศุสัตว์เขต 2 ลงพื้นที่สอบสวนโรค หลังพบชายอายุ 53 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ด้วยอาการตุ่มแผลตามร่างกาย และได้รับการวินิจฉัยยืนยันว่าติดเชื้อ Bacillus anthracis สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ป่วยมีพฤติกรรมชอบบริโภคเนื้อดิบเป็นประจำ เช่น ลาบ ก้อย ซอยจุ๊ ซึ่งเป็นเนื้อที่ซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่เพื่อแบ่งกันรับประทานร่วมกับเพื่อนบ้าน และมีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำ โดยไม่มีประวัติเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ และไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แม้ในพื้นที่จะยังไม่พบรายงานสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วได้วางมาตรการควบคุมเข้มงวด โดยร่วมสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง เก็บตัวอย่างสัตว์และสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องอันตรายของการบริโภคเนื้อดิบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานด่านกักกันสัตว์จังหวัดสระแก้วเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อและรถพ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค […]

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]