ทำเนียบ 2 ส.ค.- นายกฯ เลี่ยงตอบปม “ทักษิณ” ขอบินดูไบ วอนอย่าดึง 3 คดีโยงการเมือง ยังไม่คิดปรับ ครม.-ดึงเสียงหนุนรัฐบาลเพิ่ม
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เป็นเพราะไม่มั่นใจสถานการณ์การเมือง อาจต้องการไปตั้งหลักที่ต่างประเทศ ว่า ไม่แน่ใจ อ่านจากหนังสือพิมพ์ทราบว่าจะไปพบแพทย์ แต่ศาลไม่อนุญาต เพราะแพทย์ในเมืองไทยมีอยู่แล้ว เข้าใจว่าการแพทย์ไทยมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่จะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ที่ทำให้ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าเกี่ยวกัน เพราะวันที่ 7 สิงหาคม เป็นคดีของพรรคก้าวไกล ส่วนวันที่ 14 สิงหาคม เป็นคดีของตน ขณะที่นายทักษิณยืนยันตลอดว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดีอาญา มาตรา 112 และเรื่องนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ยืนยันว่า ไม่มีความตั้งใจจะต้องไปตั้งหลัก หรือไปทำอะไรที่ต่างประเทศ แต่เป็นเรื่องของสุขภาพ หรือไปเยี่ยมเพื่อนฝูงก็ไม่แน่ใจ เพราะยังไม่ได้พบ และไม่ได้คุยกันเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีได้ประเมินอย่างไร เพราะหลายฝ่ายมอง 3 เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้มีความน่าเป็นห่วง นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่าตนได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม สำหรับตนที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ
เมื่อถามย้ำว่า จากสถานการณ์การเมืองทำให้เกิดกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยตรงนี้ ทุกคนยังทำงานอย่างเต็มที่ เมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปร่วมงานศพคุณแม่ของตน ยังพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมือง และการเตรียมพร้อมที่จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ รวมถึงพูดคุยกับ ผบ.ทบ.
เมื่อถามว่า หากผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ พบว่านายกรัฐมนตรีไม่มีปัญหา มีความเป็นไปได้ที่จะปรับ ครม. หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ คดีของตนก็จบแล้ว เพราะศาลไม่เรียกข้อมูลเพิ่มเติม ก็ส่งคำชี้แจงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมย้ำว่า ต้องดูแลปัญหาบ้านเมืองอย่างเดียว และไม่อยากคิดไปไกลเรื่องการปรับเปลี่ยนครม. เพราะระยะเวลาที่เหลืออีกประมาณ 3 ปี แน่นอนว่าคงต้องปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้เอามาโยงกับเรื่องวันที่ 14 สิงหาคมนี้ หรือกรณีของพรรคก้าวไกล คิดว่าอย่าโยงดีกว่า บางเรื่องไปโยงแล้วซับซ้อนทำให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจเบี่ยงเบนความสนใจในบางเรื่องที่ควรต้องคิดต้องทำ ไม่อยากให้รัฐมนตรีทุกคนที่ พยายามทำงานเต็มที่เกิดความเขวในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากปรับ ครม. พรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะอยู่ด้วยกัน หรือจะมีการปรับออกและเอาใหม่เข้ามา นายเศรษฐา ได้อมยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีหวาดระแวงกับกระแสที่จะมีบุคคลมานั่งแทนในตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการเมืองก็เกิดขึ้นตลอดเวลา หลายพรรคก็บอกว่า 314 เสียง แน่นอยู่แล้ว ถ้าเกิดพะวักพะวงในเรื่องที่อาจจะ ต้องบอกว่าไม่อยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องในการดูแลบ้านเมืองเขว
เมื่อถามย้ำว่า การดึงเสียงมาเพิ่มจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เสียงของรัฐบาลแน่นขึ้นจำเป็น นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องโยงใยปรับคณะรัฐมนตรี ดึงคนมาเสียบ ปรับคนออกคน ไม่เกี่ยวกับช่วงเวลานี้ เพราะเวลานี้ปัญหาเยอะ ที่ต้องช่วยเหลือกันไป สื่อก็เห็นกันอยู่แล้ว หน้าที่รัฐบาลคือต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ .314.-สำนักข่าวไทย