“วาโย” เผย “ปลาหมอคางดำ” เอาผิดผู้นำเข้าได้แค่ทางแพ่ง

รัฐสภา 1 ส.ค.-“วาโย” ประธานอนุ กมธ.แก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ” เผยความคืบหน้าเอาผิดผู้นำเข้าได้แค่ทางแพ่ง เตรียมเรียกเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงเพิ่มเติม

นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย แถลงข้อสรุปที่ได้มีการหารือกันในที่ประชุมเกี่ยวกับการฟ้องร้องในคดีต่าง ๆ ว่า แบ่งได้เป็นคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีการปกครอง ซึ่งคดีการปกครองมีบางภาคส่วนได้ดำเนินคดีกับกรมประมงไปแล้ว ซึ่งวันนี้มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม โดยได้เปรียบเทียบตัวกฎหมายในปี 2490 ที่ใช้บังคับในปี 2553 – 2554 และกฎหมาย พระราชกำหนด (พ.ร.ก. ) ประมง ที่ใช้บังคับในปี 2558 ในมาตรา 36 พ.ร.ก. ประมง ระบุว่า หากอนุญาตไปแล้วไม่ทำตามเงื่อนไขจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต แต่ใบอนุญาตนั้นเป็นคนละส่วนกันกับใบที่เขียนเงื่อนไขในการนำเข้าปลาหมอคางดำ


ส่วนของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า ถ้ากระดาษอยู่คนละแผ่นแต่เป็นเรื่องเดียวกัน เนื้อหาเหมือนกัน ต้องพิจารณาร่วมกัน จึงเกิดประเด็นว่ากรมประมงได้ ปฏิบัติตามมาตรา 36 ตาม พ.ร.ก. ประมง 2490 หรือไม่ ในเรื่องที่บริษัทเอกชน ไม่ได้เก็บครีบ และส่งขวดโหลปลาคืนให้กับกรมประมง อาจต้องดำเนินกระบวนการต่าง ๆ ต่อไป เพราะไม่แน่ใจว่าในเงื่อนไขได้กำหนดเวลาไว้หรือไม่

นพ.วาโย กล่าวต่อว่า คดีทางอาญา ทุกภาคส่วนลงความเห็นว่าอาจไม่เอาผิดได้ แต่คดีความทางแพ่งอาจสามารถเอาผิดได้ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ซึ่งกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทเอกชน ในฐานละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายได้ และอีกส่วนเป็นการฟ้องร้องของรัฐโดยตรง ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ปี พ.ศ. 2535 ระบุว่า ถ้าหากผู้ใดทำให้สิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติเสียหาย ต้องจ่ายค่าชดเชยให้รัฐทั้งหมดได้ ทั้งนี้ กรมทรัพยากรชายฝั่ง ได้ร่วมดำเนินการสำรวจความเสียหาย และจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป


นพ.วาโย ระบุว่า ทางคณะอนุกรรมการได้เชิญ บริษัทเอกชน เข้ามาชี้แจงเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยครั้งนี้ได้ให้คณะกรรมาธิการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ออกหนังสือเชิญด้วยตัวเอง และยังไม่มีหนังสือลาการประชุมคาดว่าวันนี้บริษัทเอกชนดังกล่าว จะเข้ามาชี้แจงในที่ประชุมแล้ว.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน