“รังสิมันต์” ขออย่าโฟกัสก้าวไกลถูกยุบ มั่นใจข้อกม.

รัฐสภา 30 ก.ค.- “รังสิมันต์ โรม” ขออย่าโฟกัสก้าวไกลถูกยุบ มั่นใจในข้อกฎหมาย เพื่อนสส.จะอยู่กับพรรคทุกคน ชี้คดีนายกฯ ไม่ควรใช้กลไกศาลตัดสิน ต้องใช้กระบวนการทางการเมือง จวก “ทักษิณ” สุดท้ายไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลาน แต่เข้ามามีบทบาทการเมือง


นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงคดียุบพรรคก้าวไกลที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย 7 ส.ค. ว่า ถือเป็นวันสำคัญกับพรรคก้าวไกลอย่างมากและเราเชื่อมั่นว่าถ้าว่ากันตามข้อกฎหมาย พยานหลักฐานต่างๆ กระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะนำไปสู่การยุบพรรคได้ หวังว่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ แต่ด้วยความที่เป็นคดีสำคัญและเป็นคดีความที่สังคมเองก็จับตามอง เพราะพรรคก้าวไกลในปีพ.ศ.นี้เป็นพรรคที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในสภาได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนกว่า 14 ล้านคน ดังนั้นการที่พรรคการเมืองถูกยุบง่ายๆ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมไทยอยากเห็น สังคมไทยเห็นการยุบพรรคมามากมายพอแล้ว และพบแต่เรื่องความขัดแย้งใหม่ การยุบพรรคการเมืองควรหมดไปได้แล้วจาก พ.ศ.นี้ จึงคาดหวังวันที่ 7 ส.ค.นี้ จะเป็นวันที่สังคมไทยจะไม่มีการยุบพรรคอีกต่อไป

ส่วนการเตรียมพรรคสำรองหากกรณีศาลยุบพรรคก้าวไกลจริง และได้เช็กชื่อ สส. ของพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องการเตรียมเชื่อว่าเราสามารถดูได้จากพรรคการเมืองต่างๆ ที่เคยถูกยุบ รวมถึงพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไม่ใช่เรื่องที่ทุกฝ่ายคาดหมายได้ยาก ว่าเราต้องจัดการอย่างไร แต่สิ่งสำคัญที่พรรคก้าวไกลอยากบอกสังคมคือการยุบพรรคไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะพรรคการเมืองเกิดขึ้นได้มีสิทธิ์มีเสียง เพราะประชาชนให้การสนับสนุน ดังนั้นหากพรรคการเมืองถูกทำลายลงไม่สามารถมีพื้นที่ต่อไปในสังคมหรือในวงการการเมืองได้ก็ควรจะมาจากการที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ขอให้การยุบพรรคเกิดขึ้นโดยประชาชน


“การยุบพรรคโดยกระบวนการศาลสำหรับผมใน พ.ศ.นี้ควรจะหมดไปได้แล้ว เราควรที่จะให้ประชาชนเป็นคนวินิจฉัยเองว่านโยบายแบบไหน พรรคการเมืองแบบไหน ที่เขาต้องการ” นายรังสิมันต์ กล่าว

สำหรับกรณีที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความพร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นแค่การพูดถึงความพร้อมทั่วไป เท่านั้นแต่เบื้องต้นวันที่ 7 ส.ค.นี้อยากให้สังคมโฟกัส ว่าไม่ควรมีการยุบพรรคอีกแล้ว

“วันนี้การยุบพรรคยังมาไม่ถึง แต่ทุกคนพูดเหมือนกับว่าพรรคจะต้องถูกยุบแน่ ยังไงก้าวไกลก็คงต้องถูกยุบแน่นอน ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจอยากให้เป็นแบบนี้ สุดท้ายการทำงานการเมืองอยู่บนพื้นฐานความกลัวการทำนโยบายต่างๆ ไม่สามารถทำได้เต็มที่ สุดท้ายนโยบายหลายอย่าง ต้องไปดูข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย ไม่ใช่ทำนโยบายต่างๆ ได้ ต้องทำทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนและกระบวนการเมื่อศาลมีคำวินิจฉัยให้หยุดการกระทำแล้วก็ไม่มีการกระทำใดที่บอกได้ว่าเรามีการกระทำใดเพิ่มเติมที่นำไปสู่การยุบพรรค เราไม่ได้ละเมิดกฎหมายใดๆ เมื่อไปดูกระบวนการของกกต. ก็มีปัญหาจริงๆแต่วันนี้สังคมมาโฟกัสก้าวไกลถูกยุบ เราเองอาจจะโฟกัสก้าวไกลถูกยุบจนลืมไปว่ามีการใช้อำนาจวิธีการบางอย่างที่อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า แล้วทำให้บุคคลเหล่านี้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย อยากให้สังคมช่วยกันโฟกัสและช่วยกันไปดู ว่ากระบวนการที่กกต. ทำไปถูกต้องหรือไม่เรารับฟังสิ่งที่นายชัยธวัชแถลง ต่อสื่อมวลชนและมีอัพเดทมาเป็นระยะ โดยคำถามที่สำคัญคือกระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมายให้ความเป็นธรรมกับเราในฐานะพรรคการเมืองและให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่เลือกตั้ง 14 ล้านเสียงหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ยังมั่นใจในข้อกฎหมายและเพื่อน สส.ก้าวไกลที่จะอยู่กับพรรคต่อทุกคน ส่วนในเดือนสิงหาคมที่มีหลายคดี จะมีแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่ากรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตนในฐานะพรรคฝ่ายค้านไม่สนับสนุนให้เป็นนายกฯ แต่เมื่อเป็นแล้ว จะสิ้นสุดความเป็นนายกฯ ก็ไม่ควรเป็นโดยกลไกที่ใช้ศาล ซึ่งกรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสม ด้วยข้อครหาที่เกิดขึ้น แต่จะถึงขนาดว่านายกรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้เลยหรือไม่ ก็อาจจะเกินไป ตนยังคิดว่าสุดท้ายควรใช้กระบวนการทางการเมือง เมื่อตั้งคนที่ไม่เหมาะสมไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอเป็นรัฐมนตรีประชาชนก็ควรที่จะได้สิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์และมีมาตรการทางการเมืองตามมา ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

ส่วนความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเดือนสิงหาคมและมีสมการของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาเกี่ยวข้องนั้น นายรังสิมันต์โรมกล่าวว่า การเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทุกช่วง เราก็เห็นว่าสุดท้ายนายทักษิณไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลาน แต่เข้ามามีบทบาททางการเมือง มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วไม่ทราบว่าสุดท้ายจะไปสุดที่ตรงไหน ทั้งนี้เห็นว่าพระอาทิตย์มีดวงเดียว ถ้าจะมีพระอาทิตย์ 2 ดวงก็ไม่รู้จะอยู่กันยังไง มันเป็นความยากที่รัฐบาลเศรษฐาต้องบริหารจัดการ เพราะความยากตรงนี้หมายถึงบรรดาข้าราชการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้รัฐบาลนี้ควรต้องคิดแล้วว่าต้องฟังใคร จะมองไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้าหรือมองไปที่คำสั่งของนายเศรษฐาเราไม่รู้ว่าตอนนี้ใครมีอำนาจที่แท้จริงในรัฐบาลชุดนี้ .-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย