นครราชสีมา 29 ก.ค.-“สุวัจน์” ยันแกนนำรัฐบาลพบ “ทักษิณ” ที่เขาใหญ่ ไม่มีนัยทางการเมืองและไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ บอก รัฐกำลังเร่งฟื้นฟูทั้งแจกเงินดิจิทัลและดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ คาดปลายปีนี้ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาประเทศของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ว่า ตอนนี้จะต้องเร่งรัดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของเรายังไม่โตตามเป้าหมาย การกระตุ้นและสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้จะต้องสร้างกำลังซื้อ สร้างกิจกรรมเศรษฐกิจภายใน ตนคิดว่าเรื่องที่จะช่วยได้ คือ
- เรื่องงบประมาณแผ่นดิน ทั้งปี 2567-2568 ถ้าเร่งรัดใช้ปี 2567 และเร่งของปี 2568 ให้สามารถดำเนินการให้รวดเร็วได้ เม็ดเงินจำนวน 3 ล้านล้านกว่าบาท จะมาช่วยเศรษฐกิจได้
- โครงการที่รัฐบาลทำดิจิทัลวอเล็ตอีก 4-5 แสนล้านบาทก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนเอามาใช้จ่าย
ฉะนั้น โดยภาพรวมวันนี้นอกจากจะต้องปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศให้เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบันแล้ว เฉพาะหน้าต้องลงมากระตุ้นเศรษฐกิจกันทั้งเงินของภาครัฐและเงินภาคประชาชน คาดว่าประมาณปลายปีนี้น่าจะเห็นการขยับเขยื้อนตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ
ที่สำคัญตอนนี้ คือ ต้องเร่งโปรโมทเรื่องการท่องเที่ยว ต้องทุ่มเทเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา ต้องเอาให้ได้ 40 ล้านคน เพราะการท่องเที่ยวจะเป็นตัวช่วยพี่น้องประชาชนได้เร็วที่สุด ฉะนั้น ต้องปรับแผนเร่งรัดเอาเรื่องการท่องเที่ยวมาช่วยวิกฤติเศรษฐกิจ
ส่วนประเด็นปฏิญญาเขาใหญ่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ ไม่มีนัยยะทางการเมือง ตามที่เป็นข่าว เป็นการคาดการณ์ เป็นการวิเคราะห์แต่ว่าเนื้อหาจริงๆ เท่าที่ผมอยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีอะไรอย่างงั้น ไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่เรื่องการบ้าน เรื่องครอบครัว เรื่องลูกน้องกับท่านอะไรอย่างนั้น
“ท่านทักษิณบอกว่าไม่ได้มาเขาใหญ่ 20 ปีแล้ว คุณอุ๊งอิ๊งก็เชิญคุณพ่อก็มาเที่ยวกับครอบครัวลูกหลาน ท่านอนุทิน ก็เลยเชิญท่านทักษิณมาเที่ยวที่สนามกอล์ฟ และเชิญผมไปร่วมงานด้วย เป็นบรรยากาศของท่านมาเที่ยวเขาใหญ่ ผมหรือท่านอนุทิน เป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมรัฐบาลท่านก็เหมือนท่านมาเจอลูกน้องเก่า มาเจอพี่น้องประชาชนที่ไปต้อนรับบ้าง แต่สําคัญสุด เหมือนใช้ช่วงวันหยุดกับครอบครัว ไม่ได้มีนัยยะทางการเมือง ไม่ได้มีปฏิญญาเขาใหญ่” นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องหน้าตาของ สว.ตอนนี้ออกมาแล้ว รวมทั้งเสถียรภาพของรัฐบาลต่อนี้ไปจะมั่นคงไปครบเทอม ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เรามีระบบการได้มา สว.ลักษณะนี้ ตาม รธน.ใหม่ ฉะนั้น อาจจะเป็นอะไรที่เราไม่มีประสบการณ์กับรูปแบบในการได้ สว.แบบนี้ ก็หลากหลายอาชีพ 20 อาชีพตามเป้าหมาย แต่เสียดายที่ไม่ได้หลากหลายจังหวัด บางจังหวัดไม่มีตัวแทน คงจะต้องเป็นภารกิจหน้าที่ของ สว.ใหม่ทั้ง 200 คนว่า จะทำงานอย่างไรให้เป็นการพิสูจน์ว่าระบบซึ่งได้มาครั้งนี้สามารถที่จะสร้างแนวคิดวิธีการใหม่ๆในการทำหน้าที่ของ สว. ตนอยากฝากให้ท่านได้ดูแลในจังหวัดหลายๆ จังหวัดที่ยังไม่มี สว.เพราะทุกคนมาด้วยความถูกต้อง
สำหรับประเด็น เสถียรภาพของรัฐบาลนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ด้วยความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ เท่าที่ดูก็ยังไม่มีประเด็นอะไรที่จะเป็นร่องรอยว่ามีอะไรไม่เข้าใจหรือขัดแย้งกัน ยังมีความเรียบร้อย มีความสามัคคีกันอยู่ เรื่องเสียงในสภาฯ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ต้องดูศาลรัฐธรรมนูญด้วยในการตัดสินคดีที่สำคัญที่จะกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลขณะนี้ คือจะต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้ อันนั้นคือ โจทย์ใหญ่มากกว่าเสถียรภาพของรัฐบาล.-315 -สำนักข่าวไทย